ทำตลาดเมืองไทยมาเกือบหนึ่งปีจนความนิยมได้แพร่กระจายไปทั่วจนมียอดขายสะสมมากถึง 11,330 คัน สำหรับ MG5 เก๋งสปอร์ตขวัญใจคนเมือง
ล่าสุด MG แนะนำทางเลือกใหม่ให้กับคนไทยด้วยการเพิ่มรุ่นของ MG5 กับรุ่นย่อยใหม่ D+ ซึ่งมาแทรกกลางระหว่างรุ่น D กับรุ่น X โดยเอารุ่น D อัพออพชั่นให้ครบครันเหมือนกับรุ่น X เดิม เริ่มกันที่ภายนอกกระจังหน้าสีทูโทนดีไซน์ 3 มิติ เพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่ด้วยหลังคาซันรูฟ (Sunroof) พร้อมล้ออัลลอยลายเดียวกับรุ่นท็อป X ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50R17 บนพื้นฐานออพชั่นหรูทั้งไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL รับกับกันชนหน้าทรงสปอร์ต ไฟท้าย LED แบบ Leopard Claw รับกับกันชนหลังพร้อมคิ้วชายล่างและไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
ภายในทันสมัยด้วยใหม่หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว สะดวกสบายที่คำนึงถึงทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร กับเบาะปรับไฟฟ้าด้านคนขับแบบ 6 ทิศทาง ไฟส่องสว่างที่นั่งแถวหลัง ที่เก็บแว่นตา บนพื้นฐานแห่งความสบายทั้ง จอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว เชื่อมต่อได้ทั้ง Apple Car Play กับ Android Auto พร้อมลำโพง 6 จุด พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน เบาะนั่งหนังสังเคราะห์เลือกได้แบบเดียวกับรุ่น X ทั้งโทนสีดำขลิบแดงและทูโทนสีดำแดง ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมเครื่องปรับอากาศดิจิตอลพร้อมกันฝุ่น PM 2.5 กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อม Auto Vehicle Hold ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง และเบาะหลังพับได้
มาพร้อมพลังเบนซิน 1.5 ลิตร 15S4C VTi – TECH 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 สปีด พร้อมช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION พร้อมพวงมาลัยไฟฟ้าปรับน้ำหนักได้ 3 ระดับ มั่นใจ ทุกการขับขี่ด้วย Synchronized Protection System ช่วงล่างหน้าแม็คเฟอร์สันสตัรทพร้อมเหล็กกันโคลงและระบบช่วงล่างหลังทอชั่นบีม
ระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรปซึ่งมีการผสานการทำงานเป็นหนึ่งเดียวเพื่อความห่วงใยต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างแท้จริงทั้ง โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS กระจายแรงเบรก EBD เสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ ควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS ป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS สัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS ถุงลมนิรภัย 4 ตำแหน่ง กุญแจนิรภัย Immobilizer และล็อกประตูอัตโนมัติ พร้อมออพชั่นใหม่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control และกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
นอกจากรุ่นใหม่ D+ แล้ว ยังแนะนำ MG5 รุ่นปรับปรุงใหม่ หรือ MY2022 ปรับเพิ่มออพชั่นบางรายการดังนี้รุ่นเริ่มต้น C มาพร้อมล้ออัลลอยลายเดียวกับรุ่น D สีดำเข้มขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 205/55 R16 จากเดิมเป็นกระทะล้อพร้อมฝาครอบล้อ รุ่น D เพิ่มขนาดล้อและยางเป็นขนาด 17 นิ้ว ลายเดียวกับรุ่น D+ กับ รุ่น X พร้อมยาง 215/50R17 และรุ่นท็อปสุด X เพิ่มสปอยเลอร์หลังที่ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
MG5 รุ่นใหม่ D+ จำหน่ายจริงตั้งแต่ 17 พฤษภาคม นี้ โดยจำหน่ายในราคา 679,000 บาท และมีทั้งหมด 5 สีดังนี้ สีเหลือง (Nuclear Yellow) สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีแดง (Scarlet Red) และสีเทา (Metal Ash Grey) ส่วน MG5 รุ่นปรับปรุงใหม่ หรือ MY2022 มีทั้งหมด 5 สี รวม*สีเงิน (Silver Metallic) (*เฉพาะรุ่น C กับ รุ่น D) พร้อมราคาปรับขึ้นใหม่ดังนี้
- NEW MG5 MY2022 รุ่น C 585,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 16,000 บาท)
- NEW MG5 MY2022 รุ่น D 625,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 16,000 บาท)
- NEW MG5 MY2022 รุ่น X 709,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท)