ตลาดรถยนต์นั่ง Mazda ให้ความสำคัญไม่แพ้เอสยูวีแม้จะหยุดขาย Mazda 6 บางประเทศเพื่อหลีกทางให้ Mazda 6e รับช่วงต่อ และ Mazda 2 เจนใหม่ก็จะมาด้วย
ล่าสุดความเคลื่อนไหวของ Mazda 2 เจเนอเรชันที่ 5 เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเว็บรถยนต์จากญี่ปุ่นรายงานว่าเตรียมที่จะเปิดตัวให้ทั่วโลกได้เห็นกันแน่นอนและเป็นการเปลี่ยนโมเดลครั้งแรกในรอบ 11 ปี
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คาดว่าเป็นการเปลี่ยนครั้งใหญ่ของกลุ่มรถยนต์นั่งเปลี่ยนแปลงดีไซน์การออกแบบทั้งภายนอกและภายในและเทคโนโลยีความปลอดภัยรวมถึงระบบส่งกำลังที่ปรับปรุงใหม่นำมาใช้ในคันนี้โดยมีแนวทางการออกแบบ KODO Design รูปแบบใหม่ตั้งแต่ กระจังหน้า Signature Wing ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และปรับระดับแบบอัตโนมัติ
กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวไฟท้าย LED เสาอากาศครีบฉลาม ปลายท่อไอเสียขัดเงา ล้ออัลลอยลายใหม่ตั้งแต่ขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/65 R15 และขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 185/60 R16 พร้อมขนาดใหญ่ 17 นิ้ว ด้วยเส้นสายการออกแบบที่อาจต่างจากเดิม
ภายในมาพร้อมออปชันทันสมัยทั้งเบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้าทำงานร่วมกับระบบบันทึกความจำ 2 ตำแหน่ง พนักพิงเบาะด้านหลังสามารถแยกปรับและพับแบบ 60:40 ระบบความบันเทิง Mazda Connect รองรับ Apple Carplay และ Android Auto บนจอสัมผัสขนาดใหญ่ มีที่ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันพร้อม Paddle Shift กุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry) พร้อม Push Start ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้าหรือ Head Up Display และกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
ขุมพลังเบนซินขนาดใหญ่ 1.5 ลิตร SKYACTIV-G รหัส P5-VPS ให้กำลังสูงสุด 112 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาทีในรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด SKYACTIV-MT และ 110 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE พร้อมโหมด ACTIVEMATIC
ดีเซลเทอร์โบ SKYACTIV-D รหัส S5-DPTS 1.5 ลิตร 105 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE 6 สปีดและแรงบิด 220 นิวตันเมตรที่ 1,400-3,200 รอบต่อนาที ในรุ่นเกียร์ธรรมดา SKYACTIV-MT 6 สปีด
ซึ่งขุมพลังที่กล่าวมานั้นจะพัฒนาใหม่ทั้งแรงม้าและแรงบิดรวมถึงเบนซินจะทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid 48 V จากพื้นฐานเบนซิน 1.5 SKYACTIV-G ที่ให้ความประหยัดมากกว่า 20 กิโลเมตรต่อลิตรตามมาตรฐาน WLTC
ส่วนขุมพลังโรตารีอาจยกมาจาก Mazda MX-30 Rotary EV แบบ Plug In Hybrid ใช้เครื่องยนต์เป็นเครื่องปั่นไฟและให้มอเตอร์ไฟฟ้ากับแบตเตอรี่ใช้ในการขับเคลื่อนเกิดประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมและสมรรถนะการขับขี่ที่ดีจากขุมพลังเบนซินรหัส C8 830 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้าที่ 4,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 112 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที
พร้อมระบบฉีดตรง Direct Injection อัตรากำลังอัดสูงถึง 11.9:1 มีถังน้ำมันความจุ 50 ลิตร ติดตั้งไว้ด้านหน้าของเพลาล้อหลังวิ่งได้ไกลกว่า 600 กิโลเมตร สำหรับโหมดทำงานร่วมกัน ทางด้านมอเตอร์ไฟฟ้ากับความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 17.8 kWh ติดตั้งอยู่ที่ใต้ท้องรถให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตันเมตร
ถ้าวิ่งโหมดอีวีอย่างเดียวสามารถวิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 107 กิโลเมตร สามารถชาร์จได้ทั้งแบบกระแสตรง DC และกระแสสลับ AC พร้อมการขับขี่เลือกได้สามโหมดทั้งโหมด ปกติ Normal, โหมดชาร์จ Charge โหมดอีวี EV
พร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ช่วยให้ควบคุมแรงบิดเครื่องยนต์เพื่อความแม่นยำในการถ่ายทอดกำลังลงล้อ ส่งผลให้การขับขี่ทางโค้งราบรื่นและความปลอดภัย i-ACTIVESENSE ครบครัน เบื่องต้นการเปิดตัว Mazda 2 เจนใหม่จะเปิดตัวในตุลาคมนี้ซึ่งจะเป็นจริงหรือไม่ต้องติดตาม
ที่มา Car-Repo