สองแบรนด์น้องใหม่จากเมืองจีนทั้ง OMODA และ JAECOO มาบุกตลาดเมืองไทยเป็นทางการโดยมีสายลุยอีวีทรงเหลี่ยมอย่าง JAECOO 6 EV 4WD เข้ามาด้วย
ว่าไปแล้วเจ้า Land Rover แดนมังกรคันนี้ก็คือ iCAR 03 จากแบรนด์ iCAR ในเครือ CHERY ที่ขายดิบขายดีในเมืองจีนและเตรียมบุกตลาดโลกด้วยการแปะแบรนด์ JAECOO เมืองไทยคือที่แรกของโลกเปิดตัวในเวอร์ชันพวงมาลัยเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมากับ JAECOO 6 EV Long Range 4WD
ภายนอก Exterior
ได้แรงบันดาลใจจากดีไซน์ของ Land Rover Defender มาฉีกกฎด้วย E-CUBE ทรงกล่อง One-Box ลายเส้นดูเรียบง่าย เฉียบคม ชัดเจน แต่มีเอกลักษณ์ลงตัว ส่วนด้านล่างของกระจังหน้าออกแบบให้ขยายกว้างขึ้นเสริมอารมณ์แบบออฟโรดที่สมบุกสมบันเริ่มที่กระจังหน้าทรงซี่แนวตั้งสีดำแปะตราตัวอักษร I มีไฟเรืองแสง พร้อมชุดไฟหน้าดีไซน์ยูคว่ำประกบด้วยชุดไฟหน้า LED แบบ Matrix Adaptive ขนาดเล็ก มีไฟแนวตั้งแบบ DRL LED สองข้างรับกับกันชนหน้าสีดำเข้ม
ด้านข้างมีความคล้ายกับ Defender ด้วยที่เปิดประตูเรียบเนียนกับตัวรถ หลังคารถสีดำพร้อมราวหลังคาและดีไซน์เสา A-D เน้นความเหลี่ยมและหนักแน่นสร้างความโดดเด่นและดุดันให้กับตัวรถ ไฟท้าย LED แนวตั้งพร้อมฝาท้ายเปิดบานใหญ่แบบเปิดด้านข้างและปิดด้วยระบบดูดไฟฟ้า พร้อมกล่องขนาดใหญ่เก็บสัมภาระในตำแหน่งเดียวกับที่ห้อยยางอะไหล่สไตล์รถลุยยุค 90 กันชนหลังดีไซน์สปอร์ตและล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 225/55 R19
ตัวรถมีขนาดคอมแพ็คเล็กกว่า JETOUR TRAVELLER จากแพลตฟอร์ม i-MS Platform โครงสร้างตัวรถแบบเหล็กและอะลูมีเนียมแบบโมโนค็อกแบบคอมแพ็คเอสยูวีตั้งแต่
- ความยาว 4,406 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,910 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,715 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,715 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 1,949 กิโลกรัม
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 195 มิลลิเมตร
ภายใน Interior
คล้ายๆ Defender ด้วยคอนโซลหน้าทรงถึกสี่เหลี่ยมพร้อมออปชันเด่นทั้ง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงท้ายตัดปรับได้ 4 ทิศทาง มาตรวัดดิจิทัล LCD 9.2 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.6 นิ้วประมวลแม่นยำด้วยชิฟ Qualcomm Snapdragon 8155 ห้องโดยสารนั่งสบายพร้อมไฟสร้างบรรยกาศในห้องโดยสารหรือ Ambient Light 64 สี พร้อมลำโพง 12 จุดรอบคันจาก Infinity กำลังขับ 320W ระบบเสียงรอบทิศทาง 7.1 Surround Sound (7 ทิศทาง และมี 1 ซับวูฟเฟอร์) ทีชาร์จมือถือไร้สาย 50 W เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมช่องแอร์ด้านหลัง และที่เสียบสาย USB
