ออสเตรเลียเตรียมเปิดตัว 2025 Audi A3 ซีดานขนาดเล็ก รุ่นปรับโฉมปี 2025 ปลายปีนี้ ในรุ่นสุดท้ายที่มีขุมพลังเบนซิน โดยใช้ชื่อรุ่น Allstreet มาในสไตล์ออฟโรด
เป็นการอัปเดตจากแบรนด์สำหรับสิ่งที่คาดว่าจะเป็น Audi A3 รุ่นสุดท้ายที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซล (เว้นแต่ว่าบริษัทจะยกเลิกแผน) โดยแผนหลังจากนี้ทาง Audi จะจัดส่งเจนเนอเรชั่นใหม่ทั้งหมดที่เปิดตัวในปี 2569 เป็นขุมพลังไฟฟ้าทั้งหมด
A3 มียอดขายฟื้นตัวในออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 57 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว หลังจากที่รุ่นใหม่เปิดตัวในปี 2022 ซึ่งช้ากว่ากำหนด 18 เดือน และสองปีหลังจากเปิดตัวในยุโรป โดยตัว A3 ที่ได้รับการปรับปรุงจะเป็น Audi รุ่นแรกที่ไม่ใช้พลังงานไฟฟ้า
ดีไซน์ภายนอก ประกอบด้วยกระจังหน้าที่เล็กลงและไร้กรอบกว่า A3 รุ่นปัจจุบัน โดยมีโลโก้ Audi วางอยู่ที่ขอบด้านบน บวกกับช่องรับอากาศที่กันชนหน้าลักษณะรังผึ้ง ไฮไลท์จะอยู่ที่สีเมทัลลิกบนช่องรับอากาศ สปอยเลอร์หน้าและกันชนหลัง สเกิร์ตข้างใหม่ และแฟลร์ซุ้มล้อสีดำ และมีการเพิ่มทางเลือกสีตัวถังในรุ่นปกติและรุ่น S Line มีกันชนหลังใหม่ในทุกรุ่น เช่นเดียวกับไฟหน้าแบบเมทริกซ์ LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันที่ปรับแต่งได้ 4 แบบ และตัวเลือกสีใหม่ District Green, Progressive Red และ Matte Daytona Grey
2025 Audi A3 Allstreet เป็นการเบิกทางให้กับ Audi wagon รุ่น Allroad ที่ขับเคลื่อนสี่ล้อ ถูกจับทดสอบครั้งแรกในยุโรปเมื่อสามปีที่แล้ว โดยอิงจาก A3 รุ่นปรับโฉมก่อน แต่ดูเหมือนทางแบรนด์อาจจะชะลอการเปิดตัวให้ตรงกับที่คาดไว้
ระยะห่างตัวปรับโฉมจะเพิ่มขึ้นจากพื้น 30 มม. และระบบกันสะเทือนที่ปรับใหม่ให้สูงขึ้นอีก 15 มม. และยางที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่ขึ้นซึ่งใช้ได้กับล้อขนาด 17, 18 และ 19 นิ้ว
ภายในมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย โดยจำกัดอยู่ที่ช่องระบายอากาศใหม่ คอนโซลกลางที่ได้รับการปรับปรุงอย่างพิถีพิถัน และการออกแบบคันเกียร์อัตโนมัติขนาดกะทัดรัดให้เรียบง่ายมากขึ้น มีไฟแอมเบียนรอบคันสามารถเปลี่ยนสีได้มากถึง 30 สี มีคอนโซลกลางและที่วางแก้ว และมีระบบเสียงระดับพรีเมียมจากแบรนด์ Sonos ใหม่
มีการฝังขอบ “ผ้าที่มีพื้นผิวทางเทคนิค” ที่ทำจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลและไมโครไฟเบอร์ Dinamica โดยมี Dinamica ให้เลือกใช้เป็นเบาะนั่งด้วย แผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมด้วยที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย พอร์ต USB-C สี่พอร์ต และวิทยุดิจิตอล DAB+ หน้าจอมี App Store สำหรับดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ รวมถึงรองรับระบบสั่งงานด้วยเสียงของ Amazon Alexa
Audi A3 นำเสนอในยุโรปพร้อม ‘ฟังก์ชั่นตามความต้องการ’ โดยสามารถซื้อฟีเจอร์ต่างๆ จาก Apple CarPlay และ Android Auto ไปจนถึงระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ ระบบนำทางด้วยดาวเทียม และระบบควบคุมสภาพอากาศ สามารถซื้อได้หลังจากส่งมอบรถแล้ว เพราะว่าฮาร์ดแวร์ที่รองรับคุณสมบัติเหล่านี้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์ทุกคันที่จำหน่ายในยุโรป แต่จะไม่มีการปลดล็อค เว้นแต่ผู้ซื้อจะจ่ายเงินเพิ่มเมื่อสั่งซื้อรถจากโรงงาน หรือซื้อผ่านแอพฯ บนหน้าจอ
ด้านความปลอดภัยขั้นสูงได้รับการปรับโดยมีระบบช่วยเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูงสุด 90 กม./ชม. สำหรับระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับให้อยู่กลางเลนและแบบปรับได้ ในขั้นต้น A3 ที่อัปเดตจะวางจำหน่ายในยุโรปด้วยเครื่องยนต์สี่สูบเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร 1.5 ลิตรเทอร์โบ 110kW/250Nm ’35 TFSI พร้อมช่วยส่งกำลังด้วยระบบไฮบริด 110kW / 360Nm ’35 TDI’ สี่สูบดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร
เครื่องยนต์ทั้งสองจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีดและระบบขับเคลื่อนล้อหน้า คู่มือ 6 สปีดมีกำหนดจะวางจำหน่ายในรุ่น 35 TFSI ในภายหลังในยุโรป
สำหรับ A3 Sportback และ A3 Sedan รุ่นเบนซินและดีเซล จะตามมา ระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2024 และ รุ่นปลั๊กอินไฮบริดจะถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่มผลิตภัณฑ์ในช่วงปลายปี
CR : Drive.com
