โกลบอลโมเดลลำดับที่ 3 ของค่าย DENZA ต่อจาก DENZA D9 และ DENZA B5 ทำตลาดออสเตรเลียควบคู่กันนั่นคือ DENZA B8 เอสยูวีสบายแบบ 3 แถว

DENZA B8 มาจากพื้นฐาน BAO 8 จากค่าย FANGCHENGBAO เปลี่ยนตราเปลี่ยนสไตล์ในแบบ DENZA
แนวคิด High Technology & Luxury Off-Road SUV
ผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่เข้ากับความหรูหรา จนเกิดเป็นรถยนต์ SUV สุดหรูที่พร้อมมอบประสบการณ์ของการผจญภัยให้ผู้ขับขี่ เริ่มที่หน้าตาล้อมรอบด้วยไฟหน้า Matrix LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED ในโคมเดียวกัน รวมถึงกรอบไฟล้อมกรอบกระจังหน้าส่วนบนประดับด้วยไฟ LED และไส้ในกระจังหน้าติดตราโลโก้เดนซ่า กันชนหน้าสุดแกร่งพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED
ด้านข้างบึกบึนแกร่งเท่กับดีไซน์ทรงเหลี่ยมดุทั้งคันตั้งแต่คิ้วขอบล้อสีดำ กระจกมองข้างทรงเหลี่ยม ราวหลังคา พร้อมหลังคาพาโนรามิกซัฟรูฟเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าแบบเต็มบาน รวมถึงด้านท้ายติดตั้งฝาครอบยางอะไหล่ในชุดฝาท้ายเปิดทั้งบานและไฟท้าย LED แนวตั้ง ล้ออัลลอยลายเข้มขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 275/55R20 จาก Michelin สร้างจากพื้นฐานแพลตฟอร์ม DM-o hybrid platform แชสซีขั้นบันได Body on Frame
- ความยาว 5,195 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,994 มิลลิเมตร
- ความสูงรวมหลังคา 1,905 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,920 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 310 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 3,290 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 91 ลิตร

ภายในเท่หรูสไตล์รถลุย
ตั้งแต่แผงคอนโซลหน้าทรงเหลี่ยมหุ้มหนังสัมผัส มาพพร้อมหน้าจอทั้งหมด 4 จอเริ่มที่มาตรวัดดิจิทัล LCD ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบอินโฟเทนเมนต์ DiLink150 พร้อมชิป BYD9000 ผ่านหน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียขนาด 17.3 นิ้ว ชัดแบบ 2.5 K
หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียสำหรับผู้โดยสารขนาด 12.3 นิ้ว ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้าแบบ AR (AR-HUD) ขนาด 50 นิ้ว และกระจกมองหลังแบบสตรีมมิ่ง ลำโพงจาก DEVIALET 18 จุดรอบคันเพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานมัลติมีเดียที่หลากหลายและครบวงจรด้วยกำลังขับ 800W พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสี่ก้านหุ้มหนัง

ปีกคอนโซลเกียร์หุ้มหนังสัมผัสซ้ายขวาเด่นด้วยช่องแอร์แนวนอนพร้อมที่ชาร์จมือถือไร้สาย 2 ช่อง กำลัง 50 W มือจับเกียร์หุ้มหนังดีไซน์จับกระชับมือรายล้อมด้วยปุ่มหลายปุ่มเช่น ปุ่มไฟฉุกเฉิน ฯลฯ ที่วางแก้ว ที่ท้าวแขนตรงคอนโซลกลางหุ้มหนัง เปิดข้างพร้อมช่องเก็บของและตู้เย็นจิ๋วขนาด 7 ลิตร แช่เครื่องดื่ม ระบบกุญแจ NFC ที่เสียบช่อง USB ทั้ง Type A และ Type C รวม 5 จุด เบรกมือไฟฟ้า Electric Parking Brake System (EPB) พร้อม Auto Hold เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิอัตโนมัติ 3 โซน พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง และกระจกมองหลังอัจฉริยะ Digital ในรุ่น 6 ที่นั่ง

