หลังจากเปิดตัวหน้าใหม่หน้าที่ 3 ไปครั้งนี้ตอบรับความต้องการของลูกค้าเปิดตัวหน้าใหม่ครั้งที่ 4 สำหรับ Mitsubishi XPANDER และ XPANDER Cross
หน้าตาใหม่สไตล์ Advance Dynamic Shield ด้วยกระจังหน้าสีเข้มติดตราทรีไดมอนด์สไตล์ใหม่ คิ้วใต้กันชนหน้าออกแบบใหม่พร้อมไฟตัดหมอกหน้าทรงกลมแบบ LED ไฟหน้ากรอบไฟหน้าใหม่สีดำ ด้านท้ายออกแบบกันชนหลังใหม่พร้อมไฟทับทิมสีแดงแนวนอนใหม่ในชุดคิ้วเสริมกันชนหลังใหม่และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 195/65R16 และขนาด ขนาด 17 นิ้ว 205/55 R17
ทางด้าน XPANDER CROSS ดุดันขึ้นด้วยกระจังหน้า การ์ดเสริมกันชนหน้าสไตล์ลุยพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED คิ้วชายล่างกันชนหน้าเป็นแบบช้่องเดียวแนวนอน คิ้วขอบล้อ คิ้วชายล่างทรงเดิม กันชนหลังใหม่เสริมครอบทับด้วยการ์ดเสริมพร้อมไฟทับทิมแนวนอนใหม่และล้อลายเฉพาะทูโทนขนาด 17 นิ้ว
มาพร้อมออปชันประจำรถทั้ง ไฟหน้าเป็นแบบ LED รูปตัว T Sideways-T แบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED ที่อยู่บนไฟหน้า หน้าตาสไตล์ Advance Dynamic Shield แถมยกระดับมาในแบบรถเอสยูวี ไฟท้ายปรับดีไซน์ขาวแดงแบบ LED กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว
ภายในเดิมๆพร้อมภายในประณีตด้วยดีไซน์แบบ Horizontal Axis กว้างขวางโปร่งสบาย ใหม่!!หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว รองรับ Apple Car Play และ Android Auto
พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นดีไซน์จับกระชับมือยิ่งขึ้นช่วยเพิ่มควำมมั่นใจขณะขับขี่ ช่องจ่ายกระแส ไฟ DC 12 โวลต์เครื่องปรับอากาศดิจิตอลพร้อมฟังก์ชัน Max Cool และมีแยกส่วนสำหรับด้านหลัง เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ 8 นิ้ว ความชัดสูงพร้อมแสดง ภาพเคลื่อนไหว 3 มิติ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์หรู หัวเกียร์อัตโนมัติ ที่ชาร์จมือถือไร้สาย
เบาะนั่งมาพร้อมคุณสมบัติกันความร้อนหรือ Heat Guard โทนสีภายในมาในแบบ สีน้ำตาล-ดำในรุ่น XPANDER CROSS และดำในรุ่นปกติ หรูหรายิ่งขึ้นด้วยด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์หุ้มและมีการเย็บตะเข็บจริงสำหรับที่พักแขน แผงประตูข้างพร้อมช่องเก็บของทั้งคอนโซลกลาง มีถาดเก็บของแบบเปิดขนาดใหญ่ที่พักแขนสามารถเก็บขวดน้ำได้ถึง 600 มิลลิเมตร มีช่อง USB 2 ช่องสำหรับเบาะตอนที่สองแบบ Type-A และ Type-C
สำหรับอินโดนีเซียยังเป็นเบนซิน 1.5 ลิตร MIVEC 4A91 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 141 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบต่อนาที เปลี่ยนระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง Eco-dynamic CVT ตอบสนองด้วยอัตราเร่งรวดเร็วและทรงพลังเน้นทั้งความเงียบที่มากขึ้นและประหยัดและเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
เพิ่มความนุ่มนวลทุกการขับขี่และเพิ่มระบบควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกระหว่างล้อซ้ายและขวา ออกแบบให้สามารถเรียกแรงบิดให้กระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ ตามความเหมาะสมและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หรือที่เรียกว่า Active Yaw Control (AYC) ช่วยควบคุมการขับเคลื่อนให้เข้าโค้งได้กระชับแม่นยำ
ปลอดภัยกว่าด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกของล้อหน้าด้านซ้ายและด้านขวา เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งและรักษาเสถียรภาพการขับขี่ได้ดีบนถนนที่เปียกลื่นช่วงล่างหนึบมั่นใจด้านหน้ามีติดตั้งเหล็กกันโคลงและเหล็กค้ำหัวโช้คเพิ่มความแข็งแกร่งด้านหลัง เพิ่มความนุ่มนวลทุกการขับขี่
และเพิ่มความปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด และกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา และออปชันเดิมทั้ง ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensor ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC) ป้องกันการลื่นไถล (TCL) ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) กระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) เสริมแรงเบรก (BA) ไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า กล้องมองภาพด้านหลัง และดิกส์เบรกสี่ล้อ
Mitsubishi XPANDER และ Mitsubishi XPANDER Cross เปิดราคาขายที่อินโดนีเซีย 8 รุ่นย่อยทั้งเกรด GLS, Exceed Tourer, Ultimate, Cross และ Cross Premium ในราคาเริ่มต้น Rp 270,100,000-364,200,000 หรือราว 549,000-739,000 บาท แน่นนอนว่าเมืองไทยเตรียมพบกันเร็วๆนี้
ที่มา Mitsubishi