ยังไม่ทันจะเปิดตัวและขายทาง MG ส่ง MG S6 EV ให้ทาง EURO NCAP เทสทดสอบความปลอดภัยทั้งก่อนและหลังการชนจนผ่านความปลอดภัยระดับ 5 ดาว
MG S6 EV ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด 5 ดาวจาก EURO NCAP (2025 Euro NCAP -European New Car Assessment Programme)
ซึ่งเป็นองค์กรทดสอบความปลอดภัยยานยนต์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด สะท้อนถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับสากล โดยจำลองการชนในหลากหลายสถานการณ์ เช่น การทดสอบชนแบบประสานงา การชนจากด้านข้าง และการชนจากฝั่งตรงข้ามห้องโดยสาร
นอกจากนี้ยังจำลองสถานการณ์การชนแบบที่มีผู้โดยสารอยู่ภายในรถเพื่อวิเคราะห์ความเสียหายและการซ่อมแซมชิ้นส่วนขนาดเล็ก และการปกป้องผู้โดยสารในทุกช่วงวัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงการชนด้วยความเร็วต่ำที่อาจพบบริเวณลานจอดรถ ซึ่งผ่านการประเมินความปลอดภัยของรถยนต์ อย่างเข้มงวด ดังนี้
การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ (Adult Occupant Protection) อยู่ที่ 92% การปกป้องผู้โดยสารเด็ก (Child Occupant Protection) อยู่ที่ 85% การปกป้องความเสี่ยงของผู้ใช้ถนน (Vulnerable Road Users) อยู่ที่ 84% และ ประสิทธิภาพของระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัย (Safety Assist) อยู่ที่ 78%
ภายนอก MG S6 EV คล้ายกับรุ่นน้อง MG S5 EV ด้วยกระจังหน้าทรงทึบไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED ทรงเรียบง่าย ถัดลงมาเป็นไฟหน้า LED กันชนหน้าทรงสปอร์ตพร้อมช่องระบายอากาศแบ่ง 2 ฝั่งคล้าย MG CYBERSTER ประดับด้วยคิ้วชายล่างสีดำใต้กันชนหน้า
ด้านข้างเท่ด้วยราวหลังคาดีไซน์บิ๊วอินน์พร้อมพาโนรามิกซันรูฟบานใหญ่ กรอบกระจกแบบโอเปร่ากระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว ที่เปิดประตูดีไซน์หรูแบบดึงก้าน คิ้วชายล่างประตูทรงหรู พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19-20 นิ้ว ด้านท้ายมีไฟท้าย LED แนวยาวคาดด้านท้ายพร้อมตรา MG และยังสามารถเปิด-ปิดฝาท้ายด้วยระบบไฟฟ้า
คาดว่าคันนี้สร้างจากแพลตฟอร์มไฟฟ้าล้วน Modular Scalable Platform (MSP) ออกแบบมาโดยเฉพาะกับรถไฟฟ้า เหมือน MG4 Electric และ MG S5 EV โดยมีมิติดังนี้
- ความยาว 4,708 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,912 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,664 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,835 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 190 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,900-2,005 กิโลกรัม
ภายในยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลคาดว่าจะมาในแบบ 5 ที่นั่งพร้อมยกออปชันมาจาก MG S5 EV ทั้ง แผงคอนโซลหน้าติดตั้งจอมาตรวัดความเร็วสี TFT 10.25 นิ้ว และจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.8 นิ้วชัดแบบ 2.5K HD รวบรวมการทำงานของแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple Car Play และ Android Auto พร้อมลำโพง 6 จุด
ช่องเสียบ USB-C 2 จุดหน้า และ 1 จุดหลัง ที่ชาร์จมือถือไร้สาย Wireless Charging ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ Zebra Smart System ช่วยยกระดับคุณค่าและประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถ รวมถึงการเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ให้ง่ายยิ่งขึ้น
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงท้ายตัด D-shape มีช่องแอร์เชื่อมต่อกับชุดคอนโซลหน้าอย่างลงตัวพร้อมหัวเกียร์หุ้มหนัง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังมีกรองอากาศ PM 2.5
กระจกมองหลังตัดแสงแบบอัตโนมัติ กุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start เบรกมือไฟฟ้า และ Auto Hold เบาะนั่งคู่หน้ามีทั้งแบบปรับด้วยไฟฟ้าด้านคนขับปรับ 6 ทิศทางและด้านคนนั่งปรับ 4 ทิศทางเบาะหลังพับได้ 60/40 และ NVH LUXURY SILENCE SPACE เพิ่มฟิล์มกันเสียงและแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร
ขุมพลังไฟฟ้ามีการเปิดเผยแล้วว่าเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) 62.2kWh 245 แรงม้า แบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง และแบบนิกเกิลแมงกานีสโคบอลต์ (NCM) 77kWh มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อให้กำลังรวม 362 แรงม้า จากมอเตอร์ล้อหน้า 162 แรงม้า และมอเตอร์ล้อหลัง 245 แรงม้า สามารถลากจูงได้สูงสุด 1,500 กิโลกรัม
เชื่อว่าคันนี้จะให้มีการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 ระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง ผสานกับการวางตำแหน่งแบตเตอรี่ที่ช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถให้ต่ำลง (Low Centre of Gravity) ส่งผลให้การยึดเกาะถนนเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม เพิ่มเสถียรภาพขณะเข้าโค้งและการเร่งแซง
MG S6 EV รุ่นใหม่เตรียมเปิดตัวภายในปี 2026 โดยออสเตรเลียเผยโฉมช่วงครึ่งปีแรก และยุโรป ท้าชนคู่แข่งทั้ง Tesla Model Y GEELY EX5 XPENG X6 และ BYD Sealion 7

















