ถึงจะเป็นปีเสือแต่สถาการณ์ โควิด-19 ที่มีสายพันธฺ์ใหม่อุบัติขึ้นก็ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไทยสั่นคลอนไปบ้างแต่ไม่มาก
ถึงจะมีโควิดแต่การเปิดตัวรถใหม่ยังคงเดินหน้าต่อไปปีนี้มีรถยนต์ใหม่เปิดตัวหลากหลายกลุ่มแต่ถ้าจะมาเจาะลึกจริงๆ คงหนีไม่พ้นรถยนต์กลุ่มเอ็มพีวีขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมแถมเป็นขวัญใจกลุ่มครอบครัว เริ่มใช้ชีวิตคู่มีลูก กลุ่มวัยทำงานที่ต้องการรถเอ็มพีวีเล็ก ตอบโจทย์การเดินทางคล่องตัว สะดวกสบายแบบ 7 ที่นั่ง อรรถประโยชน์เหลือล้น สมรรถนะแรงพอตัว ความปลอดภัยเหนือชั้นและค่าตัวน่าคบในราคาจับต้องได้ โดยตลาดกลุ่มนี้จะมีทั้ง Suzuki Ertiga, Honda Mobilio, Toyota Avanza, และ Mitsubishi Xpander แต่ถ้าเป็นแต่งยกสูงหรือ Crossover MPV เอ็มพีวี จะมีทั้ง Suzuki XL-7, Honda BR-V, และ Mitsubishi Xpander Cross ในรูปแบบเจนเนอเรชั่นใหม่ กับ ปรับโฉมในร่างเดิม หรือเรียกว่ากัน Facelift กันล้นหลาม โดยอินโดนีเซียเป็นฐานใหญ่เปิดตัวครั้งแรกในโลกและเรื่มทยอยส่งมาหลายประเทศรวมถึงเมืองไทยด้วย และครั้งนี้ Car2Day จึงขอเปรียบเทียบรถยนต์เอ็มพีวีเล็กสองรุ่นที่จ่อเปิดตัวในไทยภายในปีนี้ กับ Toyota Avanza (Toyota Veloz) เจเนอเรชั่นใหม่ และ Mitsubishi Xpander Facelift ปรับโฉมเป็นครั้งที่สองในร่างเดิม เริ่มกันที่
ภายนอก
Toyota Avanza เจเนอเรชั่นที่ 3 โดยสเปกไทยมีความเป็นไปได้ว่าจะใช้หน้าแบบเดียวกับ Toyota Veloz สเปกอินโดนีเซีย เริ่มที่ความหล่อแนวสปอร์ตแฝงความหรูเอาไว้คล้ายเจ้าหน้าบึ้ง Corolla Cross กระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูขนาบข้างด้วยไฟหน้า LED ทรงเรียว รับกับชุดกระจังหน้าขนาดใหญ่ ใส่กรอบไฟตัดหมอกแบบทรงกลมมาด้วย ดานข้างสปอร์ตขึ้นกับ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสูปน ขอบโครเมี่ยมที่กรอบกระจก ล้ออัลลอยลายใหม่เลือกได้ทั้ง 2 แบบตั้งแต่ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 195/60 R16 และ 17 นิ้ว พร้อมยาง 205/50R17 ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED แนวยาว ติดตราสามหว่ง พร้อมกันชนท้ายทูโทน
ทางด้าน Mitsubishi Xpander Facelift เป็นกาปรับโฉมครั้งที่สองในรอบ 4 ปีของการทำตลาด ปรับครั้งนี้ถอดแบบจากรุ่นพี่ Mitsubishi Outlander สไตล์ Dynamic Shield เริ่มที่ชุดไฟหน้าเปลี่ยนแปลงในส่วนไฟส่วนบนยังเป็น Daytime LED อยู่ตำแหน่งเดิม ไฟหน้า LED จะอยู่ในชุดกันขนหน้าแบบ Sideways-T รวมถึงไฟตัดหมอกหน้า ทรงกลม รับกับกระจังหน้าสไตล์ใหม่ ล้ออัลลอยทูโทนลายใหม่มีทั้งขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 205/55 R16 และใหม่ขนาด 17 นิ้ว ไฟท้ายก็มีการปรับดีไซน์ด้วยเช่นกันเป็นแบบ LED พร้อมกันชนหลังออกแบบใหม่ดูสปอร์ตกว่าเดิมด้วยชุดเสริมกันขนหน้า-หลังลงตัวอย่างแนบเนียน
มิติตัวรถ
เมื่อนำมาเทียบกันจะพบว่า Mitsubishi Xpander Facelift มีมิติตัวรถเกือบใหญ่กว่าถึงจะทำตลาดมานานกับร่างนี้ โดยความยาว Xpander ยาวกว่า Avanza 120 มม. ความสูง Xpander สูงกว่า 50 มม. ฐานล้อ Xpander ยาวกว่า 25 มม. ความสูงใต้ท้องรถ Xpander สูงกว่า 15 มม. ความจุถังน้ำมัน Xpander จุมากกว่า 2 ลิตร แต่ความกว้างและน้ำหนักรถทั้งสองรุ่นเท่ากัน โดย Mitsubishi Xpander Facelift มีการปรับปรุงในส่วนของระยะต่ำสุดจากพื้นสูงขึ้น 220-225 มม. ปรับทัศนวิสัยการมองเห็นได้ดีกว่า ขยายระยะยื่นด้านหน้าเป็น 75 มม. และเพิ่มโอเวอร์แฮงค์ด้านหลังเป็น 45 มม. ส่วน Toyota Avanza เจนใหม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ไอหวังซ่า เดิมที่เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง Body-On-Frame มาเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้าบนแพลตฟอร์มใหม่ Daihatsu New Global Architecture (DNGA) แบบโมโนค็อก โดย