เบาะนั่งหุ้มกึ่งหนังแท้ NAPPA สีน้ำตาล Jasper Brown แบบ 6 ที่นั่ง 2+2+2 และหุ้มหนังสีดำ Onyx Black 7 ที่นั่ง 2+3+2 โดยพื้นที่วางขาแถวที่ 2 ยาว 870 มิลลิเมตร และแถวที่ 3 ยาว 800 มิลลิเมตร
เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าด้วยด้านคนขับปรับ 8 ทิศทางพร้อมระบบจดจำตำแหน่งเบาะ และคนนั่ง 6 ทิศทาง พร้อมนวดเบาะคู่หน้า อุ่นเบาะ เบาะเย็น ดันหลังปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง และระบบนวด เบาะนั่งตอนที่ 2 มาทั้งแบบ 2 ที่นั่ง เบาะแยกปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางพร้อมที่วางแขน นวดได้ 10 ระดับ หรือเบาะตอนที่ 2 แบบ 3 ที่นั่งปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง มาพร้อมอุ่นเบาะและเบาะเย็น สามารถพับได้แบบ 60:40 และตอนที่สามพับได้แบบ 50:50 ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระมากถึง 902-920 ลิตรกรณีพับเบาะตอนที่ 3 และถ้าไม่พับมีพื้นที่ 147 ลิตร

ขุมพลัง DMO (Dual Mode Off-road)
ขุมพลังเป็นเบนซินเทอร์โบ Plug In Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร รหัส BYD487ZQD ให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้าแรงบิด 350 นิวตันเมตร บวกกับการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Permanent magnet synchronous โดยมอเตอร์ล้อหน้า ให้กำลัง 272 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร และมอเตอร์ล้อหลัง 408 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 36.8 kWh
เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 578 แรงม้า แรงบิด 760 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายใน 4.8 วินาที ลากจูงได้สูงสุด 2,268 กิโลกรัม อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายใน 4.8 วินาที ลากจูงได้สูงสุด 3,500 กิโลกรัม
วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 115 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC) หรือ 98 กิโลเมตร (WLTP) และชาร์จหนึ่งครั้งและเติมน้ำมัน 1 ถัง วิ่งได้ไกล 1,040 กิโลเมตร (NEDC) หรือ 884 กิโลเมตร (WLTP) ชาร์จได้ทั้ง DC กำลังสูงสุด 120 kW 30-80% ภายใน 16 นาที ชาร์จ AC ได้สูงสุด 11 kW
รองรับฟังก์ชัน Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้ ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ และระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking)

จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะมี 4L พร้อมโหมดการขับขี่ทั้งหมด 16 โหมดแบ่งเป็นโหมดการขับขี่ปกติ 4 โหมด ทั้ง Eco, Normal, Comfort, Sport โหมดทางลุย Off Road Terrain 7 โหมดทั้ง MUD, Sand, Snow, Rock, Mountain, Wading, Smart Terrain และโหมดพิเศษ 5 โหมดทั้ง Racing, Creeping, Anti-Skid Chain, Panther Turn ,Violet และ Trailer พร้อมล็อกเฟืองขับไฟฟ้า Electric Differential Lock ให้เลือกทั้งล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลังในรุ่น 6 ที่นั่ง หรือด้านหลังในรุ่น 7 ที่นั่ง
ลุยน้ำสูงสุด 890 มิลลิเมตร มีมุมปะทะ Approach Angle 34 องศา มุมจาก Departure Angle 35 องศา มุมคร่อม Ramp-Over Angle หรือ Breakover Angle 26 องศา พร้อมช่วงล่างถุงลมแบบ DiSUS-P Suspension ปรับระดับสูงต่ำได้อย่างอิสระถึง 3 แบบ บนพื้นฐานช่วงล่างอิสระ 4 ล้อแบบ Double Wishbone และพวงมาลัยไฟฟ้า Electric Power Steering (EPS)
ความปลอดภัยรอบคันด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ ADAS
- ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go Adaptive Cruise Control-Stop and Go (ACC-S&G)
- ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking (AEB)
- ช่วยเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Detection (BSD)
- ช่วยรีดน้ำออกจากจานเบรกในขณะฝนตก Brake Disc Wiping System (BDW)
- ควบคุมการจอดรถที่เน้นการชะลอความเร็วและจอดรถอย่างเป็นระเบียบ Controller Deceleration Parking (CDP)
- ตรวจจับการมีอยู่ของเด็ก Child Presence Detection (CPD)
- ตรวจจับพฤติกรรมของผู้ขับขี่ Driver Distraction Monitoring (DDM)
- ตรวจจับความเหนื่อยล้า หาว ง่วงนอนของผู้ขับขี่ Driver Fatigue Monitoring (DFM)
- ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู Door Opening Warning (DOW)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในสถานการณ์ฉุกเฉิน Emergency Lane Keeping Assist (ELKA)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาด้านหน้า Forward Cross Collision Alert (FCTA)
- ช่วยเบรกเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาด้านหน้า Frontal Collision Braking (FCTB)
- แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ Intelligent Cruise Control (ICC)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Collision Alert (RCTA)
- ช่วยเบรกเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Collision Braking (RCTB)
- แจ้งเตือนก่อนกาชนด้านหลัง Rear Collision Warning (RCW)
- จดจำป้ายจราจร Traffic Sign Recognition (TSR)
ความปลอดภัยพื้นฐานมาครบทั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน 10 จุด ทั้งคู่หน้า ด้านข้าง ด้านหน้า ตรงกลางเบาะนั่งคนขับ ด้านข้างด้านหลัง ม่านนิรภัย และถุงลมตรงหัวเข่า ตรวจวัดแรงดันลมยาง Tire Pressure Monitoring System (TPMS) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX เบรกป้องกันล้อล็อก Antilock Brake System (ABS) ควบคุมการกระจายแรงเบรก Electronic Brake Force Distribution (EBD) เสริมแรงเบรกอัจฉริยะแบบไฮดรอลิก Hydraulic Brake Assist (HBA)
ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ Vehicle Dynamic Control System (VDC)-Electronic Stability Control (ESC) ป้องกันล้อหมุนฟรี Control System Traction (CST) ควบคุมการยึดเกาะถนนที่กระจายการทำงานไปยังล้อแต่ละข้างเพื่อป้องกันล้อหมุนฟรี Distributed Traction Control System (DTCS)
ควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน Hill Hold Control (HHC) กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา พร้อมกล้องมองภาพใต้ท้องรถ ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก Brake Override System (BOS) ป้องกันการพลิกคว่ำ Roll Movement Intervention (RMI) และเซนเซอร์กะระยะการจอดหน้า-หลังรวม 8 จุด

DENZA B5 ท้าชน Mercedes-Benz G-Class Toyota Land Cruiser 300 Nissan PATROL ทรงกล่อง 5 ประตูขายคู่กับ DENZA B5 เปิดขาย 2 รุ่นย่อยทั้งรุ่น 6 กับ 7 ที่นั่ง ส่งมอบล็อตแรกให้ลูกค้าตั้งแต่ต้นปี 2026 ในราคาไม่รวมค่า ค่าจดทะเบียนและภาษีถนน On-Road ของออสเตรเลีย $91,000-$97,990 หรือราว 1,915,000- 2,065,000 บาท มีสีภายนอก 4 สี
- สีขาว Alpine White
- สีดำ Eclipse Black
- สีบอรนซ์เงิน Nebula Silver
- สีทอง Dawn Gold
ที่มา CarEXpert










