พึ่งจะเปิดตัว CHERY TIGGO 8 CSH ที่ออสเตรเลียได้ไม่นานยังแนะนำนรุ่นใหม่ CHERY TIGGO 7 CSH ออกมาและเป็นการตัดหน้าเมืองไทย
CHERY TIGGO 7 CSH มาในร่างเจนสองท้าชนคู่แข่งทั้ง Honda CR-V, Mazda CX-5, Peugeot 3008, Nissan X-Trail ,Subaru Forester, MG HS และ GWM HAVAL H6
ภายนอกหล่อดูดี
เริ่มที่ด้านหน้า กระจังหน้าทรง 8 เหลี่ยม ทูโทนโครเมียม/ดำเข้ม แบบ Matrix Diamond Grille ปะโลโก้ CHERY ขนาดใหญ่ จับคู่กับไฟหน้า LED กับกับไฟ DRL แบบ LED ในโคมเดียวกันรูปตัว C รับกับกันชนหน้าดีไซน์เด่น ราวหลังคาบิ้วอิน เสาอากาศครีบฉลาม กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ที่เปิดประตูดึงก้าน
ด้านหลังออกแบบท้ายใหม่ด้วยไฟท้าย LED แนวยาว ย้ายโลโก้ CHERY มาอยู่บนไฟท้าย กันชนหลังออกแบบใหม่มีลิ้นสปอยเลอร์หลังในตัว ชุดท่อไอเสียแบบคู่สองฝั่ง ล้ออัลลอยลายสีทูโทนขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/60R18 ตัวรถมีมิติดังนี้
- ความยาว 4,535 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,864 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,702 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,653 มิลลิเมตร
- ความสูงใต้ท้องรถ 196 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,825 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 60 ลิตร
ภายในปรับใหม่เข้ากับความเป็นสไตล์ยุโรป
ด้วยโทนสีภายในทูโทน ดำ คอนโซลหน้าตกแต่งทูโทนผสมกับโครเมียมที่ขอบในแผงประตู แผงคอนโซลหน้าพร้อมจอคู่ขนาดใหญ่ 24.6 นิ้ว ที่แบ่งเป็น มาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้วและจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว เชื่อมต่อความบันเทิงและการสื่อสารทุกรูปแบบไร้สายทั้ง Apple CarPlay/Android Auto และแอปพลิเคชันอื่นๆ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงท้ายตัดแบบ multi-kinetic flat-bottom ปะตัวอักษร CHERY ใหม่แทนโลโก้
ลำโพง มาตรฐาน 6 จุด และพรีเมียมจากแบรนด์ SONY 8 จุด คอนโซลเกียร์ตกแต่งสีเงินโครเมียม หัวเกียร์อัตโนมัติทรงหรู เบาะนั่งหุ้มหนังปรับไฟฟ้าคู่หน้า ด้านคนขับปรับ 6 ทิศทางพร้อมจดจำตำแหน่ง และคนนั่ง 4 ทิศทาง มีเบาะคนนั่งปรับมือ 4 ทิศทางในรุ่นเริ่มต้น พร้อมระบบนอุ่นเบาะ เบาะเย็น เฉพาะคู่หน้า เบาะหลังพับได้ 60/40 โดยมีพื้นที่มากถึง 475-1,500 ลิตร เครื่องปรับอากาศ Dual-zone พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง และช่องเสียบ USB 3 จุด มี 2 จุดแบบ Type A กับ C และ Type C 1 จุดด้านหลัง
ขุมพลัง CHERY Super Hybrid (CSH)
ด้วยขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดด้วยเบนซินเทอร์โบ Kunpeng 1.5 ลิตร SQRE4T15C 143 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 215 นิวตันเมตรที่ 1,750-4,000 รอบต่อนาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตรพร้อมแบตเตอรี่ Ternary lithium battery 18.3 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้กำลังสูงสุด 347 แรงม้า แรงบิด 525 นิวตันเมตร
วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าล้วน 93 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC) และวิ่งไกลทั้งระบบ 1,200 กิโลเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 1 Speed Dedicated Hybrid Transmission (DHT) มีโหมดการทำงาน 5 โหมด ทั้ง Eco / Normal / Sport / EV / HEV ขับเคลื่อนล้อหน้า สามารถชาร์จไดัทั้ง DC 40 kW 30-80% ภายใน 20 นาที และ AC และ V2L ความสามารถในการลากจูงสูงสุด 750 กิโลกรัม นุ่มนวลด้วยช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้วยช่วงล่างหน้าแบบ Macpherson Strut / ช่วงล่างหลังแบบ Multi Link
ปลอดภัยด้วยฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงระดับ 2 ADAS
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
- ช่วยควบคุมเลน Lane Keeping Assist (LKA)
- ช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Prevention (LDP)
- ช่วยควบคุมทิศทางของรถตามรถคันหน้า Traffic Jam Assist (TJA)
- ควบคุมความเร็วอัจฉริยะ Integrated Cruise Assist (ICA)
- ปรับไฟสูงอัจฉริยะ Intelligent High-beam Control Headlamp (IHC)
- ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC)
- ช่วยเบรกอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking (AEB)
- แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking System (AEBS)
- ช่วยให้รถอยู่ในเลนในสถานการณ์ฉุกเฉิน Emergency Lane Keeping (ELK)
- ช่วยเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Detection (BSD)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Collision Alert (RCTA)
- ช่วยเบรกขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Braking (RCTB)
- ช่วยเตือนการชนด้านหลัง Rear Collision Warning (RCW)
- ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู Door opening safety reminder (DOW)
- จำกัดความเร็วอัจฉริยะ Speed Limit Information Function (SLIF)
- ควบคุมความเร็ว Speed Control Assist (SCF)
- ตรวจจับพฤติกรรมของผู้ขับขี่ Driver Monitoring System (DMS)
- ช่วยเปลี่ยนเลน Lane Change Assist (LCA)
พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานมาครบทั้ง เบรกป้องกันล้อล็อก Anti-Lock Braking System (ABS) ควบคุมการกระจายแรงเบรก Electronic Brake Force Distribution (EBD) ช่วยเบรกฉุกเฉิน EBA (Emergency Brake Assist) เสริมแรงเบรก Brake Assist System (BAS) พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก Brake Overide System (BOS) เบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ Multi Collision Braking (MCB)
ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ Electronic Stability Program (ESP) ป้องกันการลื่นไถล Traction Control System (TCS) ออกตัวบนทางลาดชัน Hill-start Assist Control (HAC) ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Down Control (HDC) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ Emergency Stop Signal (ESS) ตรวจวัดแรงดันลมยาง Tire Pressure Monitoring System (TPMS) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ถุงลมนิรภัยรอบคัน 8 จุด และกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา ชัดแบบ HD
CHERY TIGGO 7 CSH ขาย 2 รุ่นย่อยทั้ง Urban และรุ่น Ultimate ในราคารวมค่าจดทะเบียนและภาษีถนน On-Road ของออสเตรเลีย เริ่มต้น $39,990-$43,990 หรือราว 845,000-929,000 บาท มีสีภายนอก 5 สี
- สีน้ำเงิน Turquoise Blue
- สีดำ Space Black
- สีขาว Lunar White
- สีเทา Mercurial Grey
- สีบรอนซ์เงิน Star Silver
ทางด้านเมืองไทยเปิดตัวพร้อมกับ CHERY V23 และ CHERY TIGGO 8 CSH ช่วงไตรมาสที่ 3 ปีนี้ เป็นการนำเข้าจากมาเลเซียที่เดียวกับ JAECOO 7 SHS
ที่มา Carexpert