GWM Safety Lab ศูนย์ทดสอบความปลอดภัย ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เมืองเป่าติ้ง ประเทศจีน ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 500 ล้านหยวน หรือประมาณ 2,300 ล้านบาท คิดค้นระบบอัจฉริยะและนวัตกรรม กับการทดสอบแบตเตอรี่ การชน และความเร็วสูง
องค์ประกอบหลักที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโยลีและนวัตกรรมสุดล้ำหน้าร่วมกับระบบทดสอบความปลอดภัยขั้นสูง ได้แก่
- พื้นที่ทดสอบแบตเตอรี่ในรถยนต์พลังงานใหม่ด้วยระบบ “Firewall” สุดอัจฉริยะ
- กองทัพหุ่นทดสอบการชนเสมือนมนุษย์ มูลค่ากว่า 454 ล้านบาท และ
- นวัตกรรมในระบบลากทดสอบความเร็วสูง (Towing System) ที่ GWM คิดค้นขึ้นเอง พร้อมสิทธิบัตรระดับชาติ 11 รายการ
โดยความล้ำหน้าและความอัจฉริยะที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนการทดสอบความปลอดภัยใน GWM Safety Lab นี้ พิสูจน์ถึงวิสัยทัศน์ของการพัฒนารถยนต์ของ GWM ที่เน้นและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก ๆ โดยรถยนต์ของ GWM ทุกรุ่น ได้ผ่านการทดสอบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานระดับสากล ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของวงการยานยนต์ระดับโลกให้ล้ำหน้าไปอีกขั้น เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นจากรถยนต์ GWM แก่ผู้ใช้งานทั่วโลก
ศูนย์ทดสอบความปลอดภัย GWM Safety Lab นี้ มาพร้อมกับระบบ Five-Zone และ Eight-Track ที่ประกอบด้วยพื้นที่ทดสอบแรงปะทะ 5 โซน และรางดึงขนาดเล็ก 8 เส้นทาง รองรับการทดสอบการชนของรถยนต์ทั้งความเร็วสูงและต่ำสูงสุดถึง 3 ครั้งต่อประเภทในแต่ละวัน และสามารถทดสอบได้มากถึง 1,500 ครั้งต่อปี
นอกจากนี้ ยังสามารถจำลองสถานการณ์การชนที่มีความซับซ้อนได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การชนจากด้านข้างตามมาตรฐานสากล การชนแบบ OMDB (Offset Moving Deformable Barrier) ที่ใช้ความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามข้อกำหนดใหม่ในอเมริกาเหนือ รวมถึงการชนจากด้านหน้าในมุมและระดับความเร็วที่หลากหลาย
พร้อมกับการทดสอบการพลิกคว่ำในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การพลิกคว่ำแบบหมุน การพลิกคว่ำจากการกระแทกขอบถนน การพลิกคว่ำจากการตกหลุมทราย และการตกจากเนินลาด นับว่าเป็นศูนย์ทดสอบความปลอดภัยที่ครบครันและสมบูรณ์แบบที่สุด ครอบคลุมทุกสถานการณ์บนท้องถนนอย่างแท้จริง
พื้นที่ทดสอบรถยนต์พลังงานใหม่แห่งอนาคต กับระบบ “Firewall” สุดอัจฉริยะ ควบคุมความปลอดภัยของแบตเตอรี่ขั้นสูงสุด
โซนทดสอบเฉพาะสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับความปลอดภัยขั้นสูงสุด ด้วยระบบติดตามสภาพแบตเตอรี่หลังการชนแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมติดตั้งระบบดับเพลิงอัจฉริยะที่ตอบสนองทันทีเมื่อพบความผิดปกติ
โดยตัวรถจะถูกนำลงบ่อน้ำลึก 1.2 เมตรภายใน 30 วินาที เพื่อระบายความร้อนและลดความเสี่ยงจากแบตเตอรี่ ระบบความปลอดภัยจะทำงานโดยอัตโนมัติทันที ทั้งการปิดประตูกันไฟ เปิดช่องระบายอากาศ เปิดไฟส่องสว่าง และฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อควบคุมสถานการณ์ โดยตัวรถยังสามารถส่งข้อมูลได้แม้อยู่ใต้น้ำ ช่วยให้นักวิจัยสามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำ เพื่อใช้ในการพัฒนาและต่อยอดระบบป้องกัน “Firewall” ไปสู่รถยนต์รุ่นอื่น ๆ ของ GWM ในอนาคต
กองทัพหุ่นทดสอบเสมือนมนุษย์ มูลค่ากว่า 454 ล้านบาท ผู้พิทักษ์ความปลอดภัยในทุกการชน
หัวใจสำคัญของศูนย์ทดสอบความปลอดภัยแห่งนี้ คือ “กองทัพหุ่นทดสอบ” ที่มีมูลค่ารวมกว่า 454 ล้านบาท โดยประกอบด้วยหุ่นทดสอบสมรรถนะขั้นสูง เช่น Thor Dummy ที่มีมูลค่าสูงกว่า 45 ล้านบาทต่อหน่วย และหุ่น WorldSID ซึ่งใช้สำหรับทดสอบแรงกระแทกจากด้านข้าง โดยมีมูลค่ากว่า 36 ล้านบาทต่อหน่วย
หุ่นแต่ละตัวได้รับการออกแบบให้มีลักษณะใกล้เคียงกับสรีระของมนุษย์มากที่สุด ทั้งโครงกระดูก ผิวหนัง และกล้ามเนื้อ พร้อมติดตั้งเซนเซอร์ภายในจำนวนมาก เพื่อเก็บข้อมูลการทดสอบอย่างละเอียดและแม่นยำ โดยหุ่นเหล่านี้จะถูกถอดประกอบและปรับเทียบใหม่ทุก 5 ครั้งที่ใช้งาน เพื่อคงมาตรฐานสูงสุดด้านความแม่นยำ
ปัจจุบัน GWM มีหุ่นทดสอบทั้งหมด 34 ตัว ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “ทีมผู้พิทักษ์ชีวิต” ที่มีบทบาทสำคัญในการวิจัยและพัฒนาระบบความปลอดภัยจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ก้าวล้ำด้วยนวัตกรรมที่ GWM คิดค้นเอง พร้อมสิทธิบัตรระดับชาติ 11 รายการ
ระบบลากทดสอบความเร็วสูง (Towing System) ภายใน GWM Safety Lab นี้ เป็นผลงานการพัฒนาของทีมวิจัย GWM โดยเฉพาะ สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และได้รับการจดสิทธิบัตรในระดับประเทศแล้วถึง 11 รายการ ครอบคลุมตั้งแต่การเลือกใช้ฮาร์ดแวร์ การพัฒนาซอฟต์แวร์ ไปจนถึงการควบคุมระบบแบบครบวงจร
อีกหนึ่งไฮไลต์ของศูนย์ฯ คือพื้นที่โซนตรงกลางที่ติดตั้งบ่อกระจกนิรภัยหนาพิเศษขนาด 110 มิลลิเมตร พร้อมกล้องความเร็วสูง เพื่อบันทึกภาพการเปลี่ยนแปลงใต้ท้องรถขณะเกิดการชนได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้นักวิจัยสามารถตรวจสอบการเสียรูปของโครงสร้างรถยนต์ได้อย่างแม่นยำ นับว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น