Dacia Duster Pick-Up แบบ 4 ที่นั่ง แต่กระบะท้ายเล็กจิ๋ว เปิดตัวในโรมาเนีย ส่วนสหราชอาณาจักรได้รุ่น Duster Cargo ที่เป็นรถตู้เชิงพาณิชย์ 2 ที่นั่งแทน
รถกระบะถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับคนที่ต้องการพื้นที่บรรทุกสัมภาระ แต่ก็ยังอยากได้เบาะหลังที่นั่งได้สบายๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว กระบะท้ายก็ต้องใหญ่พอที่จะบรรทุกของได้จริงๆ แต่ดูเหมือน Dacia Duster Pick-Up รุ่นใหม่จะลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท
รถคันล่าสุดนี้เป็นผลงานการร่วมมือกับ Romturingia บริษัทสัญชาติโรมาเนียที่เชี่ยวชาญการดัดแปลงรถให้เป็นรถกระบะ ซึ่งในรุ่นก่อนๆ พวกเขาจะใช้ตัวถังแบบตอนเดียว (Single-cab) ที่มีกระบะท้ายใหญ่เต็มพื้นที่ แต่ครั้งนี้สูตรถูกเปลี่ยนใหม่ Duster Pick-Up รุ่นนี้ยังคงใช้ตัวถังแบบ 4 ประตู (Dual-cab) ทำให้พื้นที่กระบะท้ายมีขนาดเล็กกว่าที่ควรจะเป็น
กระบะเล็กๆ ที่ต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง?
การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดคือการออกแบบด้านท้ายใหม่ทั้งหมด หลังคาถูกตัดออกหลังเสา D-pillar โดยที่ยังคงโครงสร้างตัวถังเดิมไว้ รวมถึงส่วนท้ายที่สั้นลง พื้นที่กระบะท้ายถูกบุด้วยพลาสติกทั้งพื้นและผนัง พร้อมฝาท้ายที่เปิดลงได้แบบพิเศษ และมีแผงกั้นใหม่พร้อมกระจกหลังแบบเรียบที่แยกส่วนผู้โดยสารออกจากส่วนบรรทุก
ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการ ความยาวในการบรรทุกสูงสุดอยู่ที่ 1,050 มม., กว้าง 1,000 มม. และรับน้ำหนักบรรทุกได้สูงสุด 430 กก. เพื่อความปลอดภัย กระบะมีรางโลหะ 2 อันและห่วงยึดอีก 4 อันสำหรับใช้มัดสัมภาระ ส่วนภายในมีเบาะนั่งทั้งหมด 4 ที่นั่ง และผู้โดยสารตอนหลังมีที่พักแขนตรงกลางให้ด้วย
เนื่องจากการดัดแปลงมีขอบเขตจำกัด ทำให้รถกระบะคันนี้มีขนาดตัวถังเท่ากับ Duster SUV รุ่นมาตรฐาน คือยาว 4,345 มม., กว้าง 1,813 มม. และสูง 1,656 มม. พร้อมระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถที่สูงถึง 224 มม.
Duster Pick-Up จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก (N1) มีรุ่นย่อยให้เลือกคือ Expression, Extreme, และ Journey ซึ่งมีอุปกรณ์เหมือนกับรุ่น SUV ขุมพลังมีให้เลือก 2 แบบคือ Mild-hybrid 130 แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และ Hybrid 140 แบบขับเคลื่อนล้อหน้า
Dacia Duster Pick-Up มีจำหน่ายแล้วที่ตัวแทนจำหน่ายในโรมาเนีย โดยราคาเริ่มต้นที่ 25,983 ยูโร (ประมาณ 1.1 ล้านบาท) ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ขณะที่ Duster รุ่นปกติเริ่มต้นที่ 17,200 ยูโร (ประมาณ 6.8 แสนบาท) ในตลาดเดียวกัน อย่างไรก็ตาม รุ่นกระบะถูกดัดแปลงมาจากรุ่นย่อยที่สูงกว่าและไม่มีเครื่องยนต์พื้นฐานให้เลือก
ทางเลือกสำหรับลูกค้าในสหราชอาณาจักร
ในขณะที่ลูกค้าชาวโรมาเนียได้ลอง Duster Pick-Up ลูกค้าในสหราชอาณาจักรกลับได้ตัวเลือกที่แตกต่างออกไป คือ Duster Cargo ซึ่งนำเบาะหลังออกแล้วแทนที่ด้วยพื้นไม้เรียบ, จุดยึดสัมภาระ 4 จุด และแผงกั้นตาข่ายที่แยกห้องโดยสารออกจากส่วนบรรทุก
กระจกหลังไม่มีฝาปิด แต่เป็นกระจกกรองแสงเพื่อความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ Dacia ยังเพิ่มฝาปิดสัมภาระแบบถอดได้เพื่อให้ของที่บรรทุกมองไม่เห็นจากภายนอก ส่วนพื้นที่เก็บของมีปริมาตร 1,030 ลิตร เมื่อวัดถึงหลังคา และมีพื้นที่ใต้พื้นกระบะอีก 119 ลิตร
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก (LCV) รุ่นนี้มีให้เลือกเฉพาะรุ่น Expression เท่านั้น พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานเช่น ล้ออัลลอย 17 นิ้ว, แร็คหลังคา, หน้าปัดดิจิทัล 7 นิ้ว, จอ Infotainment 10.1 นิ้ว, ระบบปรับอากาศ, เบาะนั่งปรับมือ, เซนเซอร์ช่วยจอดด้านหลัง, กล้องมองหลัง และระบบ ADAS พื้นฐาน
สองขุมพลังให้เลือก
Duster Cargo มาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ไฮบริด 2 แบบคือ Mild-hybrid 130 4×4 และ Hybrid 155 ซึ่งเพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ในไลน์อัป รุ่นแรกเหมาะสำหรับคนที่มองหาความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่วนรุ่นหลังเน้นเรื่องประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันมากกว่า
Duster Cargo เปิดรับจองในสหราชอาณาจักรแล้ว โดยราคาเริ่มต้นที่ 22,995 ปอนด์ (ประมาณ 1.08 ล้านบาท) สำหรับรุ่น Mild-hybrid 130 4×4 และ 23,595 ปอนด์ (ประมาณ 1.11 ล้านบาท) สำหรับรุ่น Hybrid 155 โดยราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม, ค่าจดทะเบียน และค่าจัดส่ง
Source: Carscoops