รองรับการขับขี่ออฟโรดด้วยวัสดุภายในที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและให้ความรู้สึกสบายสำหรับผู้ขับขี่ มาพร้อมกับเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าด้านคนขับปรับ 6 ทิศทางพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะที่นั่ง (Memory seat) และคนนั่งปรับได้ 4 ทิศทาง ฟังก์ชันเพิ่มเติมมากมายระดับเฟิร์สคลาสที่ช่วยเพิ่มความสะดวกอาทิ ระบบรองน่องปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง (4-Way Electric Leg support) ปรับอุณหภูมิของเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าของรถ ที่สามารถช่วยระบายอากาศเพิ่มความสบายขณะขับขี่ในทุกสภาพอากาศ
ภายในส่วนกลางบริเวณที่พักแขน (Armrest) ที่มีพื้นที่จัดเก็บของภายในมากมาย พร้อมทั้งยังถูกออกแบบมาให้ช่วยลดความรู้สึกของระยะห่างระหว่างผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าอีกด้วย แผงประตูยังมีการออกแบบที่กระชับมั่นคง ด้วยมือจับประตูไฟฟ้าแบบซ่อนด้วยสีทูโทนที่เรียบหรู สวิตช์กระจกอิเล็กทรอนิกส์และมือจับประตูภายในที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านความปลอดภัยไปพร้อมกับความฉลาดล้ำของผู้ขับขี่รุ่นใหม่ ด้านเบาะหลังพับได้แบบ 60/40 มีพื้นที่ด้านท้าย 450 ลิตร
สมรรถนะ Performance
รุ่น Long Range 4WD ขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังรวม 279 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตรจากมอเตอร์ล้อหน้าเข้ามา 95 แรงม้า แรงบิด 165 นิวตันเมตรผสมกับมอเตอร์ล้อหลัง 184 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร ด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ LFP ขนาดความจุ 69.77 kWh วิ่งได้ไกลสุด 418 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC หรือ 364 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ในระยะเวลา 6.5 วินาที
พร้อมโหมดการขับขี่ทั้งโหมด 9 โหมดไม่ว่าจะเป็น โหมดประหยัด ECO, โหมดทั่วไป Normal, โหมดสปอร์ต Sport, โหมดคัสตอม Custom รวมโหมดลุยอีก 5 โหมดได้แก่ โหมด All Road, โหมดลื่น Slippery, โหมดทราย Beach (Sand) ,โหมดโคลน Muddy, โหมดหลุมบ่อ Bumpy
ด้านการชาร์จชาร์จได้ 2 รูปแบบทั้งชาร์จกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 80 kW 30-80% ชาร์จภายใน 28 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6.6 kW รองรับการจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด V2L ขนาด 3.3 kW
การขับขี่ Driving
เน้นลุยออฟโรดเป็นหลักกันที่สนาม Spirit of the 4×4 Driving School ตั้งอยู่ที่อำเภอปากพลี นครนายก ด้วยพื้นที่สนามมีทั้งทางโคลน หินผสมทราย สลับกับขับขึ้นเนินลงเนินที่มีความสูงชัน ขับลงบ่อน้ำโดยได้ลองขับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อผสมกับการทำงานของโหมด All Road และโหมดเฉพาะอีก 3 โหมดทั้ง โหมดลื่น Slippery, โหมดโคลน Muddy และโหมดก้อนหิน หลุมบ่อ Bumpy
เริ่มที่โหมด All Road ที่ให้ระบบปรับรูปแบบการขับโดยอัตโนมัติเข้ากับสภาพถนนด้วยการทำงานของระบบนี้ขับคล่องสบายทำงานพร้อมกับระบบควบคุมการทรงตัว ESP ลดการปัดลื่นในทางโคลนทางบ่อ หลุมลึก ควบคุมรถดี แต่พอมาขับอีกครั้งสลับมาใช้โหมดเฉพาะทั้งโหมดโคลน Muddy, โหมดหลุมบ่อ Bumpy ทั้ง 2 โหมดปิดระบบ ESP อัตโนมัติ และโหมดลื่น Slippery ในเส้นทางเดียวกันที่ใช้โหมด All Road กลับพบว่ามีอาการลื่นไถลท้ายปัดบ้างในเส้นทางโคลนลึกแต่สามารถดึงรถกลับได้
