ในอุตสาหกรรมยานยนต์ นอกเหนือจากดีไซน์ที่ทันสมัยแล้ว ความทนทานและสมรรถนะเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความเชื่อมั่นจนสามารถมัดใจผู้บริโภคได้ ล่าสุด ซูซูกิ บุกวงการมอเตอร์สปอร์ต เพื่อพิสูจน์ศักยภาพของรถยนต์รุ่นใหม่ในสภาวะการใช้งานที่ท้าทายกว่าบนท้องถนนทั่วไป
บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาสความท้าทายใหม่ เดินหน้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตอย่างเต็มตัว เพื่อพิสูจน์ทั้งความทนทาน สมรรถนะ และความคุ้มค่าของรถยนต์ซูซูกิ พร้อมตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์คุณภาพที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จุดเด่นสำคัญของรถยนต์ซูซูกิที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน ไม่เพียงในด้านความทนทานต่อการใช้งาน แต่ยังโดดเด่นเรื่องความคุ้มค่า คุ้มราคา อีกทั้งยังออกแบบให้เป็นรถที่ซ่อมบำรุงง่าย ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว
นอกเหนือจากคุณสมบัติพื้นฐาน รถยนต์ซูซูกิยังได้รับความเชื่อมั่นในด้านสมรรถนะการขับขี่ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกล ด้วยการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย การยึดเกาะถนน และการตอบสนองของเครื่องยนต์ ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ในทุกสภาพถนน
เพื่อตอกย้ำสมรรถนะที่โดดเด่นและยกระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้ชัดเจนขึ้น ซูซูกิสร้างปรากฎการณ์ใหม่ ด้วยการบุกวงการมอเตอร์สปอร์ตเป็นครั้งแรก ด้วยการสนับสนุนทีม KTN Garage Racing ทีมแข่งรถทางเรียบที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี และสามารถคว้าแชมป์มาครองหลายรายการ
โดยนำ ALL NEW SUZUKI FRONX มาตกแต่งในสไตล์รถแข่งทางเรียบเป็นครั้งแรกของอาเซียน และเตรียมส่งเข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ แบบมาราธอน 12 ชั่วโมง ในรายการ “IDEMITSU SUPER ENDURANCE THAILAND 2025” เพื่อพิสูจน์ความทนทานและสมรรถนะของรถภายใต้การขับขี่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
“การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบในรายการ IDEMITSU SUPER ENDURANCE THAILAND 2025 เป็นการแข่งขันแบบยาวนานถึง 12 ชั่วโมง ซึ่งเรามีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถแสดงสมรรถนะของรถที่มาพร้อมโครงสร้างตัวถัง TECT เหล็กกล้าน้ำหนักเบา ที่มีความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ พร้อมแพลตฟอร์ม HEARTECT เเอกสิทธิ์เฉพาะของซูซูกิ ได้เป็นอย่างดี”
เหตุผลที่เลือกสนับสนุนทีม KTN Garage Racing ที่นำโดย นายอรรถพล เดชมาก หรือ “บังหวัง” เพราะเป็นทีมแข่งมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับในวงการมอเตอร์สปอร์ตว่ามีประสบการณ์และความมุ่งมั่นสูง ทั้งยังมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของรถยนต์ซูซูกิ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทีม KTN Garage Racing แสดงให้เห็นถึงศักยภาพจากการนำรถยนต์ซูซูกิเข้าร่วมการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตในหลากหลายรายการ และสามารถสร้างผลงานคว้าชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อมั่นว่าทีม KTN Garage Racing จะสามารถนำ ALL NEW SUZUKI FRONX ลงสู่สนามแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตอกย้ำภาพลักษณ์ของรถยนต์ซูซูกิในฐานะยานยนต์ที่มีคุณภาพและมีสมรรถนะที่เหนือกว่าในการแข่งขันระดับมอเตอร์สปอร์ต
นายอรรถพล เดชมาก ผู้จัดการทีม KTN Garage Racing กล่าวว่า “ทีม KTN Garage Racing เป็นทีมแข่งรถที่ดำเนินงานอย่างเป็นมืออาชีพและถูกต้องตามกฎหมาย โดยได้รับใบอนุญาตการแข่งขันอย่างเป็นทางการจาก ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา (The Royal Automobile Association of Thailand Under Royal Patronage – RAAT) แสดงถึงมาตรฐานและความน่าเชื่อถือของทีม ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ทีมได้เข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างผลงานที่ได้รับการยอมรับ ด้วยการคว้าแชมป์และรางวัลจากหลายรายการแข่งขัน
สำหรับการแข่งขันประเภท Endurance ซึ่งเป็นการแข่งขันรถยนต์แบบมาราธอนหรือระยะยาว ที่ต้องใช้ความทนทานของรถยนต์ ความแข็งแกร่งของนักแข่ง รวมถึงกลยุทธ์การบริหารจัดการทีมที่ยอดเยี่ยม ทีม KTN Garage Racing จึงเลือกใช้รถยนต์ซูซูกิลงทำการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความเชื่อมั่นในคุณภาพของรถยนต์ซูซูกิ ซึ่งตอบโจทย์การแข่งขันที่ต้องใช้ความอดทนและสมรรถนะในการขับต่อเนื่องได้อย่างดีเยี่ยม
ผลงานของรถยนต์ซูซูกิในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต
- รองชนะเลิศอันดับ 2 รายการ SUPER ENDURANCE 600 Minutes รุ่น Eco Car สนามที่ 3
- ชนะเลิศอันดับ 1 รายการ RAAT Endurance 6 Hours รุ่น Eco Car สนามที่ 1
- ชนะเลิศอันดับ 1 รายการ RAAT Endurance 6 Hours รุ่น Eco Car สนามที่ 2
- Champions 2024 รายการ RAAT Endurance 6 Hours รุ่น Eco Car สนามที่ 3
- Champions 2024 รายการ Suzuki Club Challenge
- รองชนะเลิศอันดับ 2 และอันดับ 6 รายการ Super Endurance 25 Hours
การแข่งในปี IDEMITSU SUPER ENDURANCE THAILAND 2025 ทีม KTN Garage Racing เชื่อมั่นว่า ALL NEW SUZUKI FRONX จะเป็นรถที่สามารถพัฒนาและยกระดับไปสู่การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบได้ ด้วยขนาดตัวถังที่มีความเหมาะสม ความยาวของฐานล้อ และความโดดเด่นของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้ทั้งอัตราเร่งและความทนทาน ที่รองรับการแข่งขันที่ต้องขับขี่ในระยะเวลานานตลอด 12 ชั่วโมงได้เป็นอย่างดี
นายวัลลภ กล่าวทิ้งท้ายว่า “การส่ง ALL NEW SUZUKI FRONX ลงแข่งขันในรายการ IDEMITSU SUPER ENDURANCE THAILAND 2025 น่าจะเป็นบทพิสูจน์ถึงความทนทานของโครงสร้างตัวถัง สมรรถนะของเครื่องยนต์ ละความแข็งแกร่งในสภาวะการขับขี่ที่ต้องทำงานอย่างต่อเนื่องตลอด 12 ชั่วโมง เป็นการตอกย้ำว่ารถรุ่นนี้ไม่ได้เป็นเพียง SUV สไตล์สปอร์ตสำหรับการใช้งานประจำวัน แต่เต็มไปด้วย ด้วย DNA ที่พร้อมรับมือกับทุกความท้าทาย”
IDEMITSU SUPER ENDURANCE THAILAND 2025 จะเริ่มแข่งขันสนามแรกระหว่างวันที่ 18-20 ธันวาคม 2568 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ย์
ที่มา: suzuki.co.th
ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้ที่:car2day.com












