More

    ทำความรู้จัก “ฟิล์มติดรถยนต์” แต่ละประเภท ควรเลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับรถคุณ

    ด้วยสภาพอากาศในประเทศไทย ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ร้อนไม่แพ้กันเลย หากคุณเป็นคนนึงที่ใช้รถและชอบติดฟิล์มราคาถูก ไม่ได้มาตรฐาน หรือแพงแล้วแต่ก็ยังไม่ได้มาตรฐาน ขึ้นทุกครั้งร้อนอบอ้าวแทบจะเป็นลมทุกครั้ง แถมยังทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถเสียหาย วันนี้ลองมาทำความรู้จักกับฟิล์มติดรถยนต์ หรือ ฟิล์มกรองแสงที่เหมาะสมกับการใช้ของงานของคุณกันดูค่ะ ว่ามีกี่ประเภท ควรเลือกใช้แบบไหนได้บ้าง 

    ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ มีอยู่ทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน โดยจะแบ่งกันตามวิธีการผลิตฟิล์มกรองแสง

    1. ฟิล์มรถยนต์แบบย้อมสี(Deep Dye or Chip Dye Window films)
    เป็นฟิล์มรถยนต์ที่ราคาถูกและตามมาด้วยคุณภาพที่แย่ที่สุด ฟิล์มกรองแสงประเภทนี้ตอนติดใหม่ ๆ จะมีสีที่เข้มแต่หลังจากนั้นไม่นานสีจะค่อนข้างจางเร็ว หมดอายุเร็ว สักพักจะกลายเป็นสีม่วงเข้มเหมือนรถยนต์รุ่นเก่า ๆ สมัยก่อนที่มักนิยมใช้ ฟิล์มรถยนต์แบบย้อมสีนี้ จะทำได้เพียงแค่ลดแสงจ้าจากภายนอกเท่านั้น ไม่ได้กันความร้อนและรังสียูวีแต่อย่างใด

    2. ฟิล์มรถยนต์แบบฉาบไอโลหะ (Metallized Evaporation Window Films)
    ฟิล์มรถยนต์แบบฉาบไอโลหะ หรือ ที่ภาษาตลาดฟิล์มกรองแสงบ้านเราเรียกว่า “ฟิล์มปรอท” ฟิล์มรถยนต์แบบฉาบปรอทนี้จะสามารถกันความร้อนได้ดีมากพอสมควร ในราคาที่ไม่แพงมาก ผิวฟิล์มจะมีความมันเงาสามารถสะท้อนคล้ายกับส่องกระจกได้เลย ภายนอกจะไม่สามารถมองเข้ามาในรถได้ แต่ภายในสามารถที่จะมองออกไปได้ชัดเจนหรือไม่นั้นขึ้นอยู่แต่ละคุณภาพของบริษัทที่ผลิต ซึ่งก็เป็นที่นิยมในตลาดรถยนต์บ้านเรา แต่ในสมัยนี้ฟิล์มที่มีลักษณะเช่นเดียวกันอย่าง ฟิล์มนาโนเซรามิก ที่กันความร้อนได้ดีมากขั้น อายุการใช้งานและคุณภาพดีขึ้นตามยุคสมัย

    3. ฟิล์มรถยนต์แบบเคลือบอนุภาคโลหะ( Metal Sputtering Window Films )
    กระบวนผลิตการจะคล้าย ๆ ฟิล์มกรองแสงแบบสีปรอท แต่จะฉาบโลหะด้วยวิธี sputtering แต่ตัวเนื้อฟิล์มจะเงาน้อยกว่า ผลที่ได้คือจะได้ฟิล์มติดรถยนต์แบบใสที่คุณภาพกันร้อนสูง แต่ก็ตามมาด้วยราคาที่สูงเช่นเดียวกัน ฟิล์มยี่ห้อดังที่ใช้วิธีการนี้ในการผลิตคือ ฟิล์ม V-kool

    4. ฟิล์มรถยนต์แบบนาโน( Nano-Super IR Window Films )
    เป็นฟิล์มที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ ใช้อนุภาคนาโน เช่น อนุภาคเซรามิก ฝังเข้าไปในเนื้อฟิล์มแทนการฉาบด้วยโลหะ ฟิล์มรถยนต์ประเภทนาโนจะสามารถป้องกันรังสีอินฟราเรดหรือรังสีความร้อนได้โดยเฉพาะ และมีความทนทานกว่าฟิล์มรถยนต์ทั่ว ๆ ไป อายุการใช้งานนานเกิน 10 ปี และมีราคาค่อนข้างสูง แต่ถ้าให้มองถึงคุณภาพที่สามารถใช้ได้ในระยะยาวก็คือว่าคุ้มแก่การลงทุน

    หากคุณกำลังมองหาฟิล์มรถยนต์คุณภาพดี ราคาจับต้องได้สามารถติดต่อได้ที่ Line@ : Car2day

    วิธีการเลือกฟิล์มติดกระจกรถยนต์

    เนื่องจากฟิล์มติดกระจกรถยนต์มีหลายประเภท ซึ่งมีคุณสมบัติก็จะแตกต่างกันออกไป ดังนั้น เรามาดูประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนจากแสงแดดของฟิล์มติดกระจกแต่ละประเภทกันก่อน

    เช็กความสามารถในการตัดแสงของฟิล์มติดกระจกรถยนต์ ในการเลือกฟิล์มติดกระจกรถยนต์ การตรวจสอบอัตรากรองแสงคือส่วนสำคัญอย่างนึง โดยเราสามารถแบ่งรังสีจากดวงอาทิตย์ออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ รังสีอินฟราเรด (Infrared), แสงที่ตามองเห็น (Visible Light) และรังสี UV (Ultraviolet Light)

    • ฟิล์มติดกระจกที่ป้องกันรังสีอินฟราเรดและแสงที่ตามองเห็น

    เนื่องจากรังสีอินฟราเรดมีส่วนทำให้อุณหภูมิภายในรถสูงขึ้น จึงควรเลือกใช้ฟิล์มติดกระจกรถยนต์ที่สามารถกันรังสีอินฟราเรดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูร้อนที่อุณหภูมิจะสูงที่สุด ซึ่งคุณสมบัติในการป้องกันรังสีอินฟราเรดนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแอร์ในรถให้เย็นเร็ว รวมถึงป้องกันไม่ให้เรซินบริเวณแผงคอนโซลรถเสื่อมสภาพได้อีกด้วย โดยเลือกฟิล์มติดกระจกรถยนต์ที่มี ค่าป้องกันรังสีอินฟราเรดตั้งแต่ 95% ขึ้นไป และยิ่งหากมีค่าสัมประสิทธิ์การบังแดดต่ำกว่า 0.8 ลงไป ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นอีกด้วย และนอกจากรังสีอินฟราเรดแล้ว การป้องกันความร้อนจาก “แสงที่ตามองเห็น” (Visible Light) โดย ใช้ฟิล์มที่มีสีเข้ม ก็จะสามารถช่วยได้ หากติดฟิล์มติดกระจกรถยนต์ที่มีสีเข้มมากเกินไปก็อาจทำให้การมองเห็นภายนอกรถในเวลากลางคืนไม่ชัดเจน เพราะฉะนั้นควรเลือกความเข้มตามความเหมาะสมของสายตาจะดีที่สุด

    • เช็คค่าป้องกันรังสี UV ที่ส่งผลต่อผิวและดวงตา

    รังสี UV คือ รังสีจากดวงอาทิตย์ที่ส่องมายังผิวโลกในฤดูต่าง ๆ โดยมีหลายระดับ โดยช่วงเวลาเที่ยงจะสูงสุด อีกทั้งการสะท้อนต่อผิววัตถุก็มีส่วนเพิ่มปริมาณรังสีจากพื้นผิวที่ต่างกัน โดยพบว่าถ้าเป็นผิวหิมะสามารถสะท้อนได้ถึง 60 – 80% หาดทรายประมาณ 15% ผิวน้ำทะเลประมาณ 5% ด้วยปัจจัยดังกล่าวทำให้รังสียูวีทำลายดวงตาได้ต่างกัน ดังนั้นคุณจึงควรมองหาฟิล์มติดกระจกรถยนต์ที่สามารถป้องกันหรือกรองรังสี UV ได้ ซึ่งแม้ว่าในปัจจุบันจะมีฟิล์มติดกระจกรถยนต์ที่มีค่าป้องกันรังสี UV ได้สูงถึง 99% อยู่เป็นจำนวนมาก

    นอกจากรังสี UV จะส่งผลต่อสุขภาพแล้ว ยังอาจส่งผลต่อวัสดุภายในรถของคุณได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะแผงคอนโซล พวงมาลัย อุปกรณ์ที่เป็นพลาสติกต่าง ๆ ภายในรถ ทำให้เสื่อมสภาพได้ง่าย อีกทั้งรังสียูวียังทำให้สีของเบาะรถซีดจางลงได้อีกด้วย ควรเลือกฟิล์มที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันสูง จะดีที่สุด

    หากคุณกำลังมองหาฟิล์มรถยนต์คุณภาพดี ราคาจับต้องได้สามารถติดต่อได้ที่ Line@ : Car2day 

