Mazda CX-60 เตรียมมาไทยเมื่อปีกลายแต่ไม่มีวี่แวว ปีนี้มาสด้าเตรียมแนะนำรถใหม่ 5 รุ่นภายใน 3 ปี และสุดเซอร์ไพรส์กับ Mazda CX-60
โดย Mazda CX-60 ได้ปรากฎแบบงงๆในวีดีโอทีเซอร์ความยาว 1.26 นาที ในชื่อ THE TAKUMI TOUCH จากรายละเอียดที่เล็กที่สุด สู่ความสมบูรณ์ของทุกการขับเคลื่อนในทุกการออกแบบ
เอสยูวีไซซ์กลางทรงหรูหน้าตาสวยตามสไตล์ Kodo Design ตั้งแต่กระจังหน้าทรงซิกเนเจอร์วิงแนวเข้ม ไฟหน้า Projector แบบ LED กันชนหน้าทรงเท่คล้ายกับ CX-50 ผสมกับ BT-50 ชุดบังโคลนพร้อมดีไซน์ออกแบบด้วยชุดรังผึ้งส่วนล่างเป็นคิ้วสีดำปักชื่อ INLINE 6 หรือ PHEV
กระจกมองข้างทรงสปูน กรอบกระจกโครเมียม หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ไฟท้าย LED Signature รูปตัวซีแบบแยกคั่นกลางด้วยโลโก้ Mazda ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ท่อไอเสียคราวนี้มาในแบบท่อไอเสียคู่สองฝั่งซ่อนอยู่ใต้กันชนหลังและช่องลมข้างบังโคลนแบบโครเมียม ล้ออัลลอยมีทั้งขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/60 R18 กับล้อขนาดใหญ่ 20 นิ้ว พร้อมยาง 235/50R20
ตัวรถที่ขยายความยาวเป็น 4,740 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,890 มิลลิเมตร ความสูง 1,675-1,680 มิลลิเมตร ฐานล้อยาวขึ้น 2,870 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,921-2,139 กิโลกรัม ระยะต่ำสุดจากพื้น 180 มิลลิเมตร และความจุถังน้ำมัน 50,56 และ 58 ลิตร
ภายในหรูเทียบเท่ารถยุโรปพรีเมียมด้วยมาตรวัดดิจิทัล TFT-LCD 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมระบบ Mazda Connect infotainment รองรับ Apple Car Play ไร้สาย และ Android Auto ผ่านปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander พร้อมลำโพงคุณภาพ BOSE 12 จุด และจอแสดงการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า Windshield Active Driving Display ขนาดใหญ่กว่าถึง 3 เท่า
การตกแต่งมาแบบโทนสีใสๆ ด้วยโทนสีขาวหรือสีเทาอ่อน สดใส และสีเข้มด้วยการติดตั้งวัสดุคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นลายไม้เมเบิ้ล หรือ Mable Wood
วัสดุหุ้มหนังแท้ Nappa รวมถึงการใช้ผ้าทอแบบญี่ปุ่น และการตกแต่งโครเมียม โดยเป็นการตกแต่งภายในรูปแบบ “Musubu” โดยได้แรงบันดาลใจจากการเย็บเดินด้ายในชุดแผงมาตรวัดแบบประณีต และ รูปแบบดีไซน์ภายในภายใต้แนวคิด Kaichô หรือ ความกลมกลืนที่มาจากการผสมวัสดุและพื้นผิวที่แตกต่างกัน พร้อมพื้นที่การขนของมากถึง 477 ลิตร ในรุ่น PHEV กับ 570 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลังลงมีพื้นที่ถึง 1,726 ลิตร
ขุมพลังมีหลากหลายตามความเหมาะสมเริ่มที่ ขุมพลังสันดาปล้วน SKYACTIV ตั้งแต่ดีเซลล้วนเทอร์โบ 6 สูบแถวเรียง SKYACTIV-D 3.3 ลิตร รหัส V3-VPT ให้กำลัง 231 แรงม้าที่ 4,000-4,200 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,500-3,000 รอบต่อนาที กับ เบนซินล้วน SKYACTIV-G ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ รหัส PY-VPS กำลังสูงสุด 188 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที (สำหรับตลาดญี่ปุ่น)
ขุมพลัง e-SKYACTIV Mild Hybrid ที่มีทั้งดีเซลเทอร์โบ e-SKYACTIV D 3.3 ลิตร 6 สูบ รหัส T3-VPTH 254 แรงม้าที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิด 550 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,400 รอบต่อนาที เบนซินเทอร์โบ 6 สูบแถวเรียง e-SKYACTIV Turbocharged 3.3 ลิตร 6 สูบ 284 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 450 นิวตันเมตร 2,000-3,500 รอบต่อนาที (สำหรับตลาดทั่วโลก)
ทั้ง 2 ขนาดจับคู่กับระบบ M Hybrid Boost 48 V โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้า 17 แรงม้าที่ 900 รอบต่อนาที แรงบิด 153 นิวตันเมตรที่ 200 รอบต่อนาที พร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดเล็กสุด 0.33 kWh
ขุมพลัง Plug In Hybrid e-SKYACTIV มีเฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.5 ลิตร 4 สูบ PY-VPH 188 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาทีทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 175 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 270 นิวตันเมตรที่ 400 รอบต่อนาที แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีความจุ 17.8 kWh วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 61-63 กิโลเมตร และทำงานร่วมกันจะได้พลังมากถึง 327 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร
ทุกขนาดขุมพลังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE 8 สปีด เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ i-ACTIV AWD พร้อมระบบการขับขี่ Mazda Intelligent Drive Select (Mi-Drive) ที่เลือกได้ถึง 5 โหมดได้แก่ Namely Normal, Sport, Off-Road, Towing และ EV
มาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการทรงตัวขณะเข้าโค้ง KPC (Kinemetic Posture Control) เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะช่วยให้รถทำงานผสานกันอย่างมีประสิทธิภาพโดยที่ไม่เพิ่มน้ำหนักให้กับตัวรถ พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ จานเบรกหน้ามีขนาด 347 มิลลิเมตร และด้านหลัง 328 มิลลิเมตร ความปลอดภัยสุดล้ำ i-ACTIVSENSE อาทิ
- กล้องรอบคัน 360 องศา 360-degree View Monito
- แจ้งเตือนยานพาหนะขณะเปิดประตูรถ Vehicle Exit Warning
- ตีความป้ายจราจร Traffic Sign Recognition
- ช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance Advanced Smart City Brake Assist with pedestrian and cyclist detection and intersection function
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติสำหรับถอยหลัง Rear Emergency Brake Assist with pedestrian detection
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist with Steering Assist
- ตรวจจับภาวะหลับในขณะขับขี่ยานพาหนะ Drowsiness Detection
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Blind Spot Monitoring
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert
- ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ i-Adaptive Cruise Control
ออกตัวบนทางลาดชัน Hill Launch Assist ไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน Emergency Stop Signaling System และระบบการขับเคลื่อนไม่ทำงานชั่วคราว Unresponsive Driver Support
จับตา Mazda CX-60 จะเป็นรถใหม่ที่จะเปิดตัวก่อนหริอหลัง Mazda 6e ภายในปีนี้หรือไม่ต้องติดตาม ตามแผนกลยุทธ์ Multi-solution เพื่อสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BEV 2 รุ่น รถ PHEV 1 รุ่น และรถ HEV 2 รุ่น รวม 5 รุ่น ภายในปี 2025-2028 คาดรุ่นนี้มาไทยมีทั้ง PHEV และ MHEV ดีเซล