ประสบความสำเร็จจากการแนะนำ JAECOO 5 EV จนมียอดจองกว่า 5,000 คันปีนี้ OMODA&JAECOO พร้อส่งรุ่นใหม่ถึง 9 รุ่นหนึ่งในนั้นคือ OMODA C3 EV
OMODA C3 EV เปิดตัวครั้งแรกของโลกเมื่อ 26 เมษายนที่ผ่านมาที่งาน Shanghai Auto Show มาในร่างซับคอมแพ็คเอสยูวี
ด้วยหน้าตาคล้ายต้นฉบับ Lamborghini URUS และหุ่นยนต์ Gundam มาผสมมสานอย่าลงตัวด้วยกระจังหน้าทรงทึบติดตรา OMODA พร้อมกันชนหน้าทรงสปอร์ต ประกบกับไฟ DRL แบบ LED ถัดลงมาเป็นไฟหน้า LED 2 ดวงในกรอบทรงสายฟ้า และมีช่องระบายอากาศทรง 4 เหลี่ยม
ด้านข้างมีเส้นสายที่ลงตัวในชุดประตูรถ หลังคารถที่ลาดลงสีดำ หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ เสาอากาศครีบฉลาม กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูยกก้าน คิ้วขอบล้อสีดำทรง 6 เหลี่ยมเสริมเท่ด้วยล้ออัลลอยปัดงาขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/50R18 ไฟท้าย LED แนวยาวรูปตัวยู คว่ำ พร้อมกันชนหลังทรงสปอร์ตติดตั้งลิ้นสปอยเลอร์หลังในตัว ตัวถสร้างจกพื้นฐาน T1X ใช้ร่วมกับรุ่น C5, C7 และ C9 ตั้งแต่
- ความยาว 4,200 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,760 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,570 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,555 มิลลิเมตร
ภายในดีไซน์คล้ายกับ JAECOO 5 EV ด้วยคอนโซลกลางยกสูงและพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันดีไซน์เก๋ 3 ก้าน มีหน้าจอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 13.2 นิ้วควบคุมฟังก์ชันส่วนใหญ่ของรถ มีหน้าปัดดิจิทัลเต็มรูปแบบขนาด 10.25 นิ้ว ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในรถยนต์แห่งอนาคต มีไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient Light) กระจายความสว่างให้รู้สึกอบอุ่น เครื่องปรับอากาศแยกส่วนอุณหภูมิซ้าย-ขวา และที่ชาร์จไร้สายกำลัง 50 W พร้อมความสบายแบบ 5 ที่นั่ง และเบาะหลังปรับพับได้ 60/40
ขุมพลังมีเลือกหลากหลายทั้งสันดาปล้วนปลั๊กอินไฮบริดและไฟฟาล้วนสำหรับไทยแน่นอนว่าเป็นขุมพลังไฟฟ้าล้วน โดยเตรียมเปิดตัวทั่วโลก ตุลาคมนี้ ส่วนไทยโชว์หล่อที่งาน Motor Expo 2025 ธันวาคม และขายจริงในช่วงไตรมาสที่ 3 ปีนี้ในเวอร์ชันรถประกอบในไทยทีจังหวัดระยอง นอกจากนี้ยังมีรถใหม่จะตามมาเพียบตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ตั้งแต่ OMODA C5 รุ่นปรับโฉมทั้งฟูลไฮบริดและไฟฟ้าล้วน OMODA C9 SHS, JAECOO 6T ปีหน้าพบกับ OMODA C7 SHS และ JAECOO 8 SHS
ทางด้านโรงงานประกอบที่จังหวัดระยองจะแล้วเสร็จภายในปี 2025 ด้วยมูลค่าการลงทุนที่วางแผนไว้ทั้งสิ้นราว 5,000 ล้านบาท โดยโรงงานแห่งนี้จะเป็น Hub of NEV (New Energy Vehicle) เริ่มจาก JAECOO 6 EV OMODA C5 EV, JAECOO 5 EV และปีหน้ากับ OMODA C3 EV นอกจากนั้นยังวางแผนในการตั้ง Training Center + R&D ภายในปี 2027
ในการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 60 แห่ง และตั้งเป้า 90 แห่งภายในปีนี้ ควบคู่กับแผนการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ทั้งยานยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดรุ่นใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค โดยให้ความสำคัญกับการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าอย่างครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการขาย การรับประกันคุณภาพ ไปจนถึงการบริการหลังการขายที่เป็นเลิศ
