เปิดขายในไทยตั้งแต่ต้นปีสำหรับ Mercedes-Benz E-Class เจนที่ 11 ได้ไม่นานมีการเพิ่มรุ่นมาอีกรุ่นนั่นคือ Mercedes-Benz E 350 e Exclusive
Mercedes-Benz E 350 e Exclusive ยนตรกรรมระดับไอคอนที่ผสานความเป็นเลิศในทุกด้าน กลับมาอีกครั้งของการออกแบบระดับตำนานโลโก้ “ดาวลอย” (MB logo on bonnet) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์รูปดาวสามแฉกอันโดดเด่นที่ติดตั้งอยู่บนฝากระโปรงหน้า
เจเนอเรชันที่ 11 รหัส W214 ผสมผสานกันระหว่างพี่ใหญ่ S-Class V223 และ C-Class W206 น้องเล็กผสานจนเกิดเป็นความหล่อลงตัวด้วยกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมดีไซน์ลักชัวรีอันเป็นเอกลักษณ์ประกบกับไฟหน้า มาพร้อมไฟหน้า LED high-performance ทำงานร่วมกับระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist ทรงสวยแบบทรงปีก
ที่เปิดประตูดีไซน์ซ่อนรูปเนียนกับตัวรถ ด้านข้างดีไซน์หลังคารถความโค้งมนอย่างลงตัว ไฟท้าย LED ที่สวยงามกับไส้ในเป็นตราดาวสามแฉกหรือจะเรียกว่าเป็นไฟท้ายเบนซ์ก็ว่าได้พร้อมกันชนหลังดีไซน์เท่ กรอบท่อไอเสียคู่ 2 ฝั่ง ดีไซน์การออกแบบรอบคันด้วย Exclusive Bodystyling เน้นรายละเอียดรอบคันอย่างพิถีพิถัน และ ล้ออัลลอย 5-spoke light-alloy ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางหน้า 245/40R19 และยางหลัง 275/35R19
ตัวรถใหญ่ขึ้นตั้งแต่ความยาว 4,950 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,880 มิลลิเมตร ความสูง 1,461 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,961 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 2,210 มิลลิเมตร และความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร
ภายในโดดเด่นด้วย Exclusive Interior Package ที่นำเสนอดีไซน์สุดหรูครั้งแรกกับเบาะหนังสีเบจ ช่วยเติมเต็มบรรยากาศแห่งความลักชัวรีอย่างลงตัวและยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่จะช่วยยกระดับความสะดวกสบายไปอีกขั้น อาทิ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขับขี่และควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ได้อย่างง่ายดายระบบปรับอากาศแบบแยก 2 โซน ระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เทคโนโลยี ENERGIZING AIR CONTROL พร้อม HEPA Filter สามารถกรองอากาศและรักษาความสดชื่นภายในห้องโดยสารตลอดการเดินทาง และฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่พร้อมจะมอบความสะดวกสบายอันเหนือระดับไว้อย่างเต็มพิกัด
มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการหน้าจอรูปแบบใหม่ MBUX รุ่นที่ 3 (3rd generation) โดยสามารถเรียนรู้ผู้ใช้งานได้ด้วยระบบ AI (artificial intelligence) MBUX สามารถรับรู้ได้ว่าใครกำลังใช้งานและปรับระบบต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานในขณะนั้น รวมถึงประเมินสถานการณ์ต่างๆ เพื่อสร้างการเชื่อมต่อระหว่างระบบกับผู้โดยสารและผู้ขับขี่ ให้บรรยากาศขณะเดินทางเต็มไปด้วยความรื่นรมย์ขนาดใหญ่พิเศษ 14.4 นิ้ว
ทั้งยังมอบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วย infotainment Magic Triangle ที่ผสมผสาน Hardware, Connectivity, และ Data, Content เข้าด้วยกัน ทำให้ MBUX รุ่นที่ 3 สามารถเพิ่มแอปพลิเคชันต่าง ๆ ภายในรถและรับชมสื่อได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น Video, Audio, Messaging, Productivity และ Games ผ่านหน้าจอหลักและหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า
ในส่วนของเทคโนโลยีและระบบความบันเทิงนั้นจัดมาให้แบบเต็มพิกัดไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งระบบ MBUX Augmented Reality สําหรับแผนที่นําทาง ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charging) และยังสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือทั้ง iOS และ Android (Apple CarPlay™ & Android Auto) ให้การฟังเพลงเป็นไปอย่างเพลิดเพลิน และไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร Ambient Lighting สามารถปรับเปลี่ยนสีได้ 64 เฉดสี ที่จะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศห้องโดยสารได้ในทุกมิติ โดยมีความจุสัมภาระท้าย 370 ลิตร
ขุมพลังเบนซิน Plug In Hybrid ในรุ่น E350 e กับเบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร รหัส M254 ให้กำลังในภาคเครื่องยนต์ 204 แรงม้าที่ 6,100 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูง 320 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 129 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังมากถึง 313 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Steering – wheel Gearshift Paddles ความเร็วสูงสุด 236 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.4 วินาที วิ่งไกลสุดมากกว่า 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP
สามารถชาร์จได้ทั้ง AC กระแสสลับ 11 kW 0-100% ภายใน 2.30 ชั่วโมง และ DC กระแสตรง 55 kW 0-100% ในเวลา 30 นาที พร้อมความจุแบตเตอรี่ขนาด 25.4 kWh ให้ความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้า 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วงล่างเป็นแบบอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าเป็น 4-Link ด้านหลังเป็น 5-Link และความปลอดภัยรอบคันล้ำหน้าไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist)
- ช่วยเบรกอัตโนมัติ (Active Brake Assist)
- รักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist DISTRONIC)
- ช่วยการนํารถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist with PARKTRONIC)
- รักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
พร้อมระบบความปลอดภัยพื้นฐานทั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน 10 จุด (ด้านหน้า 2 ตําแหน่ง ด้านข้าง 2 ตำแหน่งด้านหน้า ม่านนิรภัย 4 ตำแหน่ง บริเวณหัวเข่าผู้ขับขี่ 1 ตำแหน่ง และระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า 1 ตำแหน่ง) สัญญาณเตือนเข็มขัดนิรภัยบนหน้าจอสําหรับผู้โดยสารด้านหลัง (Rear belt status) โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program)
เบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system) เบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill-Start Assist ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน (Adaptive Brake Light) เตือนเพื่อนํารถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST service interval indicator) เตือนแรงดันลมยาง (tire pressure loss warning system) ช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ Active Parking Assist with PARKTRONIC ตัดการทํางานของถุงลมนิรภัยสําหรับผู้โดยสารด้านหน้าอัตโนมัติ กล้องมองภาพรอบคัน
Mercedes-Benz E 350 e Exclusive มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว (Polar White) สีดำ (Obsidian Black) สีน้ำเงิน (Nautic Blue) และสีเทา (Graphite Grey) ในราคาจำหน่าย 3,650,000 บาท