More

    BMW R 1300 RT ตัวท็อปรุ่นใหม่ ตระกูล RT แบบทัวร์ริ่ง เริ่มต้น 1.439 ล้านบาท

    BMW Motorrad มอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่ง R 1300 RT ตัวท็อปรุ่นใหม่ของตระกูล RT ที่สร้างมาตรฐานใหม่ด้วยนวัตกรรมรอบด้าน ทั้งระบบช่วงล่างที่พัฒนาขึ้นใหม่ ระบบช่วยเหลือการขับขี่อันชาญฉลาด และรูปลักษณ์ใหม่ที่ให้ความรู้สึกปราดเปรียว แต่ยังคงปกป้องผู้ขับขี่จากสภาพแวดล้อมได้ยอดเยี่ยม

     

    BMW R 1300 RT

     

    “การขับขี่ทางไกลเป็นโจทย์ที่ทดสอบความสามารถของมอเตอร์ไซค์ทุกคันได้ดีที่สุด และเราเชื่อว่าบีเอ็มดับเบิลยู R 1300 RT ใหม่ พร้อมเป็นเพื่อนร่วมทางของคุณสำหรับทุกบททดสอบบนเส้นทางที่คุณเลือก พร้อมให้นักบิดทุกคนได้สัมผัสกับที่สุดของคุณภาพและความล้ำสมัย นับตั้งแต่ความสบายขณะเดินทาง การปกป้องผู้ขับขี่จากสภาพแวดล้อมภายนอก สมรรถนะเพื่อการขับขี่ที่ราบรื่น ไปจนถึงงานออกแบบที่สง่างาม” มร. สเวน เยิร์ก ริทเทอร์ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย กล่าว

    บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 RT ใหม่ มาพร้อม 2 รุ่นย่อย ได้แก่

    • รุ่น Impulse กับลุคโฉบเฉี่ยวสะดุดตาในสีน้ำเงิน Racing Blue metallic และล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 17 นิ้ว ราคา 1,439,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
    • รุ่นพิเศษ Option 719 Camargue ที่สง่างามไปอีกระดับในสีน้ำเงินอมเขียว Blue Ridge Mountain metallic ชุดแต่ง Option 719 Shadow Milled Parts ล้อแบบสปอร์ตในขนาดเดียวกัน ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์ Automated Shift Assistant (ASA) ชุดเครื่องเสียงแบบอัปเกรด Audio Pro ไฟหน้า LED พิเศษเพิ่มอีกหนึ่งดวง และท็อปเคสขนาดใหญ่อีกหนึ่งใบ ราคา: 1,569,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

    แชสซีของบีเอ็มดับเบิลยู R 1300 RT ใหม่ ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยมีหัวใจสำคัญเป็นเฟรมหลักของตัวถังที่ทำจากเหล็กกล้า ทั้งมีขนาดกะทัดรัดกว่าและแข็งแกร่งกว่า RT รุ่นก่อน เมื่อนำตัวถังนี้ไปจับคู่กับเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนทั้งหมดที่พัฒนาขึ้นให้มีขนาดเล็กลงเช่นกัน จึงทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่พอดีกับรูปทรงของตัวรถมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ควบคุมรถได้แม่นยำและมั่นคงกว่าเดิม

    แผงบังลมด้านข้างตัวรถสามารถปรับองศาการทำมุมได้ เพื่อเลือกระหว่างความเย็นสบายจากกระแสลมที่ไหลผ่านตัว หรือกางออกเพื่อเบนกระแสลมและหยดฝนให้ออกห่างผู้ขับขี่ ขณะที่แผงบังเครื่องยนต์ด้านข้างช่วยปกป้องส่วนรองเท้าและข้อเท้าให้ไม่โดนน้ำ แม้จะต้องออกเดินทางกลางฝน

    BMW R 1300 RT

    ทั้งแฮนด์รถ ที่วางเท้า และเบาะนั่ง ผ่านการปรับแต่งและวางตำแหน่งให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ขับขี่ โดยขยับตัวผู้ขับมาทางส่วนหน้ารถมากขึ้นกว่าใน RT รุ่นก่อนๆ เพื่อให้ส่วนหน้ารถตอบสนองต่อทุกการควบคุมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เสริมให้ตัวรถคล่องแคล่วกว่าในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง โดยที่ยังคงความแม่นยำและนุ่มนวลไว้เช่นเคยสำหรับวันสบายๆ

    ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระในรุ่นนี้ มีเคสเก็บของขนาด 27 ลิตรสองชิ้นติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยแต่ละเคสสามารถปรับขยายพื้นที่ภายในให้มีความจุได้สูงสุด 33 นิ้ว ซึ่งจะทำให้ตัวรถกว้างขึ้นเล็กน้อย ส่วนท็อปเคสด้านบน มีมาให้สองใบเช่นกันที่ความจุ 39 และ 54 ลิตร ขณะที่รุ่นพิเศษ Option 719 Camargue มีท็อปเคสขนาดใหญ่พร้อมพนักพิงติดระบบทำความร้อนเพิ่มมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานอีกด้วย

    ตัวถังที่ออกแบบใหม่ พร้อมด้วยคุณสมบัติครบครันทั้งหมดนี้ ติดตั้งอยู่บนระบบช่วงล่างที่ใช้เทคโนโลยี Dynamic Chassis Adaption (DCA) ซึ่งใช้ระบบไฟฟ้าปรับความแข็งของสปริงและระบบกันกระเทือน ทั้งยังปรับตั้งค่าตัวรถให้

    ทำมุมเอียงกับพื้นได้สองโหมด โดยโหมดมาตรฐานจะตั้งค่ามาให้แผงคอของตัวรถขนานไปกับพื้นถนน เพื่อเสริมความนุ่มนวลและมั่นคงในการขับขี่ ส่วนโหมดที่สองจะตั้งค่าให้ตัวรถยกสูงขึ้น โดยช่วงท้ายรถจะยกขึ้นสูงกว่าส่วนหน้า พร้อมด้วยสปริงและระบบกันกระเทือนที่ปรับให้แข็งกว่าโหมดแรก ซึ่งทำให้ตัวรถตอบสนองกับการควบคุมได้แม่นยำและรวดเร็วขึ้น

    BMW R 1300 RT

    BMW R 1300 RT

    ด้านหน้า มีชุดไฟหน้า LED ที่ส่องสว่างเพื่อเสริมความปลอดภัยในทุกเส้นทาง พร้อมด้วยแพ็คเกจ Headlight Pro ที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับตลาดไทย เพิ่มความสามารถในการปรับองศาของไฟหน้าให้ก้มหรือเงยตามมุมกดของตัวถังรถ จึงช่วยให้ไฟหน้ารักษาระยะทางการส่องสว่างให้สูงสุดในทุกสถานการณ์การขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นขณะเร่งความเร็ว ชะลอความเร็ว หรือการปรับองศาตัวรถผ่านระบบช่วงล่าง DCA

    BMW R 1300 RT ระบบขับเคลื่อน ด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์พัฒนาขึ้นมาใหม่ 2 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 1,300cc รุ่นนี้นับเป็นเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดจากสายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู ให้พละกำลังสูงสุดที่ 107 กิโลวัตต์ / 145 แรงม้า ที่แรงบิด 7,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 149 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที

    เครื่องยนต์ตัวนี้ทำงานร่วมกับชุดเกียร์ 6 สปีดและคลัทช์แบบเปียกที่มีฟังก์ชันป้องกันล้อหลังล็อกมาในตัว แต่ยังขับง่ายด้วยระบบ Shift Assistant Pro ที่ติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐาน ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องใช้งานคลัทช์ ส่วนในรุ่นพิเศษ Option 719 Camargue เสริมความสะดวกไปอีกขั้นด้วยระบบ Automatic Shift Assistant (ASA) ที่ควบคุมทั้งคลัทช์และเกียร์แบบอัตโนมัติในทุกขั้นตอน

    BMW R 1300 RT

    บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 RT ใหม่ ติดตั้งแพ็คเกจ Riding Modes Pro มาให้เป็นมาตรฐาน จึงมีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 5 โหมด เริ่มจากโหมด “Rain” และ “Road” ที่ปรับการทำงานของตัวรถให้เข้ากับสภาพถนนและอากาศในขณะนั้น โหมด “Eco” ที่นำเทคโนโลยี BMW ShiftCam มาช่วยเค้นประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ให้เดินทางต่อไปได้ไกลที่สุดด้วยน้ำมันเพียงถังเดียว และโหมด “Dynamic” และ “Dynamic Pro” ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานคู่กับช่วงล่างเทคโนโลยี Dynamic Chassis Adaption (DCA) สามารถปรับความสูงของตัวรถ ความแข็งของสปริง และระบบกันสะเทือน เพื่อความคล่องตัวสูงสุดขณะขับขี่

    BMW R 1300 RT

    ระบบช่วยเหลือการขับขี่

    • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Dynamic Cruise Control (DCC) พร้อมฟังก์ชันช่วยเบรก
    • ระบบ Active Cruise Control (ACC) ที่สามารถกำหนดระยะห่างจากรถคันหน้าได้
    • ระบบเตือนการชนด้านหน้า Front Collision Warning (FCW)
    • ระบบช่วยการมองด้านข้าง Side View Assist (SVA) ที่ใช้เรดาร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางทั้งด้านหน้าและด้านหลังรถ

    ฟังก์ชันทั้งหมดนี้ พร้อมด้วยระบบนำทางและการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ สามารถเรียกใช้งานได้ผ่านหน้าจอ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว

    นอกจากนี้มีการติดตั้งชุดเครื่องเสียง Audio System ที่ให้ความเพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยชุดลำโพงทิ่ติดตั้งมาในตัว พร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสารของผู้ขับขี่ด้วยเช่นกัน

    BMW R 1300 RT

    ส่วนรุ่นพิเศษ Option 719 Camargue ยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงไปอีกขั้นด้วยชุดเครื่องเสียงจากแพ็คเกจ Audio Pro ด้วยชุดลำโพงคุณภาพสูงที่สามารถควบคุมเสียงเบสและเทรเบิลแยกจากกันได้ สามารถเซฟการตั้งค่าเสียงเป็นโปรไฟล์ได้ และมีฟังก์ชัน Dynamic Volume Control ที่ปรับระดับเสียงเพลงแบบอัตโนมัติตามความจำเป็นในแต่ละสถานการณ์

    รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts