ทำตลาดเมืองไทยมาหนึ่งปีสำหรับเอ็มพีวีหรูจากเกาหลีใต้อย่าง Hyundai Staria เด่นด้วยความล้ำหน้าในเรื่องดีไซน์ความสบายแบบ 11 ที่นั่ง
ล่าสุดทาง Hyundai Motor (Thailand) ประกาศปรับราคาจำหน่ายรถยนต์ Hyundai Staria ทุกรุ่นทุกแบบ ปรับเพิ่มจากเดิม 70,000-150,000 บาท มีผลเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 โดยมีราคาดังนี้
ถึงทั้งสามรุ่นย่อยจะปรับราคาแต่หน้าตาคงเดิมล้ำอนาคตด้วยชุดไฟหน้า LED ถูกจัดวางในตำแหน่งชายกันชนหน้าระดับแนวขอบยางด้านบนและเหนือขึ้นไปกับไฟ DRLs คาดยาวสองฝั่งคล้ายกับแว่นตาของหุ่นยนต์เพื่อเข้ากับกระจังหน้าลายตาข่าย ออกแบบพื้นที่กระจกบานหน้าขนาดใหญ่และลาดเอียงขึ้นไปถึงแนวหลังคาด้านบน เมื่อมองจากด้านข้างระยะโอเวอร์แฮงค์ด้านหน้าดูสั้นลงกว่าเดิม ด้านท้ายติดตั้งไฟ LED แบบ Parametric Pixel ดีไซน์ในแบบตาราง ๆ กันชนท้ายตั้งอยู่ในระดับต่ำช่วยให้ขนสัมภาระเข้า-ออก ได้ง่ายมากขึ้น และพื้นที่กระจกรอบคัน ได้รับการออกแบบให้กว้างค่อนข้างมาก พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/55R18 และขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 215/65R17 ให้เลือก ประตูด้านข้างเปิดอัตโนมัติอัจฉริยะ ประตูด้านหลังเปิด ปิด อัตโนมัติอัจฉริยะ
ส่วนรุ่น Premium อัปเกรดจากรุ่น SEL ด้วยไฟหน้า Full LED ดีไซน์ Brass Chrome ทองแดง สำหรับตัวถังสีดำและ Dark Chrome รมดำ สำหรับตัวถังสีขาว ตกแต่งในกระจังหน้าและชุดแต่งรอบคัน กันชนด้านหน้าและหลัง ล้ออัลลอยลายหรูขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/55R18 กระจกบังลมด้านหน้าลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร และ หลังคา Dual Sunroof คู่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
ห้องโดยสารแบบ 11 ที่นั่ง พร้อม จอมาตรวัดดิจิตอลขนาดใหญ่ 10.25 นิ้ว ติดตั้งบริเวณด้านบนของแผงคอนโซล เพิ่มทัศนวิสัยให้ผู้ขับขี่มากขึ้น หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วติดตั้งบริเวณคอนโซลกลาง พร้อมลำโพง 6 ตัว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สายและสวิตช์เปลี่ยนเกียร์ระบบไฟฟ้า พร้อมระบบชาร์จมือถือไร้สาย (Wireless Charger) และช่องเสียบ USB 7ช่อง เบรกมือไฟฟ้าพร้อม ระบบ Auto Brake Hold ระบบช่วยหยุดอยู่กับที่โดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้ และปลดเบรกอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง กุญแจรีโมทพร้อมระบบ Smart Keyless Entry พร้อมระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจ Remote Engine Start
ส่วนรุ่น Premium หรูขึ้นด้วยการตกแต่งด้วยวัสดุ Suade ไฟเรืองแสงในห้องโดยสารปรับได้ถึง 10 แบบ ที่เปิดประตูคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า แป้นคันเร่งและเบรก ตกแต่งด้วยโครเมียมและอะลูมิเนียม ชุดแต่งบันไดข้างดีไซน์พิเศษสัญลักษณ์ Staria ชุดเครื่องเสียง BOSE ลำโพง 12 ตำแหน่ง มอบความสะดวกสบายและสุนทรียภาพทุกการเดินทางแบบ 11 ที่นั่ง เบาะนั่งแถวที่สองนั่งได้สามที่นั่งเพิ่มที่วางแขนและที่วางแก้วน้ำ
ขุมพลังแรงด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน VGT 2.2 ลิตร รหัส D4HB 177 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 431 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบปุ่มกด Shift-by-Wire พร้อม Paddle Shift ขับเคลื่อนล้อหน้าใช้ช่วงล่างแบบมัลติ-ลิงค์ด้านหลัง เพิ่มความนุ่มนวล
พร้อมความปลอดภัย Hyundai Smart Sense ในรุ่น Premium และรุ่น SEL อาทิ ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision Avoidance Assist ช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก Forward Collision-Avoidance Assist Junction Turning Function ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist รถให้อยู่กลางเลน Lane Following Assist ช่วยเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่ออยู่ในจุดอับสายตา Blind-Spot Collision-Avoidance Assist กล้องมองรอบทิศทาง Surround View Monitor กล้องมองภาพจุดอับสายตา Blind-Spot View Monitor เตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ Rear Cross-traffic Collision Avoidance Assist แจ้งความดันลมยางอัตโนมัติ TPMS ป้องกันการเปิดประตูสไลด์เมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง Safe Exit Assist และ ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Smart Cruise Control
พร้อมออปชันมาตรฐานทุกรุ่น อาทิ แจ้งเตือนผู้โดยสารด้านหลัง Rear Occupant Alert ถุงลมนิรภัยจำนวน 6 ตำแหน่ง เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ทุกที่นั่ง ควบคุมเสถียรภาพ ESC ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill-start Assist Control ช่วยหยุดรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ Multi Collision Brake และเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind-Spot Collision Warning ในรุ่น S
All New Hyundai Staria รุ่น SEL กับรุ่น S พร้อมสีภายนอก 3 สีคือ – สีดำ Abyss Black Pearl สีเทา Graphite Gray Metallic และสีเงิน Shimmering Silver Metallic ส่วนสีภายในมีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ-เบจ เฉพาะสีภายนอกรถสีดำ และสีดำ เฉพาะสีภายนอกสีเทาและสีเงิน ส่วนรุ่น Premium มีสีภายนอกให้เลือก 2 สีคือ สีดำ Abyss Black Pearl แต่งชุด Brass chrome และสีขาว Creamy White แต่งชุด Dark chrome ภายในสีดำ
