งานนี้ GWM ไม่ปล่อยให้เพื่อนร่วมชาติอย่าง GAC M8 PHEV เสวยสุขกับยอดขายที่กำลังโตในไทยจ่อแนะนำ GWM WEY G9 PHEV เอ็มพีวีหรูพลังปลั๊กอินไฮบริด
หลังโชว์ตัวครั้งแรกของโลกด้วยเวอร์ชันพวงมาลัยขวาที่มาเลเซียในงาน Premium Auto Car Expo (PACE) ที่ผ่านมา กระแสตอบรับดีและพร้อมที่จะขายในมาเลเซียสำหรับ GWM WEY G9 PHEV
หน้าตาเหมือนสเปกจีน
ด้วย กระจังหน้าโครเมียมใหม่แนวตั้งทั้งหมด 25 ซี่ จากเดิม 14 ซี่ ปะตราโลโก้เด่นพร้อมขอบสีเงินล้อมรอบด้านหน้ารถแบบเต็มๆไฟหน้า LED ดีไซน์หรู ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Daytime ชุดกันชนหน้าทรงหรูเสริมคิ้วแนวนอนใต้กันชนหน้า
พร้อมชุดตกแต่งสีเงินที่ขอบกระจก คิ้วชายล่างประตู คิ้วกันชนหลัง หลังคา Dual Panoramic Sunroof ประตูสไลด์ด้านข้างเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ทรงสปูนที่เปิดประตูดึงก้าน ไฟท้ายดีไซน์แนวยาว LED และไฟเลี้ยววิ่ง Sequential พร้อมฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้าติดตั้งออปชันเสริมความสบายด้วยประตูดูดไฟฟ้าทั้งในส่วนประตูคู่หน้าและประตูสไลด์สองฝั่ง ล้ออัลลอยลายสุดล้ำขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 245/50R18
มิติตัวรถมีดังนี้
- ความยาว 5,050-5,410 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,960 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,890-1,900 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 3,085-3,275 มิลลิเมตร
- ความสูงจากใต้ท้องรถ 155 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,764-2,865 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 58 ลิตร
ภายในใหม่คล้ายสเปกจีน
ด้วยชุดแผงคอนโซลหน้าใหม่หมดมาพร้อมจอถึง 3 จอเริ่มที่จอมาตรวัดความเร็ว LCD สี ขนาด 12.3 นิ้ว จอสัมผัสตรงกลาง 2 จอคู่ ขนาด 15.6 นิ้ว 2.5K พร้อมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ Coffee OS 3 พร้อมชิปเกรดยานยนต์ 8295 และรองรับ Coffee GPT แต่สเปกที่ขายอาเซียนจะไม่มีจอบนเพดานความละเอียดสูงพิเศษ 3K ขนาด 17.3 นิ้ว
ติดตั้งจอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือคอนโซลหน้า SR-HUD กระจกมองหลังอัจฉริยะสามารถเปลี่ยนมุมมองจากกระจกมองหลังปกติเป็นกระจกอัจฉริยะด้วยกล้องที่ติดตั้งบริเวณประตูหลัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้าน พร้อมลำโพง 23 จุด มาจาก Harman Kardon รวมพนักพิงศีรษะ
เบาะนั่งแบบ 3 แถว 6 หรือ 7 ที่นั่งแบบ Zero Gravity หุ้มหนัง NAPPA ทางด้านเบาะนั่งแถวที่ 2 ติดตั้งเบาะนั่ง VIP แบบ First Class เครื่องบิน สามารถปรับนอนราบได้ด้วยปุ่มเดียว และรองรับหน่วยความจำเบาะนั่งการชาร์จแบบไร้สาย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโต๊ะเล็ก พร้อมที่วางแขน รวมถึงปุ่มปรับโหมดนวดแบบหมุน
มาพร้อมกับฟังก์ชันอุ่นเบาะ เบาะเย็น และนวดเป็นมาตรฐานทั้ง 3 แถว และพื้นที่สัมภาระสามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้วได้ 7, 12 และ 13 ใบตามลำดับ ตู้เย็นขนาดใหญ่ที่สามารถเปิดได้ทั้งชั้นบนและชั้นล่างร่วมกับระบบควบคุมอุณหภูมิสองโหมดได้แก่ โหมดทำความเย็น (0-15 องศาเซลเซียส) และโหมดทำความร้อน (35-50 องศาเซลเซียส) มาพร้อมปริมาณความจุที่ให้มาถึง 12.5 ลิตร มอบความสะดวกสบายแบบเหนือระดับยิ่งกว่าใคร
มอบความเงียบในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี เมื่อความเร็วอยู่ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสียงห้องโดยสารจะถูกควบคุมอยู่ที่ 65 เดซิเบล ควบคู่กับเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนของเครื่องยนต์ (HALOSonic EOC) ให้ตลอดทั้งเส้นทางไร้ซึ่งสิ่งรบกวนสู่ประสบการณ์การขับขี่ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
มาพร้อมกับเครื่องฟอกอากาศระบบพลาสมา ระบบทำความสะอาดอากาศในห้องโดยสารอัจฉริยะ Air Quality System (AQS) และม่านบังแดดสำหรับแถวที่ 2 และ 3 อีกด้วย นับว่าเป็นรถยนต์ที่มอบความสะดวกสบายผ่านเทคโนโลยีเหนือระดับได้อย่างลงตัว
มีระบบกลิ่นหอมเฉพาะตัว ได้รับการพัฒนาร่วมกับนักปรุงน้ำหอมชั้นนำ ระบบกลิ่นหอมเฉพาะตัวนี้มอบประสบการณ์กลิ่นที่โดดเด่นด้วยสามธีมได้แก่ Fresh Breeze, Urban Essence, และ Afternoon Garden เพื่อสร้างกลิ่นที่เต็มไปด้วยสุนทรียภาพเพื่อผู้ใช้งานและผู้โดยสารระดับวีไอพีตลอดทั้งเส้นทาง
หลังคาแบบ Sky Dome ตกแต่งด้วยดวงดาวถึง 830 ดวง รวมถึงดาวตกแบบนิ่งและแบบเคลื่อนไหว สร้างโดมท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวที่ดูมีชีวิตชีวา แสงนุ่มนวลสลับกับเอฟเฟกต์ฮาโล เพื่อมอบบรรยากาศเฉพาะตัวที่ช่วยให้ผู้โดยสารสัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบเสมือนอยู่ในห้วงอวกาศ
ขุมพลัง Hi4 Performance
ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด Hi4 ด้วยเบนซินเทอร์โบแปรผัน 4 สูบขนาด 1.5 ลิตร รหัส E15BD ให้กำลัง 156 แรงม้า แรงบิด 245 นิวตันเมตรในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Permanent magnet synchronous motor ให้กำลัง 177 แรงม้า แรงบิด 170 นิวตันเมตรในส่วนล้อหน้าและล้อหลัง 183 แรงม้า แรงบิด 232 นิวตันเมตร
พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 37.96 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้ารวม 487 แรงม้า แรงบิดรวม 762 นิวตันวิ่งในโหมดไฟฟ้าได้ไกลถึง 140 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC หรือ 135 กิโลเมตร (NEDC) ชาร์จได้ทั้งกระแสตรง DC และชาร์จกระแสสลับ AC จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DHT Four-speed hybrid 2 สปีด
ขุมพลังใหม่เดียวกับจีน
กับเบนซินเทอร์โบแปรผัน 4 สูบขนาด 1.5 ลิตร รหัส E15BE ให้กำลัง 170 แรงม้า แรงบิด 245 นิวตันเมตรในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลัง 109 แรงม้า แรงบิด 170 นิวตันเมตรในส่วนล้อหน้าและล้อหลัง 184 แรงม้า แรงบิด 232 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน แบบ NMC 51.55 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้ารวม 442 แรงม้า แรงบิดรวม 624 นิวตันเมตร
ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งในโหมดไฟฟ้าได้ไกลถึง 201 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 263 กิโลเมตร (NEDC) และวิ่งไกลสุดด้วยน้ำมัน 1 ถัง 963 กิโลเมตร (WLTP) หรือ 1,133 กิโลเมตร (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.7 วินาที ชาร์จได้ทั้งกระแสตรง DC 30-80% ภายใน 26 นาที สามารถวิ่งได้อีก 172 กิโลเมตร และวิ่งได้อีก 201 กิโลเมตร และชาร์จกระแสสลับ AC 15-100% กำลังไฟ 6.6 kW ภายใน 6.5 ชั่วโมงจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DHT Four-speed hybrid 4 สปีด
ทั้ง 2 ขนาดมาพร้อมระบบ Braking Energy Regeneration และ One Pedal ขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะที่สามารถปรับการทำงานระหว่างขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อได้อย่างชาญฉลาด ลดการใช้พลังงานและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานในทุกการขับขี่
GWM WEY G9 เตรียมมาเมืองไทยภายในปีนี้ พร้อมกับ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ทำตลาดพวงมาลัยขวาที่แรกของโลกประกอบที่โรงงาน EP Manufacturing (EPMB) ในเมืองเปโกห์ รัฐมะละกา และยังเป็นการแลกเปลี่ยนการผลิตระหว่างไทยกับมาเลเซียโดยทางไทยผลิต GWM TANK 500 HEV ส่งไปขาย