ภายใน
Toyota Avanza ยังคงให้ความสบายแบบ 7 ที่นั่งเช่นเดิมกับการเปลี่ยนแปลงใหม่หมดเริ่มกันที่ คอนโซลหน้าสีดำมีช่องเว้าใส่ของบนเก๊ะใส่ของฝั่งผู้โดยสาร จอสัมผัสแบบลอยตัว 9 นิ้ว มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID แบบสี TFT 4.2 นิ้ว หรือมาตรวัดดิจิทัล 7 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน พร้อม Push Start ช่องเสียบ USB ด้านหน้าและหลัง และเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ แยกส่วนความเย็น หน้า-หลัง จอทีวีบนเพดาน ไฟสร้างบรรยากาศในรถ Ambient light เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold ที่วางชาร์จมือถือไร้สาย Wireless Charger
ส่วน Mitsubishi Xpander Facelift ปรับเล็กๆน้อยๆแต่ทันสมัยด้วย ด้วยเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสามก้านออกแบบใหม่ จอสัมผัสใหม่ 9 นิ้ว บนความสบายจาก 7 ที่นั่ง มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ TFT ขนาด 4.2 นิ้วพร้อมการแสดงผลแบบภาพเคลื่อนไหว 3 มิติ และที่วางชาร์จมือถือไร้สาย Wireless Charger
เครื่องยนต์
Toyota Avanza ใช้ขุมพลังเบนซิน Dual VVT-i โดดเด่นและประหยัดน้ำมัน สำหรับสเปกไทยจะมีขนาดเดียวคือรหัส 2NR-VE 1.5 ลิตร 106 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 137 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ทางด้าน Mitsubishi Xpander Facelift ใช้เครื่องเดิมคือ เครื่องยนต์เบนซิน MIVEC 1.5 ลิตร 4A91 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 141 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบ/นาทีแต่งานนี้ ปรับระบบส่งกำลังใหม่เป็นเกียร์อัตโนมัติ CVTจากเดิมเป็น 4 สปีด โดยทั้งคู่เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า
ช่วงล่างของรถเอ็มพีวีสองรุ่นนี้ด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมคอยล์สปริงและด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมแบบคานแข็ง ส่วนพวงมาลัยพาวเวอร์ทั้งสองรุ่นเป็นแบบไฟฟ้า
ระบบความปลอดภัย
Toyota Avanza ให้ความปลอดภัยเต็มคันแบบรุ่นอื่นๆในค่ายสามห่วงที่ใช้กันกับ Toyota Safety Sense ทั้ง ระบบความปลอดภัยก่อนการชน Pre Collision System, เตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วง Front Departure Alert, แจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Assist, ระบบตัดกำลังอัตโนมัติเมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด Pedal Misoperation Control, เตือนการถอยหลัง Rear Crossing Traffic Alert ,เตือนมุมอับสายตา Blind Spot Monitoring ถุงลมนิรภัย รอบคัน 6 จุด ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบออกตัวบนทางลาดชัน HSA เปิดไฟสูงอัตโนมัติ และกล้องมองภาพรอบคัน
ในขณะที่ Mitsubishi Xapnder Facelift ถึงจะปรับโฉมแต่ระบบความปลอดภัยยังคงเดิมและอาจเสียเปรียบ Avanza โดยระบบที่ให้มาจากโรงงานนั้นเป็นระบบความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC) ป้องกันการลื่นไถล (TCL) ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า และกล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด
ถึงสองรถยนต์เอ็มพีวีเล็กนำเข้าจากอินโดนีเซีย ที่กำลังจะเปิดตัวในไทย มีความน่าสนใจมากน้อยเพียงใดนั้นจับตาดูแล้วว่าถ้าเข้าขายนั้นสเปกต่างๆที่กล่าวมาจะถูกลดหลั่นกันไปตามสถานการณ์และความต้องการของคนไทยหรือไม่ ต้องติดตามกันเร็วๆนี้
