More

    MG IM6 หน้าใหม่พกพลัง EREV และ EV เปิดพรีเซลที่จีนเริ่ม 9 แสนกว่า

    หลังเผยภาพทั้งคันของ MG IM6 หรือ IM LS6 เอสยูวีไฟฟ้าไมเนอร์เชนจ์ก็ได้รับความสนใจจากแฟนๆชาวจีนเพราะเป็นที่แรกที่ได้ยลโฉมก่อนใคร

    MG

    ล่าสุด IM Motors เผยภาพรุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ของ MG IM6 หรือ IM LS6 มิดไซซ์เอสยูวี ด้วยหน้าตาใหม่ปรับรอบสองหลังจากแต่งเล็กน้อย

    ด้านหน้าใหม่

    • ชุดไฟหน้า LED จากทรงรูปตัวเจรมดำมาเป็นรูปตัววายรมดำทั้งแผงตั้งแต่ส่วนบนชุดไฟหน้า DRL ส่วนบนรูปตัวแอลพร้อมไฟ DRL ดวงเล็ก 4 จุด ถัดลงมาเป็นไฟหน้า LED แนวตั้ง
    • กระจังหน้าทรงทึบในชุดกันชนหน้าออกแบบใหม่พร้อมช่องระบายอากาศที่ใหญ่ขึ้น
    • เสริมคิ้วโครเมียมใต้กันชนในบางรุ่น
    • กรอบกระจกโครเมียมในบางรุ่น
    • คิ้วชายล่างประตูสีดำในบางรุ่น
    • กันชนหลังออกแบบใหม่โดยแผงทับทิมสะท้อนแสงออกแบบเป็นเส้นแนวนอนแทนแนวตั้งเดิมในชุดลิ้นสปอยเลอร์หลัง
    • ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาดใหญ่ 21 นิ้ว ขนาดยางหน้า 235/45 R21 และขนาดยางหลัง 265/40 R21 และขนาด 20 นิ้วตกแต่งรมดำ พร้อมยาง 235/50R20

    ด้านข้างเท่ด้วย หลังคากระจกพาโนรามิก เซนเซอร์ LiDAR กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวกระจกรถแบบไร้กรอบ Frameless แบบโอเปร่า ที่เปิดประตูแบบเก็บซ่อนในตัวรถ (Hidden Door Handle) ไฟท้าย LED รมดำดีไซน์รูปตัวเอยาวจากซ้ายไปขวารับกับฝาท้ายมีสปอยเลอร์ในตัวพร้อมฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบ เตะเปิดอัตโนมัติ

    มิติตัวรถ

    • ความยาว 4,937 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,988 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,671 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 2,960 มิลลิเมตร
    • ที่จุสัมภาระด้านหน้า 32 ลิตร ในรุ่นอีวี

    MG

    ภายในยกเครื่องงานดีไซน์

    • ชุดคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่หมดติดตั้งจอสัมผัสคู่แบบลอยตัวขนาดใหญ่ 5K อยู่ด้านหน้าผู้ขับขี่และตรงกลางขนาด 27.1 นิ้ว
    • ชุดจอสัมผัสระบบความบันเทิงและมีฝั่งคนนั่งความละเอียดชัดแบบ 3K ขนาด 15.6 นิ้ว แบบ Co-Pilot
    • เชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android แบบไร้สาย ระบบสั่งการอัจฉริยะ เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ
    • ระบบลำโพงรอบทิศทาง 20 จุด ประกอบด้วย ลำโพงรอบทิศทาง 16 จุด และลำโพงบริเวณหลังคา 4 จุด
    • ประมวลผลด้วยชิป  Qualcomm Snapdragon 8295

    MG

    ชุดพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันมีทั้งแบบวงมาลัยตัดหัวตัดท้ายทรงล้ำยุคหรือ YOKE ไม่รบกวนการมองเห็นบนหน้าจอขนาดใหญ่และแบบปกติ 3 ก้านท้ายตัดให้เลือก ออกแบบคันเกียร์ที่คอพวงมาลัยใหม่มาพร้อมแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย ที่วางแก้วน้ำสองช่อง และช่องเก็บของที่กว้างขวาง คอนโซลกลางมีปุ่มควบคุมต่างๆ มากมาย ส่วนแผงประตูของรถปรับปรุงใหม่มีปุ่มควบคุมแทนมือจับ

    ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร Ambient Light ที่สามารถเปลี่ยนได้ 256 เฉดสี และปุ่มปรับเบาะไฟฟ้า เบาะนั่งแถวที่สองมีตู้เย็นที่สามารถอุ่นอาหารและเครื่องดื่มได้ มีซันรูฟแบบพาโนรามาและระบบเสียงขั้นสูงมีอัตราการใช้พื้นที่สูงสุดที่ 90%

    MG

    เบาะนั่ง Co-Pilot แบบ Zero Gravity ทรงขนมปัง พร้อมสัมผัสพรีเมียมโดยหุ้มด้วยวัสดุสังเคราะห์ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง โดยเบาะคู่หน้าเป็นแบบระบายความร้อน เบาะเย็น พร้อมระบบนวดสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และด้านหลัง เบาะนั่งด้านหลังพนักพิงพับได้ 60:40 พื้นที่สัมภาระด้านท้ายมีความจุ 646-665 ลิตร และ 1,621-1,640 ลิตรกรณีพับเบาะ

    พร้อมที่เก็บสัมภาระเพิ่มเติมที่ท้ายรถได้อีก 69 ลิตรและเบาะนั่งหน้าฝั่งคนนั่งปรับไฟฟ้าเอนเบาะได้สุด 121 องศาและพนักพิงเบาะนั่งหลังเพิ่มมุมอีก 19-37 องศาและตู้เย็นขนาด 11 ลิตร

    MG

    ขุมพลัง

    มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังและมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อมีให้เลือก

    โดยรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังให้กำลัง 333 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร จากชุดแบตเตอรี่ขนาด 76 kWh ระยะทางไกลสุด 650 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 627 กิโลเมตร (NEDC) ด้านรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ จากชุดแบตเตอรี่ขนาด 103 kWh ให้กำลัง 272 แรงม้า และ 408 แรงม้า ตามลำดับ  ระยะทางไกลสุด 750 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 724 กิโลเมตร (NEDC) สร้างอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.48 วินาที

    รองรับการชาร์จกระแสตรง DC ด้วยกำลังชาร์จสูงสุด 900 V โดยมีแรงดันไฟฟ้าขณะใช้งานสูงสุดที่ 875 V และเซลล์ในชุดแบตเตอรี่สามารถชาร์จได้สูงสุด 396 กิโลวัตต์ ชาร์จไฟ DC ภายใน 5 นาที สามารถวิ่งได้ระยะทาง 200 กิโลเมตร และหากชาร์จ DC ภายใน 15 นาที สามารถทำระยะทางได้ไกลถึง 310 กิโลเมตร

    MG

    และขุมพลังใหม่ไฟฟ้าขยายระยะทาง EREV Extended Range Electric Vehicle จากเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร รหัส 15FNE ทำหน้าที่ปั่นไฟให้กำลัง 155 แรงม้าส่งไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังแบบซิลิคอนคาร์ไบด์ “Hurricane” 800V โดยกำลังสูงสุดอยู่ที่ 313 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 6.4 วินาที ชุดแบตเตอรี่แบบ Freevoy Super Max โดยมี 2 รูปแบบเริ่มที่

    ขนาดแบตเตอรี่ 52 kWh วิ่งอีวีไกลสุด 370 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 357 กิโลเมตร (NEDC) และวิ่งได้ระยะทางรวมสูงสุด 1,400 กิโลเมตร และความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 66 kWh ทั้งแบบ LFP และ NMC แบบสามเฟส จากบริษัทร่วมทุน SAIC-CATL วิ่งอีวีไกลสุด 450 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 434 กิโลเมตร (NEDC) และวิ่งได้ระยะทางรวมสูงสุด 1,502 กิโลเมตร

    พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง IM AD 3.0 แบบออนบอร์ด ไม่ต้องใช้แผนที่ความละเอียดสูง และขับเคลื่อนด้วยชิป Nvidia Drive Thor พร้อมพวงมาลัยไฟฟ้าที่มีรัศมีวงเลี้ยว 4.79 เมตร

    MG

    และหลังจากเปิดรับจองภายใน 30 นาทีมียอดจองกว่า 10,000 คัน สำหรับ MG IM6 ไมเนอร์เชนจ์ ขาย 5 รุ่นย่อยแบ่งเป็น BEV 2 รุ่น และ EREV 3 รุ่น มีสีภายนอก 6 สี โดยเปิดรับจองสิทธิ์หรือ Pre-Sale ในราคาเริ่ม 209,900-279,900 YUAN หรือราว 949,000- 1,265,000 บาท และเปิดราคาจริง 10 กันยายน

    ที่มา CarNewsChina

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts