กลายเป็นรถยนต์ที่คนทั้งโลกสนใจและอยากสัมผัสเอสยูวีหรูจากค่ายทรีไดมอนด์อย่าง Mitsubishi Outlander เจเนอเรชั่นที่ 4
ล่าสุดที่เมืองไทยมีแฟนๆที่ติดตามเว็บได้ส่งรูปมาให้ทางทีมงานฯ กับรถยนต์เอสยูวีสีแดงติดป้าย TC วิ่งทดสอบที่มอเตอร์เวย์ในแบบไม่พรางตัวเห็นจะๆทั้งคันซึ่งนั่นก็คือ Mitsubishi Outlander เจนใหม่ รุ่น PHEV แบบพวงมาลัยซ้าย หน้าตาหล่อสไตล์ Dynamic Shield เสริมกับไฟหน้า และ ไฟ Daytime แบบ LED ทรงเล็กรับกับกันชนหน้าแบบสปอร์ตเสริมคิ้วชายล่างสีเงิน พร้อมไฟหรี่ ไฟสูง ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED ยาวจรดด้านท้ายกับแนวของโคมไฟหลัง LED แนวนอนเรียวเล็ก และเสา D ขนาดใหญ่ ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้วพร้อมยางขนาด 255 /45R20 และขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/60R18
ลักชัวรี่เทียบเท่ารถยุโรปกับการตกแต่งภายในที่หรูหราด้วยเบาะนั่งกึ่งหนังแท้ทูโทนลายเพชร สีดำน้ำตาล หรือ สีดำล้วน แบบ 3 ตอน 7 ที่นั่ง หรือแบบ 2 ตอน 5 ที่นั่ง ตอน 2 พับได้แบบ 40:20:40 และตอน 3 พับได้แบบ 50:50 พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 4 ก้าน มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย ถัดลงมาเป็นช่องแอร์แนวยาว กับเครื่องปรับอากาศแยกโซน 3 ส่วน พร้อมจอแสดงข้อมูลเหนือคอนโซลหน้า full-color Head-Up Display (HUD) ขนาด 10.8 นิ้ว ลำโพงคุณภาพก็มีมาให้ถึง 10 จุด จาก Bose การตแต่งด้วยวัสดุอลูมิเนียม และในรุ่น PHEV สามารถผลิตและจ่ายพลังงานไฟฟ้าจากตัวรถมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่มีขนาดไม่เกิน 1,500 วัตต์ ด้วยการเสียบปลั๊กเข้ากับช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในตัวรถ เพื่อให้คุณได้สนุกสนานกับไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่
ถึงแม้ตัวรถจะใช้แพลตฟอร์มเดียวกันกับ Nissan X-Trail เจนใหม่ CMF-CD platform พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร รหัส PR25DD 184 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 245 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 สปีด ส่วนรุ่น PHEV มาพร้อมพลังเบนซิน MIVEC 2.4 ลิตร 4B12 พัฒนาใหม่ 128 แรงม้าที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิด 195 นิวตันเมตรที่ 4,300 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว สูงถึง 116 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตรในมอเตอร์ตัวหน้า และ 136 แรงม้า แรงบิด 195 นิวตันเมตรในมอเตอร์ตัวหลัง เชื่อมต่อกับระบบแบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออนขนาด เพิ่มความจุใหม่เป็น 20 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้กำลังรวมสูงสุด 380 แรงม้า และอาจพัฒนาให้ระบบวิ่งด้วย EV อย่างเดียว วิ่งได้ไกลมากถึง 83 กับ 87 กม.และการชาร์จที่ไวขึ้น
ทั้งสองขนาดความแรงติดตั้ง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super-All Wheel Control มีทั้งหมด 6 โหมด ตั้งแต่โหมด NORMAL, ECO, TARMAC, GRAVEL, SNOW, MUD และเพิ่มโหมดที่ 7 นั่นคือโหมด POWER ในรุ่นPHEV และมีรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าให้เลือกกับระบบความปลอดภัยรอบคันทั้ง ถุงลมนิรภัย 11 จุด MI-PILOT Assist ประกอบด้วย ระบบล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติ integrates Adaptive Cruise Control (ACC) ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist (LKA) ระบบอ่านป้ายจราจร the sign recognition system (TSR) เป็นต้น
จับตาดูแล้วว่า Mitsubishi Outlander เจนใหม่ จะมีโอกาสเข้าจำหน่ายในไทยและถ้ามาจริงจะเปิดตัวในช่วงเวลาไหนนั้นทาง Car2Day จะนำเสนอในครั้งต่อไป
ที่มาภาพ Bank Waiyanont