    ติดตั้งฟิล์มรถยนต์ สแกนที่นี่

    การเลือกสีและคุณสมบัติของฟิล์มติดกระจกรถยนต์ให้เหมาะกับการใช้งาน

    • ฟิล์มติดกระจกรถยนต์สีควันบุหรี่และสีดำ หากใครต้องการความเป็นส่วนตัวภายในรถ โดยไม่ต้องการให้ผู้อื่นภายนอกสามารถมองเข้ามาได้ แนะนำให้ติดฟิล์มติดกระจกรถยนต์สีควันบุหรี่หรือสีดำ เพราะจะช่วยให้มองเห็นภายในรถได้ยาก แล้วยังสามารถใช้ป้องกันการโจรกรรมได้อีกด้วย ถ้าฟิล์มอย่างดีก็สามารถมองเห็นภายนอกได้ชัดเจนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากฟิล์มติดกระจกรถยนต์มีความเข้มสูง ก็อาจมืดเกินไปสำหรับการขับขี่ตอนกลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่ไม่มีเสาไฟ ดังนั้น ระดับความเข้มจึงไม่ควรเกิน 60%

    • ฟิล์มติดกระจกรถยนต์แบบใส ความชอบส่วนบุคคล อาจจะไม่ได้อยากให้ใครมามองเห็นภายในรถสักเท่าไรเพียงแต่ต้องการวิสัยทัศน์ในการขับรถให้ชัดเจน ก็ขอแนะนำฟิล์มติดกระจกรถยนต์แบบใส ถึงแม้ฟิล์มจะมีความโปร่งใส แต่ก็สามารถทำหน้าที่เป็นฉนวนป้องกันความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดอุณหภูมิที่สูงขึ้นภายในรถจากแสงแดดที่ส่องเข้ามาได้ และแน่นอนว่าฟิล์มประเภทนี้ก็สามารถปกป้องคุณจากรังสี UV ได้เช่นกัน หมดห่วงเรื่องอันตรายจากรังสี UV ได้ และเนื่องจากฟิล์มติดกระจกรถยนต์แบบใสมีค่าแสงส่องผ่านสูง จึงช่วยให้คุณมองเห็นด้านนอกได้ง่ายกว่าฟิล์มติดกระจกรถยนต์สีควันบุหรี่หรือสีดำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืนหรือบริเวณที่ไม่มีแสงไฟส่องสว่าง

    • ฟิล์มติดกระจกรถยนต์นิรภัย ฟิล์มติดกระจกรถยนต์นิรภัย ในปัจจุบัน เริ่มมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยฟิล์มติดกระจกนิรภัยนั้น มีคุณสมบัติแตกต่างจากฟิล์มประเภทอื่น ๆ คือมีความหนาและแข็งแรงทนทาน ซับแรงกระแทกได้ มีความยืดหยุ่นสูง จึงช่วยป้องกันไม่ให้ได้รับอันตรายจากเศษกระจกหากมีการแตกตัวหรือเกิดการกระแทกจากอุบัติเหตุได้ แต่ข้อเสียนั้นก็คือ ไม่สามารถป้องกันรังสีอินฟราเรดหรือรังสี UV ได้มากเท่ากับฟิล์มประเภทอื่น ๆ แต่หากเราเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก อันนี้ก็เป็นตัวเลือกนึงที่เหมาะสม

    • ฟิล์มติดกระจกรถยนต์แบบสี สำหรับคนที่ชอบแต่งรถ ชอบฟิล์มแบบตะกั่ว หรือมีเฉดสีรุ้ง โฮโลแกรม ต่าง ๆ ก็สามารถเลือกใช้ได้เช่นกัน โดยคุณสมบัติของฟิล์มชนิดนี้ก็สามารถป้องกันรังสิอินฟราเรดและรังสี UV ได้ไม่ต่างกันฟิล์มของชนิดนั้น ๆ เพียงแค่จะมีสีสันขึ้นมาอีกนิดนึง

    สรุปแล้วควรติดฟิล์มประเภทไหนดี ?? ฟิล์มกรองแสงแบบนาโน หรือฟิล์มเซรามิก ในปัจจุบัน ถือว่าเป็นฟิล์มกรองแสงที่ทันยุคทันสมัยที่สุด และสามารถป้องกันความร้อนได้ดีเลยทีเดียว เพียงแค่มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับฟิล์มรถยนต์ประเภทอื่น ๆ แต่ถ้าอยากได้ฟิล์มราคาถูกแต่กันร้อนได้ดี แนะนำเป็นฟิล์มปรอท จะสามารถสะท้อนแสงและป้องกันความร้อนได้ดีในราคาที่ประหยัด

    หากคุณกำลังมองหาฟิล์มรถยนต์คุณภาพดี ราคาจับต้องได้สามารถติดต่อได้ที่ Line@ : Car2day

    ติดตั้งฟิล์มรถยนต์ สแกนที่นี่

     


    บทความอื่น ๆ

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts