“พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศนโยบายใหม่ในโอกาสครบรอบ 49 ปี องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เดินหน้าปรับลดค่าโดยสารรถเมล์ทั้งระบบ เป็นหนึ่งใน แพ็กเกจลดค่าครองชีพประชาชน พร้อมย้ำ “ทำได้จริงภายในปีนี้”
พร้อมเผยโรดแมปใหญ่ “ยกเลิก รถเมล์ร้อน ขสมก. ทั้งหมด 1,520 คัน” และดึงเอกชนร่วมเช่ารถเมล์ พลังงานไฟฟ้า (EV) เข้ามาให้บริการทดแทน โดย ลอตแรก 500 คัน จะเริ่มวิ่งให้บริการในเดือน กันยายน 2569 และจะทยอยรับมอบครบทั้งหมดภายในต้นปี 2570
ปรับโฉมระบบขนส่ง — คงราคา 8 บาทตลอดสาย แต่คุณภาพดีขึ้น
นายพิพัฒน์ย้ำว่า แม้จะเปลี่ยนเป็นรถเมล์อีวีใหม่ทั้งหมด แต่จะ ยังคงราคาค่าโดยสารเท่าเดิม 8 บาทตลอดสาย เพื่อไม่เพิ่มภาระประชาชน โดยรถเมล์ปรับอากาศที่ให้บริการอยู่ 1,363 คันในปัจจุบัน ก็อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทาง ปรับลดราคาค่าโดยสารลงเพิ่มเติม
นโยบายนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของ “แพ็กเกจลดค่าครองชีพภาครัฐ” ที่จะเริ่มทยอยประกาศหลังรัฐบาลแถลงนโยบายสิ้นเดือนนี้ ซึ่งจะครอบคลุมการใช้บริการขนส่งสาธารณะหลายประเภท ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า เรือ และระบบเดินทางเชื่อมต่ออื่น ๆ
“เมื่อมีการนำรถเมล์อีวีมาแทนรถร้อนแล้ว ประชาชนที่เคยจ่าย 8 บาทก็ควรได้ใช้บริการในราคาเดิม แต่คุณภาพดีขึ้น เพราะได้รถใหม่ แอร์เย็น และไม่ต้องทนควันดำอีกต่อไป”
— นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ กล่าว
รถเมล์ EV ช่วยลดต้นทุนปีละ 4,000 ล้านบาท
ปัจจุบัน ขสมก. มีรถให้บริการรวม 2,883 คัน แบ่งเป็น
รถปรับอากาศ 1,363 คัน
รถเมล์ร้อน 1,520 คัน
โดยรัฐบาลเตรียมเร่งเปิดรับฟังความคิดเห็นเอกสาร TOR ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนประมูล เพื่อจัดหารถเมล์อีวีใหม่เข้ามาแทนรถร้อนทั้งหมดภายในปี 2569–2570
การเปลี่ยนมาใช้รถอีวีจะช่วย ลดต้นทุนเชื้อเพลิงกว่า 2,090 ล้านบาทต่อปี และ ค่าซ่อมบำรุงกว่า 1,800 ล้านบาทต่อปี รวมแล้ว ลดค่าใช้จ่ายได้สูงสุดราว 4,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะช่วยให้ ขสมก. ลดการขาดทุนสะสมและพึ่งพาเงินอุดหนุนจากรัฐน้อยลง
ตั้งเป้าล้างหนี้ 1.5 แสนล้านบาทหลังปี 2575
นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. ระบุว่า ปัจจุบัน ขสมก. รองรับผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 5–6 แสนคน และการปรับเปลี่ยนระบบรถเมล์สู่พลังงานสะอาดจะช่วยให้ ขสมก. ลดต้นทุนต่อเนื่องจนสามารถทำให้ EBITDA เป็นศูนย์ได้ในปี 2575 จากนั้นจะเริ่มมีกำไรเพื่อล้างขาดทุนสะสมกว่า 1.5 แสนล้านบาท ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
บทสรุปจาก Car2Day
การเปลี่ยนผ่านจาก “รถร้อน” สู่ “รถอีวี” ไม่เพียงเป็นก้าวสำคัญของระบบขนส่งไทย แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของ ระบบรถเมล์สะอาด–ค่าโดยสารคงที่–ต้นทุนลดลง ที่รัฐบาลตั้งใจผลักดันให้เห็นผลภายในปีนี้
ถ้าทำได้ตามแผน “รถเมล์อีวี 8 บาทตลอดสาย” อาจกลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของนโยบายลดค่าครองชีพ ที่ทั้งรักษ์โลกและช่วยให้ชีวิตคนกรุงดีขึ้นจริง
อ้างอิงจาก ไทยรัฐ
