หลังจากปรับโฉมไปเมื่อเกือบ 2 ปีก่อนสำหรับ Nissan NOTE ร่างเจเนอเรชันที่ 3 และปีนี้กระตุ้นตลาดอีกครั้งด้วยการเปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่
Nissan NOTE MY2026 เพิ่มออปชันใหม่สำหรับ NOTE ทุกรุ่นและยังเพิ่มรุ่นพิเศษ Nissan NOTE AUTECH LINE เริ่มที่
NOTE MY2026
มาพร้อมกระจังหน้า V-Motion ขนาดใหญ่ออกแบบเส้นแนวนอนห้าชั้นขอบบนสีเทาเข้มสลับกับสีเดียวกับตัวรถประทับตรา Nissan ขนาดใหญ่ พร้อมฝาครอบล้อลายเรขาคณิตกับกระทะล้อขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 185/60R16
ชุดไฟโคมใหม่สี่ดวงแบบ Adaptive LED ออกแบบเส้นนอนซ้าย-ขวา สามเส้นเข้ากันกับชุดกระจังหน้า กันชนหน้าออกแบบเข้ากันลงตัว กระจกมองข้างทรงสปูน ไฟท้ายรมดำแบบ LED แบบเดียวกับรุ่น ARIYA กันชนท้ายติดตั้งแผงทับทิมสะท้อนแสงแนวตั้งตกแต่งสีเดียวกับตัวรถ
ภายในตกแต่งใหม่ในสไตล์ mizuhiki motif ในชุดแผงคอนโซลหน้าลวดลายแผงแบบ Notebook เบาะผ้าลายใหม่เลือกได้ทั้งสีเข้มและสีอ่อน มาตรวัดขนาดใหญ่ Full Digital LCD 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 9 นิ้ว รองรับระบบนำทาง ที่อยู่ในตำแหน่งเดียวกันไม่ละสายตาขณะขับขี่ คั่นกลางด้วยกล่องคอนโซลกลางแนวยาวเป็นชิ้นเดียวเสริมความสวยงามลงตัว
ที่นั่งด้านหลังขนาดใหญ่โล่งโปร่งสบาย รวมถึงบุฉนวนเพิ่มขึ้นที่หลังคาและประตู เพิ่มความเงียบในห้องโดยสารมากขึ้น ออกแบบเก๊ะเก็บของใต้แผงคอนโซลหน้าด้านคนนั่งถึงสองชั้นจุใหญ่ขึ้นใส่ของได้เยอะขึ้น มีระบบล็อกและปลดล็อกรถอัตโนมัติเมื่อคุณเข้าใกล้รถหรือออกจากรถสบายยิ่งขึ้น
NOTE AUTECH Crossover MY2026
รุ่น AUTECH Crossover นำรุ่น NOTE ปรับความสูงขึ้นจากเดิม 25 มิลลิเมตร พร้อมชุดแต่งรอบคันทั้ง ราวหลังคาสีเงิน กระจกมองข้างทรงสปูนสีเงิน คิ้วขอบล้อออกแบบพิเศษด้วยตรา AUTECH ตัดขอบล้อส่วนบนสี่ด้าน ล้ออัลลอยลายพิเศษ ขนาด 16 นิ้ว และสัญลักษณ์ AUTECH ในกระจังหน้าและฝาท้าย
พร้อมกระจังหน้ารูปตัววี V-Motion แบบเกล็ดขนาดใหญ่รวมถึงชุดกันชนหน้าใหม่เสริมชุดแต่งกันขนหน้าทั้งคิ้วชายล่างตรงกลางตกแต่งสีเงินพร้อมไฟ signature LED สีฟ้าเข้มสองฝั่ง ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากทะเลโชนัน Shonan เมืองชิงาซากิ Chigasaki ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของแบรนด์ ชุดไฟโคมใหม่สี่ดวงแบบ Adaptive LED ออกแบบเส้นนอนซ้าย-ขวา สามเส้นเข้ากันกับชุดกระจังหน้า
ภายในมาพร้อมโทนสีดำตกแต่งด้วยสีน้ำเงินสอดคล้องกับคอนโซลหน้ากับคอนโซลกลางแผงประตู และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านตกแต่งด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์สีดำเดินด้ายสีน้ำเงิน เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำเดินด้ายสีน้ำเงินที่ตัดกันอย่างลงตัว เสริมด้วยวัสดุสีดำ ช่วยเพิ่มอารมณ์สปอร์ตด้วยปักและติดตรา AUTECH
NOTE AURA MY2026
รุ่น AURA มาพร้อมกระจังหน้า Digital V-motion รูปทรง “โล่ หรือ shield” ออกแบบประกบไฟหน้าทรงเรียว Ultra-thin LED headlights ไฟเลี้ยว LED sequential turn lamps ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ต กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมหลังคาสีดำ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 205/50 R17
โทนสีภายในใช้สีดำและสีเทา ไวมาราเนอร์” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสุนัขขนสีเทาขนาดใหญ่ออกแนวน้ำตาลอมเทารวมถึงวัสดุหุ้มเบาะแบบกึ่งหนังกึ่งผ้าเดินด้ายน้ำเงินเขียว พร้อมการตกแต่งลายไม้เข้มๆ วัสดุหุ้มหนังสัมผัสหรูๆทั้งในแผงคอนโซลหน้า ที่เท้าแขน และบุแผงประตูมาในโทนสีอ่อนลง
NOTE AURA AUTECH MY2026
รุ่น AURA AUTECH มาพร้อมกระจังหน้ารูปตัววีแบบเกล็ดขนาดใหญ่รวมถึงชุดกันชนหน้าเสริมชุดแต่งกันชนหน้าทั้งคิ้วชายล่างตรงกลางตกแต่งสีเงิน ประกบไฟหน้า Ultra-thin LED headlights และไฟเลี้ยว LED sequential turn lamps สีฟ้าเข้มสองฝั่ง ออกแบบเส้นนอนซ้าย-ขวา สามเส้นเข้ากันกับชุดกระจังหน้า กันชนท้ายมีแผงทับทิมสะท้อนแสงแนวตั้งตกแต่งสีเดียวกับตัวรถพร้อมคิ้วสีเงินใต้กันชนหลัง ชุดแต่งรอบคันออกแบบใหม่ทั้ง กระจกมองข้างทรงสปูนสีเงิน ล้ออัลลอยลายพิเศษ ขนาด 17 นิ้ว และสัญลักษณ์ AUTECH ในกระจังหน้าและฝาท้าย
ภายในมาด้วยโทนสีดำตกแต่งด้วยสีน้ำเงินสอดคล้องกับคอนโซลหน้ากับคอนโซลกลางแผงประตู และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านตกแต่งด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์สีดำเดินด้ายสีน้ำเงิน เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำเดินด้ายสีน้ำเงินที่ตัดกันอย่างลงตัว เสริมด้วยวัสดุสีดำ ช่วยเพิ่มอารมณ์สปอร์ตด้วยปักและติดตรา AUTECH
NOTE AURA NISMO
รุ่น AURA NISMO ด้วยชุดแต่งสีดำขลิบแดงทั้งกระจังหน้ากันชนหน้าพร้อมลิ้นสปอยเลอร์ใต้กันชนสีแดง หลังคาดำ กระจกมองข้างทรงสปูนสีแดง คิ้วชายล่างสีเดียวกับตัวรถขลิบสีแดง ล้อลายสีดำขอบสีเงินขนาด 17 นิ้ว กันชนหลังใหม่พร้อมดิฟฟิวเซอร์ขลิบแดงและไฟเบรกแบบ F1 ติดตั้งตรงกลางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก ยังคงซ่อนท่อไอเสียไว้ใต้กันชน
ภายในตกแต่งตามสไตล์ NISMO หุ้มหนังเกรดคุณภาพสีดำเดินด้ายแดงทรงมาตรฐาน และเบาะคู่หน้าทรงเรสซิ่งจาก RECARO หุ้มหนังกลับสีแดง/สีดำ รองรับกับแนวกระดูกสันหลังตามหลักสรีรศาสตร์พร้อมอุ่นเบาะ เป็นออปชันเสริม ติดตั้งหนังสัมผัสบริเวณคอนโซลกลาง แผงประตูสีดำเดินด้ายสีแดง
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มหนังดำเดินด้ายแดง มีแถบสีแดงด้านบนของพวงมาลัย “On-Centre Marker” เพื่อบอกตำแหน่งองศาของพวงมาลัย ตรา NISMO หลังปุ่มเบรกมือไฟฟ้า และ Auto Hold และปุ่ม Push Start สีแดง
โดยรุ่น AURA, AURA AUTECH และ AURA NISMO ติดตั้งลำโพง BOSE ติดตั้งลำโพงฝังไว้ที่หัวหมอนศีรษะ BOSE Personal Plus เป็นออปชันเสริม
NOTE AUTECH LINE
รุ่นย่อยใหม่ AUTECH LINE ตกแต่งเรียบง่ายแต่ทรงพลังด้วยกระจังหน้า V-Motion ขนาดใหญ่ออกแบบเส้นแนวนอนห้าชั้นกับตัวรถประทับตรา Nissan ขนาดใหญ่ด้วยสีเทาเข้ม Dark Metal เสริมด้วยฝาครอบกระจกมองข้างสีเงินพร้อมพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ
ติดโลโก้ AUTECH LINE บนฝากระโปรงหลัง และ ล้ออัลลอยปัดหน้าเงาขนาด 16 นิ้ว ภายในเปลี่ยนวัสดุหุ้มเบาะใหม่เป็นหนังแบบ TailorFit แบบเดียวกับ Nissan X-Trail เดินด้ายสีเทาให้สัมผัสที่นุ่มนวลและโอบกระชับสบายเทียบเท่าหนัง NAPPA
ขุมพลัง e-Power แบบ EREV ด้วยเบนซิน HR12DE 1.2 ลิตร 82 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 103 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที จับคู่กับชุดแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 1.5 kWh พ่วงเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้ารหัส EM47 ให้กำลังรวมมากถึง 136 แรงม้าที่ 3,183-8,500 รอบต่อนาที เพิ่มแรงบิดเป็น 300 นิวตันเมตรที่ 0-3,183 รอบต่อนาที สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ
รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เสริมมอเตอร์ไฟฟ้า MM48 68 แรงม้าที่ 4,775-10,024 รอบต่อนาที และแรงบิด 100 นิวตันเมตรที่ 0-4,775 รอบต่อนาที เน้นการใช้มอเตอร์เป็นหลัก ส่วนเครื่องยนต์จะทำหน้าที่ชาร์จไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ ในช่วงความเร็วสูงมากเครื่องยนต์จะปั่นไฟฟ้าจ่ายตรงให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าชุดขับ พร้อมช่วงล่างออกแบบเน้นความสปอร์ต
ทุกรุ่นเพิ่มออปชันความปลอดภัยทั้ง ช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Brake โดยพัฒนาให้ตรวจจับจักรยานและยานพาหนะอื่นที่เข้ามาจากฝั่งซ้ายและขวาได้ และแจ้งเตือนให้ผู้โดยสารหลังคาดเข็มขัดนิรภัย Rear Seat Reminder โดย Nissan NOTE MY2026 เปิดราคาขายที่ญี่ปุ่นทั้งหมด 19 รุ่นย่อย 6 ทางเลือก ดังนี้
- รุ่น NOTE รุ่น X 2 รุ่นย่อย เริ่มต้น 2,328,700-2,614,700 YEN หรือราว 515,000-575,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้าเอามาขายมารวมภาษีนำเข้าอยู่ที่ 1,485,000-1,655,000 บาท
- รุ่น NOTE AUTECH CROSSOVER รุ่น X 4 รุ่นย่อย เริ่มต้น 2,797,300-3,108,600 YEN หรือราว 615,000-685,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้าเอามาขายมารวมภาษีนำเข้าอยู่ที่ 1,769,000-1,974,000 บาท
- รุ่น NOTE AURA รุ่น G 4 รุ่นย่อย เริ่มต้น 2,821,500-3,198,800 YEN หรือราว 625,000-705,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้าเอามาขายมารวมภาษีนำเข้าอยู่ที่
- รุ่น NOTE AURA AUTECH และ AUTECH SPORTS SPEC รุ่น G 5 รุ่นย่อย เริ่มต้น 2,931,500-3,389,100 YEN หรือราว 645,000-745,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้าเอามาขายมารวมภาษีนำเข้าอยู่ที่ 1,855,000-2,145,000 บาท
- รุ่น NOTE AURA NISMO 2 รุ่นย่อย เริ่มต้น 3,125,100-3,531,000 YEN หรือราว 689,000-779,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้าเอามาขายมารวมภาษีนำเข้าอยู่ที่ 1,985,000-2,245,000 บาท
- รุ่นใหม่ NOTE AUTECH LINE 2 รุ่นย่อย เริ่มต้น 2,438,700-2,724,700 YEN หรือราว 539,000-599,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้าเอามาขายมารวมภาษีนำเข้าอยู่ที่1,555,000-1,725,000 บาท
ที่มา Nissan