การควบคุมพวงมาลัยคันนี้แม้เป็นพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าที่ให้น้ำหนักพอสมควรกึ่งเบากึ่งหนักควบคุมทิศทางพวงมาลัยง่ายสาวมือคล่อง ช่วงล่างอิสระ 4 ล้อสามารถรองรับทุกรูปด้วยระยะยื่นหน้าและหลังหรือโอเวอร์แฮงค์ที่สั้นมากด้านหน้าสั้นเพียง 802 มิลลิเมตรและด้านหลัง 821 มิลลิเมตร ด้วยมุม Approach Angle หรือมุมเงย 28 องศา และมุม Departure angle หรือมุมจาก 32 องศา ทำให้ผ่านอุปสรรคได้ง่ายๆทุกสถานีที่ขับ
ปิดท้ายด้วยการขับลงบ่อน้ำด้วยตัวรถลุยน้ำลึก 600 มิลลิเมตรแต่บ่อน้ำลึกที่สนามลึก 550 มิลลิเมตร สามารถฝ่าได้ด้วยการควบคุมคันเร่ง การควบคุมทิศทางพวงมาลัยการเบรกและพลังอีวีที่ให้มา ต้องอาศัยฝีมือและความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ความปลอดภัย Safety
พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ไม่ว่าจะเป็น
- เตือนการชนด้านหน้าและหยุดรถอัตโนมัติ FCW & AEB (Front Forward Collision Warning & Autonomous Emergency Brake)
- เบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน MCB (Multi-Collision Brake)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (TRAFFIC JAM ASSIST)
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System)
- ช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (EMERGENCY LANE KEEPING ASSIST)
- อ่านป้ายจราจร TSR (Traffic Sign Recognition)
- เตือนก่อนเปิดประตูรถ DOW (Door Open Warning)
- ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop&Go
- เตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ LDWS (Lane Departure Warning System)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน จำกัดความเร็วอัจฉริยะ ISL (Intelligent Speed Limter)
- ช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
- กล้องมองภาพรอบคันถุงลมนิรภัยรอบคัน
- ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด
Verdict
แม้รถคันนี้มาจากแพลตฟอร์มโมโนค็อกและการออกแบบคล้ายๆ Land Rover คันนี้ลุยได้ไม่แพ้เอสยูวีเครื่องสันดาปจากแพลตฟอร์ม Body on Frame ระบบขับสี่และโหมดการขับขี่เทียบชั้นสายลุยไฮเอนด์แรกๆก่อนขับจะกังวลว่าความสูงใต้ท้องรถไม่ถึง 200 มิลลิเมตร และลุยน้ำได้ 600 มิลลิเมตร จะนำพาร่างทรงเหลี่ยมแบกชุดแบตเตอรี่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเกือบ 2 ตัน ลุยได้ตลอดรอดฝั่งไหมปรากฎว่าลุยได้สบายไม่มีปัญหาระหว่างขับ
อีกหนึ่งความดีของรถคันนี้ก็คือพวงมาลัยที่เบา กล้องรอบคันที่ให้ความชัดละเอียดในการมองเห็นทั้งทางเเรียบและทางลุยช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ เสียดายที่ว่าระยะวิ่งไกลให้มาน้อยเพียงต้นๆ 400 กิโลเมตร ถ้าให้ระยะทาง 500 กิโลเมตรขึ้นไป ก็จะดูดีขึ้นมาทันที รวมถึงกล่องอเนกประสงค์รับน้ำหนักได้ 10 กิโลกรัมในชุดฝาท้ายที่เปิดง่ายแต่ปิดยากมากตรงนี้ที่ต้องปรับปรุงสำหรับ JAECOO 6 EV Long Range 4WD ในราคา 1,249,000 บาท