More

    Suzuki SWIFT หยุดการผลิตชั่วคราวที่ญี่ปุ่น เหตุขาดแคลนชิ้นส่วน

    ทำตลาดญี่ปุ่นและทั่วโลกมาเกือบ 2 ปีสำหรับ Suzuki SWIFT รถแฮทช์แบ็ก ท้ายต้ดเจเนอเรชันที่ 4 แม้ว่าเมืองไทยจะไม่มีวี่แว่วที่จะเอาเข้ามาไทยก็ตาม

    Suzuki

    เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทาง Suzuki ประกาศว่าเตรียมหยุดการผลิต Suzuki SWIFT เจนใหม่เป็นการชั่วคราว

    โดยการหยุดการผลิตชั่วคราวครั้งนี้สาเหตุมาจากขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิตที่เกี่ยวเนื่องในวันที่ 2-6 มิถุนายนที่โรงงานที่เมือง SAGARA ญี่ปุ่นและจะกลับมาผลิตอีกครั้งหลังจากประเมินสถานการณ์แล้ว

    หน้าตาไม่ต่างจากเจนที่แล้วเท่กว่าใหญ่โตจุดสังเกตมีฝากระโปรงหน้าออกแบบมีขอบซ้าย-ขวาเข้ามาลงตัวกับชุดไฟหน้า LED ทรงห้าเหลี่ยมโดยไส้ในมีชุดไฟส่องสว่าง DRL แบบ LED รูปตัว L กับกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยม และโลโก้ S บนกระจังหน้าในชุดกันชนหน้าพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED

    ที่เปิดประตูแบบก้านโยกสี่จุดเป็นครั้งแรกที่ก้านเปิดประตูคู่หลังออกแบบให้อยู่ในตำแหน่งแบบเดียวกับรถทั่วไป ด้านท้ายเด่นด้วยไฟท้าย LED รูปตัว C ฝาท้ายดีไซน์ลงตัวและกันชนหลังทรงสปอร์ตมีลิ้นสปอยเลอร์หลังสีดำเสริมเข้มล้ออัลลอยลายทูโทนขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 185/55R16 กับขนาด 15 นิ้ว ทั้งแบบล้ออัลลอยและกระทะล้อครอบด้วยฝาครอบล้อสีเงินพร้อมยาง 175/65R15

    มาในชื่อรหัส YED ยังใช้แพลตฟอร์ม HEARTECT เช่นเคย มิติตัวรถใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับ Swift เจนที่สี่พบว่ายาวขึ้นกว่าเจนที่แล้ว 15 มิลลิเมตร สูงกว่า 5 มิลลิเมตร ความกว้างแคบกว่าเจนที่แล้ว 40 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อเท่าเดิม และน้ำหนักรถเบากว่า 1.9 กิโลกรัม โดยมิติมีดังนี้

    • ความยาว 3,860 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,695 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,500-1,525 มิลลิเมตร
    • ระยะฐานล้อ 2,450 มิลลิเมตร
    • ความสูงจากใต้ท้องรถ 120-145 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 920- 1,020 กิโลกรัม
    • ความจุถังน้ำมัน 37 ลิตร

    Suzuki

    ภายในงานออกแบบคอนโซลหน้าคล้ายเพื่อนร่วมชายคามาด้วยโทนสีขาวดำตั้งแต่มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูล MID จอสัมผัสขนาดใหญ่แบบลอยตัวขนาด 9 นิ้ว SmartPlay Pro เชื่อมต่อ Android Auto รูปแบบใหม่ Apple CarPlay พร้อมสั่งงานด้วยเสียงกับคำว่า ‘Hi Suzuki’ และ OTA (Over-The-Air Updates) พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงคุ้นตาแบบท้ายตัด

    Suzuki

    เบาะนั่งสปอร์ต 5 ที่นั่งออกแบบใหม่ให้นั่งสบายมากขึ้นพร้อมเบาะนั่งหลังพับได้แบบ 60/40 หุ้มด้วยผ้าสีดำเข้มเดินด้านสวยงาม และ Suzuki Connect เชื่อมต่อข้อมูลตัวรถ สถานะการจอดรถระยะไกลระยะใกล้ผ่านทางสมาร์ตโฟน  สบายขึ้นด้วยเบรกมือไฟฟ้า Electric parking brake (EPB) พร้อม Auto Hold แทนแบบเดิมที่เป็นคันโยก

    Suzukiขุมพลังใหม่หมดด้วยเบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร ในรหัสใหม่ Z12E ให้กำลังสูงสุด 82 แรงม้าที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิด 108 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที

    นอกจากนี้ยังมีมีเวอร์ชัน Mild Hybrid พ่วงแบตเตอรี่ก้อนเล็กสุด Lithium lon 6Ah 12V จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก Integrated Starter Generator (ISG) ช่วยเสริมกำลังทั้งแรงและเร้าใจแบบ SVHS (Suzuki Hybrid Vehicle  System) กำลังสูง 3.1 แรงม้าที่ 1,100 รอบต่อนาที แรงบิด 60 นิวตันเมตรที่ 100 รอบต่อนาที

    Suzuki

    จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ลูกใหม่ และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เลือกได้ทั้งขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ Full-Time 4WD ประหยัดสุด 22-25.4 กิโลเมตรต่อลิตรตามมาตรฐาน WLTC พร้อมความปลอดภัยเต็มคัน Suzuki Safety Support ทั้ง

    • ระบบป้องกันการชนด้านหน้า DSBS II (Dual Sensor Brake Support II)
    • ปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHS (Adaptive High Beam System)
    • ช่วยจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitoring System)
    • เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับยานพาหนะ คนเดินถนน จักรยานและมอเตอร์ไซค์ Autonomous emergency braking (AEB) with vehicle, pedestrian, cyclist and motorcyclist detection
    • เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอยหลัง Reverse AEB
    • ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop/Go และอยู่ในเลน Adaptive cruise control with stop/go and lane centering
    • ช่วยเตือนมุมอับสายตา Blind-spot monitoring
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keep Assist
    • ช่วยเตือนขณะถอยรถ Rear cross-traffic alert
    • กล้องมองภาพรอบคัน  Surround-view camera
    • ตรวจจับกับแสดงป้ายจราจร Traffic sign recognition

    SuzukiSuzuki Swift เปิดตัวที่ญี่ปุ่น มีทั้งหมดเจ็ดรุ่นย่อยสามเกรดตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น XG, Hybrid MX และรุ่นท็อป Hybrid MZ มีทั้งหมด 13 สีแบ่งเป็นสีโมโนโทน 9 สีได้แก่ สีน้ำเงิน Frontier Blue Pearl Metallic, สีเหลือง Cool Yellow Metallic, สีแดง Burning Red Pearl Metallic, สีส้ม Flame Orange Peral Metallic, สีครีม Caravan Ivory Peral Metallic, สีขาวมุก Pure White Peral, สีเทา Premium Sliver Metallic Star, สีบรอนซ์เงิน Sliver Metallic และสีดำ Super Black Peral

    ทางเลือกใหม่ตรงใจวัยรุ่นกับสีทูโทนหลังคาดำอีก 4 สีทั้งสีน้ำเงิน Frontier Blue Pearl Metallic สีเหลือง Cool Yellow Metallic สีแดง Burning Red Pearl Metallic และสีขาวมุก Pure White Peral โดยเปิดราคาในรุ่นเกียร์ CVT  เริ่ม 1,727,000-2,332,000 Yen หรือราว 415,000-559,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้าขายไทยราคารวมภาษี 779,000-1,049,000 บาท

    รุ่นเกียร์ธรรมดาเปิดตัว 17 มกราคม ปีหน้า เริ่ม 1,922,800 Yen หรือราว 464,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าแต่ถ้านำเข้ามาขายราคารวมภาษีอยู่ที่ 874,000 บาท

    ที่มา Carwatch

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts