ปีนี้ Hyundai พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวรถใหม่ตระกูล N-Line ถึง 2 รุ่นนอกจาก Hyundai KONA N-Line แล้วยังเปิดตัว Hyundai CRETA N-Line
Hyundai CRETA N-Line ดัดแปลงจากรุ่นปกติเปิดตัวพร้อมกันด้วยหน้าใหม่คล้ายกับรุ่น CRETA Electric เริ่มที่
ฝากระโปรงหน้าสูงและแบนราบกว่าเดิม ด้วยกระจังหน้า สีดำลายเกล็ดแบบพาราเมทริก pixelated graphic มีโลโก้ขนาดใหญ่ ติดตั้งชุดไฟ Horizon LED ยาวทั้งแผงมีทั้งไฟส่องเวลากลางวัน DRL และไฟเลี้ยวแบบวิ่งหรือ sequential ส่วนด้านล่างมีไฟหน้าหลัก Quad Bean LED ทั้งสองฝั่ง พร้อมไฟเลี้ยวแบบวิ่งเช่นเดียวกับด้านหน้า เสริมคิ้วสีเงินทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่กันช่องระบายอากาศ
หลังคารถมาในโทนสีดำเสริมภาพลักษณ์คมเข้มและคล่องแคล่วยกระดับความมั่นใจในการขับขี่ ราวหลังคาสีดำ ด้านข้างเสริมความเข้มด้วยคิ้วหลังคา C-pillar พาโนรามิคซันรูฟควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว มือจับประตูแบบยกก้านสีเดียวกับตัวรถ ไฟท้าย LED แบบตัวยูคว่ำยาวทั้งแผง กันชนหลังออกแบบใหม่เสริมคิ้วทรงเหลี่ยมสีเงินเสริมเท่ ล้ออัลลอยลายพิเศษขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/60 R18 และสัญลักษณ์ N Line
ภายในใหม่หมดตั้งแต่ดีไซน์แผงคอนโซลหน้าหุ้มหนังสัมผัสมีจอคู่แบบไม่ลอยตัวทั้งขนาด 8 นิ้ว และ 10.25 นิ้วทั้งฝั่งมาตรวัดความเร็วดิจิทัลและจอสัมผัสระบบความบันเทิง ช่องแอร์ฝั่งคนนั่งที่ยาวขึ้น มีช่องแอร์ตรงกลางดีไซน์แนวนอน ปุ่มการทำงานออกแบบใหม่ พร้อมเส้นไฟเรืองแสงภายในห้องโดยสาร Ambient Light สีส้ม เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto hold ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย
พื้นที่สัมภาระท้ายขนาด 416 ลิตร เมื่อพับเบาะหลัง 60/40 จะมีพื้นที่มากขึ้น 1,384 ลิตรและพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านดีไซน์ล้ำ ติดตั้งเครื่องเสียง BOSE ช่องลำโพงแบบสามมิติ ตกแต่งเข้มด้วยโทนสีดำเดินด้ายแดงและไฟสร้างบรรยากาศภายใน Ambient Light สีแดง และเบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำเดินด้ายแดงติดโลโก้ N ลวดลายพิเศษพรีเมี่ยมและร่วมสมัย
ขุมพลังที่จะทำตลาดในไทยไม่ใช่เบนซินเทอร์โบ Smartstream GDI ขนาด 1.5 ลิตร มอบพละกำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 253 นิวตันเมตรที่ 1,500-3,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด
ยังเป็นเบนซิน Smartstream 1.5 ลิตร MPI รหัส G4FL 4 สูบ 16 วาล์ว มอบพละกำลังสูงสุด 115 แรงม้าที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิด 144 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ในชื่อ IVT Hyundai’s Intelligent Variable Transmission
พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 แบบ คือ อีโค Eco, นอมอล Normal, สปอร์ต Sport พร้อมโหมด Traction Control ให้เลือกตามแต่ละสภาพถนนได้แก่โหมดบนทราย (Sand), หิมะ (Snow) และโคลน (Mud) พร้อมระบบความปลอดภัยอัฉริยะภายใต้ Hyundai SmartSense ADAS Level 2 ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก Forward Collision-Avoidance Assist Junction Turning Function (FCA-JT)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Smart Cruise Control with Stop & Go
- เตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind-spot Collision – Avoidance Assist (BCA)
- กล้องมองภาพจุดอับสายตา Blind-spot view monitor (BVM)
- เตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ Rear Cross – Traffic Collision – Avoidance Assist (RCCA)
- ช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision – Avoidance Assist (FCA)
- ช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Sport Collision Avoidance Assist (BCA)
- ช่วยควบคุมให้รถอยู่ในเลน Lane Keeping Assist (LKA)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane Following Assist (LFA)
- ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist (HBA)
- เตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งสวนมา Safe Exit Warning (SEW)
- เตือนอาการเหนื่อยล้าในการขับขี่ Driver Attention Warning (DAW)
- แจ้งเตือนให้เช็คผู้โดยสารด้านหลัง Safe Exit Warning (SEW)
- ช่วยจำกัดความเร็ว MSLA
พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้งถุงลมนิรภัย 6 จุดรอบคัน ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมเบรก Anti-lock Brake System (ABS) วัดค่าลมยาง 4 ล้อ Tire Pressure Monitoring System (TPMS) ควบคุมการทรงตัว Electronic Stability Control (ESC) เสริมแรงเบรก Brake Assistant System (BAS) ควบคุมการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill-Start Assist Control (HAC) ควบคุมการทรงตัว Vehicle Stability Management (VSM) ไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ Emergency Stop Signal (ESS) และกล้องมองหลังแสดงภาพขณะถอยจอด
Hyundai CRETA N-Line ประกอบที่ PT Hyundai Motor Manufacturing Indonesia (HMMI) ตั้งอยู่ในเมืองซิการัง เขตเบกาซี จังหวัดชวา เตรียมเปิดตัวและราคาจำหน่ายที่งาน Motor Show 2025
