Denza เปิดเผยภาพภายนอกของรถรุ่น N8L รุ่นใหม่ ซึ่งปรากฏอยู่ในรายชื่อจดทะเบียนรถล่าสุดของ MIIT โดยเป็นรถ SUV ปลั๊กอินไฮบริดขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม e3 ซึ่งถือเป็นรถรุ่นเรือธงอีกรุ่นหนึ่งต่อจาก N9
เอสยูวีสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 6 ที่นั่ง ดีไซน์ภายนอกมีความคล้ายกับ N9 และคาดว่าจะมีราคาอยู่ระหว่าง 350,000 ถึง 400,000 หยวน หรือประมาณ 1.58 1.81 ล้านบาท เมื่อเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้
N8L ได้รับการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่น ด้านหน้ามีไฟวิ่งกลางวันแบบขนานเหมือนกับรุ่น N9 โดยไฟหน้าติดตั้งในแนวตั้งทั้งสองด้านของแผงหน้าปัด ส่วนกันชนหน้ามีความแตกต่าง ด้วยช่องรับอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมูและช่องระบายอากาศแบบแอคทีฟ ซึ่งเพิ่มทั้งความสวยงามและประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์
ขนาดมิติตัวถัง
- ความยาว 5,200 มม.
- ความกว้าง 1,999 มม.
- ความสูง 1,820 มม.
- ระยะฐานล้อ 3,075 มม.
รูปลักษณ์ด้านข้างประกอบด้วยเส้นสายที่ต่อเนื่องกัน มือจับประตูที่เรียบเสมอกัน และกล้องมองข้างที่บังโคลนหน้า เสา B, C และ D มีพื้นผิวสีดำเงา ทำให้เกิดเอฟเฟกต์หลังคาลอย ส่วนไฟท้ายด้านหลังนั้นคล้ายกับของ N9 แต่ก็มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อย และที่ยึดป้ายทะเบียนก็ติดตั้งไว้บนกันชนหลังเพื่อให้ดูสะอาดตาขึ้น
N8L นำเสนอเวอร์ชันโดรนเสริม เมื่อติดตั้งระบบโดรนติดรถยนต์อัจฉริยะของ BYD ความสูงของรถจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,990 มม. และแพลตฟอร์มหลังคาแบบบูรณาการรองรับการขึ้นและลงจอดด้วยการสัมผัสเพียงครั้งเดียวสำหรับโดรนกระแสหลัก รวมถึงรุ่น DJI
แม้ว่าจะยังไม่ได้มีการเปิดเผยภาพภายใน แต่ N8L จะมีลักษณะเป็นรถ 6 ที่นั่งพร้อมเบาะแถวที่สองแยกอิสระ โดยน่าจะมีที่วางขาปรับไฟฟ้า ฟังก์ชันทำความร้อนและระบายอากาศ และมีพื้นที่สำหรับโต๊ะขนาดเล็ก จากการมองภาพภายในของ N9 คาดว่ารถรุ่นใหม่นี้จะมาพร้อมกับหน้าจอควบคุมกลางขนาด 15.6 นิ้วและแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ซึ่งอาจมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ตู้เย็นในรถและหน้าจอความบันเทิงด้านหลัง
สำหรับระบบการขับขี่อัจฉริยะ N8L จะติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง “God’s Eye B” (DiPilot 300) ซึ่งมี LiDAR ติดตั้งบนหลังคาซึ่งรองรับระบบช่วยเหลือการนำทางในเมืองและทางหลวง คาดว่าจะมีหน้าจอหลายจอภายใน รวมถึงจอแสดงผลความบันเทิงด้านหลังและจอแสดงผลบนกระจกบังลมสำหรับการโต้ตอบหลายหน้าจอ ระบบโต้ตอบด้วยเสียงอัจฉริยะรองรับการจดจำสี่โซน ช่วยให้ระบบตอบสนองต่อคำสั่งจากผู้โดยสารในตำแหน่งต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ
N8L จะใช้แพลตฟอร์ม e3 พร้อมระบบปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์ 2.0T และมอเตอร์ไฟฟ้าสามตัว เครื่องยนต์สันดาปภายในให้กำลังสูงสุด 152 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) ในขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าให้กำลัง 200 กิโลวัตต์ (268 แรงม้า) และมอเตอร์ด้านหลังสองตัวให้กำลัง 180 กิโลวัตต์ (241 แรงม้า) กำลังรวมของระบบอยู่ที่ 560 กิโลวัตต์ (751 แรงม้า) โดยคาดว่าจะเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ภายใน 3 วินาที และความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 6.95 ลิตร/100 กม.หรือประมาณ 14.38 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WLTC
สำหรับสมรรถนะ มาพร้อมกับชุดแบตเตอรี่ขนาด 46.99 kWh ซึ่งให้ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน 170 กม. / WLTC สำหรับรุ่นโดรนอยู่ที่ 160 กม. เมื่อเติมน้ำมันและแบตเตอรี่เต็ม ระยะทางวิ่งรวมจะเกิน 1,000 กม. รองรับการชาร์จเร็วและช้า โดยการชาร์จเร็วสามารถเพิ่มระดับแบตเตอรี่จาก 20% – 80% ในเวลาเพียง 30 นาที
N8L น่าจะมีระบบ DiSus-A ซึ่งรองรับการบังคับเลี้ยวล้อหลัง รัศมีวงเลี้ยวแคบ เทคโนโลยี Crab Walk อัจฉริยะ และความสามารถในการจอดรถ e3 ซึ่งทำให้มีความคล่องตัวเท่ากับรถยนต์ขนาดกะทัดรัด และมีพื้นที่มากกว่าคู่แข่งอย่าง Li Auto L8, AITO M7 และ WEY Lanshan
ในฐานะแบรนด์ BYD ระดับพรีเมียม Denza ได้สร้างชื่อเสียงที่แข็งแกร่งด้วยรุ่นที่ประสบความสำเร็จ เช่น D9 จนมาถึง N8L ที่จะช่วยเสริมพอร์ตโฟลิโอรถครอบครัวหรูหรา ด้วยราคาที่สามารถแข่งขันได้และคุณสมบัติที่เหนือกว่าเมื่อเทียบกับรถรุ่นพี่ N9 ที่มีราคาแพงกว่า จึงอาจกำหนดมาตรฐานมูลค่าใหม่ในกลุ่ม SUV 6 ที่นั่งขนาดใหญ่
Source: CarNewsChina
