หลังจากที่ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ส่งสูตรมารเก็ตติ้งสคูลหรือการตลาดสไตล์ตรีเพชรให้กัทาง ISUZU UTE จนประสบความสำเร็จกับ ISUZU D-MAX และ ISUZU MU-X
ล่าสุด ISUZU UTE ผู้จำหน่าย ISUZU D-MAX และ ISUZU MU-X เผยยอดขายตลอดปี 2024 ทั้ง 2 รุ่นทำยอดได้ถึง 48,172 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2023 ถึง 6.2%
เป็นอันดับที่ 8 ขยับขึ้นจากปี 2023 (ปี 2023 อยู่อันดับที่ 10 และปี 2022 อยู่อันดับที่ 9) มีส่วนแบ่งทางการตลาด 3.9% จากยอดขายรถยนต์รวมตลอดปี 2024 ทำได้ 1,237,287 คัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.7% (ปี 2023 ทำยอดรวมได้ 1,216,780 คัน)
โดยยอดขายรวม 48,172 คันมาจาก ISUZU D-MAX ขายได้ 30,194 คัน ลดลงจากปี 2023 อยู่ที่ 3.2% (ปี 2023 ทำยอดรวมได้ 31,302 คัน) นับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่ยอดขายสะสมแต่ระดับ 30,000 คัน เป็นอันดับที่ 4 ของรุ่นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดของออสเตรเลียเป็นรอง Ford Ranger 62,593 คัน, Toyota RAV4 58,718 คัน และ Toyota HILUX 53,499 คันตามลำดับ
ยอดขาย D-MAX 30,194 คันแบ่งเป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อขายได้ 24,031 คัน ลดลง 5.5% เป็นอันดับที่ 3 ของยอดขายกลุ่มรถปิกอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ และ 6,163 คัน เพิ่มขึ้น 6.4% เป็นอันดับที่ 2 ของยอดขายกลุ่มรถปิกอัพขับเคลื่อน 2 ล้อ
นอกจากนี้รถเอสยูวี 7 ที่นั่ง ISUZU MU-X (เมืองไทยเรียกว่า PPV) ทำยอดขายได้ 17,978 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2023 ถึง 27.2% (ปี 2023 ทำยอดรวมได้ 14,139 คัน) เป็นอันดับที่ 2 ของยอดขายกลุ่มรถเอสยูวีขนาดใหญ่ค่าตัวต่ำกว่า $80,000 ตามหลัง Ford Everest 26,494 คัน และเหนือกว่า Subaru Outback 10,227 คัน ท่ามกลางส่งมอบของ Toyota Land Cruiser Prado เจนใหม่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้านั่นเอง
นับเป็นปีทองอีกปีของ ISUZU UTE กว่าจะประสบความสำเร็จมาตลอด 17 ปี ผ่านอุปสรรคมามากมายไม่ใช่เรื่องง่ายผสมกับการทำงานอย่างหนักของพวกเราส่งผลให้การส่งมอบรถถึงมือลูกค้าทันกำหนดด้วยปริมาณสต็อกรถที่เพียงพอต่อการจำหน่ายของตัวแทนในแต่ละพื้นที่ส่งผลให้ยอดขายดีขึ้นโดยเตรียมเปิดตัว ISUZU MU-X รุ่นปรับโฉมพร้อมรุ่นใหม่ XT แต่งเข้สไตล์ RS ไทยในเเดือนกุมภาพันธ์
ทางด้านเมืองไทยตลอดปี 2024 ทำยอดขายไม่ถึง 600,000 คันทำได้เพียง 578,201 คัน ลดลงจากปี 2023 ถึง 25.5% แบ่งเป็นตลาดรถยนต์นั่งรวมเอสยูวีทำได้ 359,921 คัน ส่วนตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ทำได้ 218,280 คัน ทางด้านเดือนธันวาคม 2024 ทำได้ 58,305 คัน ลดลงจากปี 2023 ถึง 14.7% แบ่งเป็นตลาดรถยนต์นั่งรวมเอสยูวีทำได้ 37,960 คัน ส่วนตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ (รถปิกอัพ รถพีพีวี และรถบรรทุก) ทำได้ 20,345 คัน
สำหรับ ISUZU เองตลอดปี 2024 ทำยอดขายรวมได้ 85,582 คัน เป็นอันดับที่ 2 ของยอดขายรวม ลดลงจากปี 2023 ถึง 43.7% แบ่งเป็นรถปิกอัพ 61,580 คัน ส่วนแบ่งตลาด 37.7% ลดลงจากปี 2023 ถึง 46.7% จากยอดขายรถปิกอัพ 163,310 คัน ลดลงจากปี 2023 อยู่ที่ 38.3% อยู่อันดับที่ 2
ทางด้านตลาดรถพีพีวีทำได้ 13,014 คัน ส่วนแบ่งตลาด 35.3% ลดลงจากปี 2023 ถึง 37.6% กอดคอครองอันดับ 1 ร่วมกับ Toyota ด้วยตัวเลขและส่วนแบ่งเท่ากัน จากยอดขายรวม 36,844 คัน ลดลง 38.9% และรถบรรทุก 10,988 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 60.6% จากยอดขายรวม 18,126 คัน ครองอันดับที่ 1
ทางด้านเดือนธันวาคม 2024 ทำยอดขายรวมได้ 8,153 คัน เป็นอันดับที่ 2 ของยอดขายรวม ลดลงจากปี 2023 ถึง 20.6% แบ่งเป็นรถปิกอัพ 5,434 คัน ส่วนแบ่งตลาด 37.8% ลดลง 30.1% จากยอดขายรถปิกอัพ 14,373 คัน ลดลง 26.5% อยู่อันดับที่ 2 ทางด้านตลาดรถพีพีวีทำได้ 1,893 คัน ส่วนแบ่งตลาด 42.1% ลดลง 43.4% กลับมาเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มรถพีพีวีอีกครั้งหลังเสียแชมป์เมื่อเดือนพฤศิจกายน 2024 จากยอดขายรวม 4,495 คัน ลดลง 0.3% และรถบรรทุก 826 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 55.9% จากยอดขายรวม 1,477 คัน ครองอันดับที่ 1 ในกลุ่มรถบรรทุก
