เรียกว่าเป็นรถที่ขายยาวนาน 11 ปี ครองตำแหน่งรถแซยิดเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ Mazda CX-3 แม้ปรับหน้าตาปรับไปแล้วถึง 2 ครั้ง
ล่าสุดที่ญี่ปุ่นเปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2026 หรือ MY2026 โดยเป็นการเพิ่มออปชันให้ครบครันครบถ้วนและเหลือรุ่นที่ทำตลาดเพียง 2 รุ่นย่อย สำหรับ Mazda CX-3
ภายนอกคงเดิม
ตั้งแต่กระจังหน้าทรงซิกเนเจอร์วิงโครเมียมพร้อมไส้ในแบบสีรมดำเงากระจกมองข้างทรงสปูนสีดำ ล้ออัลลอยลายทูโทนปัดเงาขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/50R18 คิ้วขอบล้อต่อเนื่องกับคิ้วชายล่างประตูตกแต่งสีดำเงา คิ้วโครเมียมขอบกันชนหน้า ด้านข้างและด้านหลังเสริมหรูให้เด่นชัด ไฟหน้า Projector แบบ LED ไฟ LED Daytime ในโคมเดียวกันพร้อมไฟปรับสูง-ต่ำได้อัตโนมัติ (ALH) ไฟท้าย LED Signature หลังคาซันรูฟไฟฟ้า
เพิ่มออปชันในรุ่น XD Vivid Monotone II ทั้ง กระจกกันรังสียูวี (ประตูหน้า) และกระจกกันรังสีอินฟราเรด (กระจกบังลม/ประตูหน้า) ส่วนรุ่นเบนซิน 15S Urban Dresser II ได้ไฟหน้าปรับสูง-ต่ำได้อัตโนมัติ (ALH) และตัดออปขันไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ในรุ่น XD Vivid Monotone II
ภายในคงเดิม
ติดตั้งระบบความบันเทิงและการสื่อสารด้วยจอสัมผัสขนาดใหญ่แบบ 8.8 นิ้ว สังเกตที่ตัวหน้าจอมีความยาวกว่าเดิมแบบล้นฐานตั้ง พร้อม Mazda Connect รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย พร้อมการให้บริการเชื่อมต่อทั้ง “Mazda Emergency Call” และ “Mazda Advice Call” โทรแจ้งสายด่วนแพทย์ฉุกเฉิน แจ้งตำรวจ ยามมีเหตุภัยร้ายแรงกรณีที่เจ็บป่วยกะทันหัน รถเสียสามารถแจ้งทางดีลเลอร์หรือบริการฉุกเฉินรถยกได้และยังสะดวกสบายเพลิดเพลินกับการค้นหารถโดยเป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่น
โทนห้องโดยสารมาแบบสองสีทั้ง สีทูโทนดำ/น้ำเงิน กับ ทูโทนขาว/แทน ทั้งในชุดเบาะหุ้มกึ่งหนังแท้ หนังสัมผัสชุดคอนโซลหน้ากับแผงประตูและวงแหวนช่องแอร์ตามโทนสีเบาะ ปุ่มควบคุม Center Commander ที่คอนโซลกลาง ที่ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger
เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมพนักวางแขนทั้งด้านหน้าและหลังมาพร้อมที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง เบรกมือไฟฟ้า (EPB) พร้อมระบบ Auto Hold จอแสดงผลบนแผงคอนโซลหน้า Head Up Display โดยในรุ่นดีเซล XD Vivid Monotone II ตัดออปชัน เบาะคนขับปรับไฟฟ้าด้านคนขับ 10 ทิศทาง พร้อมดันหลังและบันทึกความจำเบาะคนขับ 2 ตำแหน่ง และ Paddle Shift หลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน
สเปกญี่ปุ่นต่างจากไทย
ตรงที่ใช้ขุมพลัง SKYACTIV ทั้งเบนซินและดีเซลและคนละขนาดกับไทยเริ่มที่เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 1.5 ลิตร รหัส P5-VPS ให้กำลังสูงสุด 111 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 144 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที และดีเซลเทอร์โบ SKYACTIV-D 1.8 ลิตร รหัส S8-DPTS พัฒนาให้กำลังแรงกว่าเดิมถึง 130 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดเท่าเดิม 270 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที (เดิมให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้า)
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE 6 สปีดเปลี่ยนเกียร์ทันใจด้วย ACTIVEMATIC สามารถเลือกโหมดขับขี่ Sport ได้ในรุ่นเบนซิน เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ควบคุมการขับขี่ด้วยระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า (EPAS) และระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC) ช่วยให้ควบคุมแรงบิดเครื่องยนต์ ส่งผลให้การขับขี่ทางโค้งราบรื่น
ความปลอดภัย i-ACTIVSENSE
- ควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control) พร้อมฟังก์ชัน Stop & Go
- อ่านป้ายจราจร traffic sign recognition
- เตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
- ช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- กล้องรอบคัน 360 องศา (360 ̊ View Monitor)
- เซนเซอร์กะระยะด้านหน้า-หลัง 4 จุด และด้านหลัง 2 จุด
สัญญาณไฟกระพริบเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกรถอย่างกระทันหัน ESS (EMERGENCY SIGNAL SYSTEM) ถุงลงนิรภัยคู่หน้าด้านข้างกับม่านถุงลมนิรภัย ,ล็อกความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control, ช่วยควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control), ช่วยในการออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist) ช่วยป้องกันรถเลื่อนไถล TCS (Traction Control System) ระบบควบคุมการเปิดปิดกระจกไฟฟ้าและกระจกมองข้างพับอัตโนมัติหลังล็อกรถ
Mazda CX-3 MY2026 ขาย 2 รุ่นย่อยทั้งรุ่นเบนซิน 15S Urban Dresser II และดีเซล XD Vivid Monotone II (ตัดรุ่น 15S Touring 15S Vivid Monotone และ XD Touring) โดยมีสีภายนอก 5 สี ในรุ่น เบนซิน 15S Urban Dresser II ได้แก่
- สีแดง Soul Red Crystal
- สีขาวมุก Snowflake White Pearl
- สีเทา Aero Gray Metallic
- สีดำ Jet Black
- สีบรอนซ์ทอง Platinum Quartz
รุ่น ดีเซล XD Vivid Monotone II มี 3 สี หลังคาสีดำ Black Cabin ทั้ง
- สีบรอนซ์ Platinum Quartz
- สีแดง Soul Red Crystal
- สีเทา Aero Gray Metallic
ในราคาขายที่ญี่ปุ่นเริ่มต้น 2,074,900-3,315,400 YEN หรือราว 425,000-675,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย แต่ถ้าขายไทยราคารวมภาษีจะอยู่ที่ 799,000-1,266,000 บาท ผลิตที่โรงงาน ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) ตำบล ปลวกแดง อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง โดยเปิดรับจองล่วงหน้าก่อนขายจริงปลายเดือนธันวาคมนี้
ที่มา Carwatch
