จากต้นแบบ Toyota Compact Cruiser EV เมื่อ 3 ปีก่อนจนแฟนๆรอคอยและล่าสุดมีข้อมูลของสายลุยรุ่นใหม่อย่าง Toyota Land Cruiser FJ
Toyota Land Cruiser FJ เอสยูวีทรงกล่องแน่นอนว่าใช้พื้นฐานของ IMV Ladder Frame ที่ใช้ใน Toyota Hilux Champ และ Toyota Hilux REVO
ดีไซน์แบบรถทรงกล่อง Boxy หน้าตาไม่ต่างจาก Toyota Land Cruiser Prado หรือ Toyota Land Cruiser 250 เริ่มที่กระจังหน้าดีไซน์ย้อนยุคด้วยโลโก้ตัวหนังสือ Toyota แทนโลโก้สามห่วง ประกบกับไฟหน้า LED 3 ดวงทันสมัย ส่วนขอบบนเป็นไฟ DRL แบบ LED
หรือแบบทรงกลม Bi-Beam LED แบบ Bi-PES type พร้อมไฟ DRL ล้อมกรอบ พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ในชุดกันชนหน้าทูโทน ชวนให้นึกถึงรุ่น Land Cruiser 70 รับกับฝากระโปรงหน้าที่ช่องดักอากาศแบบขึ้นรูป พร้อมกันชนหน้าทรงเท่
ด้านข้างเด่นด้วยเสา C ปิดทึบหลังคาทรงกล่องที่ลากยาวไปถึงฝาท้าย คิ้วขอบล้อสีดำดีไซน์โหด มาพร้อมล้ออัลลอยขนาดใหญ่ดีไซน์ดุดันถึงใจขาลุย และด้านท้ายมาพร้อมโลโก้ตัวอักษร Toyota ประดับด้วยไฟท้าย LED เสริมด้วยกันชนหน้าติดตั้งการ์ดสีเงินขนาดใหญ่เด่นสง่าทุกมิติ
ภายในมาแบบ 5 ที่นั่ง มาตรวัดเรืองแสงใหม่พร้อมจอ MID หน้าจอสัมผัสเชื่อมต่อทั้ง Apple Car Play ไร้สาย และ Android Auto ไร้สาย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน และเบาะนั่งหน้าทรงใหม่ปรับสูง-ต่ำได้ในฝั่งคนขับและเบาะหลังพับได้แบบ 60/40
และล่าสุดทาง Best Car แชแนลทาง Youtube รายงานว่าขุมพลังจะมีด้วยกันถึง 2 ขนาดตั้งแต่เบนซิน DUAL VVT-i รหัส 2TR-FE ขนาด 2.7 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 166 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิด 245 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาทีพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบ Sequential Shift
และยังมีดีเซลเทอร์โบแปรผัน 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร Mid Power 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600–2,800 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Direct Shift
หรือขุมพลัง Low Power 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตรที่ 1,400–3,400 รอบต่อนาที กับเกียร์อัตโนมัติ พร้อมระบบ Sequential Shift และ Paddle Shift 6 สปีด มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่คาดว่าจะมาแบบ 4 ล้อ Part Time แบบ Shift-On-The-Fly ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบ A-TRC และระบบเฟืองท้าย Diff-Lock ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full Time ที่มีระบบ Multi-Terrain Select ตรวจพื้นถนนโดยมีโหมดลุยประกอบด้วย Auto, Dirt, Sand, Mud, Deep Snow และ Rock และ Crawl Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติบนเส้นทางโหด
พร้อมระบบเพืองท้ายกลางแบบ TORSEN LSD ที่ช่วยกระจายแรงบิด ระหว่างล้อหน้าและหลัง ให้สัมพันธ์กับสภาวะในการขับขี่โดยอัตโนมัติ เพื่อการทรงตัวและการยึดเกาะถนนดีเยี่ยม และโหมดการขับขี่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่และลุยเร้าใจ ลุยทุกรูปแบบตั้งแต่มุมจาก Departure Angle 23 องศา และมุมคร่อม break-over angle 26 องศา สามารถลุยน้ำได้สูงสุด 700 มิลลิเมตร
ขนาดตัวรถตั้งแต่ความยาว 4,500 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,830 มิลลิเมตร ความสูง 1,850 มิลลิเมตร โดยมีฐานล้อขนาด 2,750 มิลลิเมตร ใกล้เคียงกับมิติของ Toyota Corolla Cross
ด้านสื่อออสเตรเลียอย่าง CarSales ได้เคยรายงานเกี่ยวกับโดยรุ่นนี้ว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงของ GWM TANK 300 และ Suzuki Jimny เริ่มเข้าสู่การผลิตในเดือนพฤศจิกายน ขายครึ่งปีแรกของปี 2026 ที่ออสเตรเลีย และชาวไทยจะได้สัมผัสได้สัมผัสหรือไม่ต้องติดตาม
ที่มา BestCarTube และ CarSales
