More

    ประวัติศาสตร์การแข่งขัน “Le Mans 24 Hours” เส้นทางแห่งชัยชนะ

    การแข่งขัน Le Mans 24 Hours (เลอ ม็องส์ 24 ชั่วโมง) ถือเป็นหนึ่งในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก โดยจัดขึ้นครั้งแรกในปี 1923 ณ เมืองเลอ ม็องส์ ประเทศฝรั่งเศส โดยการจัดการแข่งขันนี้ถูกออกแบบมาเพื่อทดสอบความทนทานและความสามารถของรถยนต์ในระยะเวลานานกว่า 24 ชั่วโมง ซึ่งการที่ผู้ขับขี่ต้องแข่งขันในระยะเวลาที่ยาวนานนี้ ทำให้การแข่งขันนี้ แตกต่างจากการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตทั่วไปที่มักจะมีเวลาจำกัด

    จุดเริ่มต้นของการแข่งขัน “เลอ ม็องส์ 24 ชั่วโมง”

    Le Mans 24 Hours

    การแข่งขันเลอ ม็องส์ 24 ชั่วโมง เกิดขึ้นจากแนวคิดของอองรี เพอร์ริ่ง (Henri Péronnet) เจ้าของสโมสรแข่งรถ Automobile Club de l’Ouest (ACO) ที่ต้องการจัดการแข่งขันที่สามารถทดสอบความแข็งแกร่งและความทนทานของรถยนต์ในระยะเวลาที่ยาวนาน โดยในปี 1923 ในการแข่งขันครั้งแรก ได้มีการเข้าร่วมของทีมแข่งจากค่ายรถยนต์ชื่อดัง เช่น Peugeot, Bentley, และ Chenard & Walcker

    Le Mans 24 Hours

    การแข่งขันครั้งแรกมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 33 ทีม โดยทุกทีมต้องแข่งไปพร้อมกับการขับรถในระยะทางที่ยาวนาน และมีการผลัดกันขับรถระหว่างผู้ขับขี่หลายคน ทีมที่ทำเวลาได้เร็วที่สุดและมีรถที่สามารถวิ่งได้ครบ 24 ชั่วโมงจะเป็นผู้ชนะ

    การพัฒนาและวิวัฒนาการ “เลอ ม็องส์ 24 ชั่วโมง”

    ตลอดระยะเวลากว่า 100 ปี ที่การแข่งขันนี้จัดขึ้น ได้กลายเป็นสนามทดสอบเทคโนโลยีรถยนต์ที่สำคัญ โดยทีมต่างๆ ใช้สนามนี้เพื่อทดลองและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีผลต่อการพัฒนารถยนต์เชิงพาณิชย์ รวมถึงการพัฒนาเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และระบบความปลอดภัย

    Le Mans 24 Hours

    ในช่วงปี 1960-1970 การแข่งขันเลอ ม็องส์ 24 ชั่วโมง ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะเมื่อ Ford ได้เข้าร่วมการแข่งขัน และสามารถคว้าชัยชนะได้หลายครั้ง ซึ่งการต่อสู้ระหว่าง Ford กับ Ferrari ในช่วงนี้ได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของวงการมอเตอร์สปอร์ต โดยเฉพาะในปี 1966 ที่ Ford สามารถเอาชนะ Ferrari ซึ่งเป็นผู้นำในขณะนั้นได้

    การเปลี่ยนแปลงและความท้าทาย

    ในช่วงทศวรรษที่ 1980 และ 1990 การแข่งขันเลอ ม็องส์ 24 ชั่วโมง เริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากการเน้นที่รถยนต์ที่สามารถทำความเร็วสูงมาเป็นการเน้นที่ความทนทานและเทคโนโลยีของรถมากขึ้น โดยเฉพาะในปี 1980s ที่มีการใช้รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กและระบบการจัดการพลังงานที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น กลุ่มที่ใช้เครื่องยนต์เจ็ตหรือรถไฮบริด

    การแข่งขันในยุคปัจจุบันยังคงมีความสำคัญในวงการมอเตอร์สปอร์ต โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า เช่น การใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (Hybrid) ในการแข่งขันเลอ ม็องส์ ซึ่งสามารถดึงดูดทั้งนักแข่งและแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตให้ร่วมสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

    การแข่งขันในปัจจุบัน

    ปัจจุบันการแข่งขันเลอ ม็องส์ 24 ชั่วโมง ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ “World Endurance Championship (WEC)” ซึ่งเป็นการแข่งขันรถยนต์ระยะยาวระดับโลก โดยมีการแข่งขันทั้งในส่วนของ Prototype (รถยนต์ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับการแข่งขัน) และ GT (รถยนต์ที่ใช้พื้นฐานจากรถยนต์ทั่วไป) นักขับที่มีชื่อเสียงมากมายได้เข้าร่วมการแข่งขันใน Le Mans 24 Hours เช่น Tom Kristensen, Jackie Ickx และ Steve McQueen (ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์)

    เลอ ม็องส์ ยังคงเป็นสนามทดสอบเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งไม่เพียงแต่เน้นที่ความเร็วในการขับขี่เท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับความทนทานของเครื่องยนต์และประสิทธิภาพของรถยนต์ในการขับขี่ระยะยาว ทั้งนี้ การแข่งขันยังคงดึงดูดแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกให้มารวมตัวกันทุกปี

    การแข่งขัน Le Mans 24 Hours ไม่เพียงแต่เป็นการทดสอบรถยนต์และนักขับในด้านความทนทานเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ในระดับสูง การแข่งขันนี้ยังคงมีความสำคัญทั้งในวงการมอเตอร์สปอร์ตและในประวัติศาสตร์การพัฒนาของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก

    บทความที่น่าสนใจ
    จากจุดเริ่มต้นสู่ตำนาน ประวัติศาสตร์การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ Formula 1
    “ธงหมากรุก” สัญลักษณ์แห่งชัยชนะในประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ต

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts