Peugeot Landtrek ได้รับการปรับโฉมใหม่ เพิ่มเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตรใหม่ ให้กำลัง 197 แรงม้า รวมถึงการออกแบบเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงคุณสมบัติด้านความปลอดภัย
Peugeot Landtrek ใช้โครงสร้าง Ladder-frame ร่วมกับ Kaicene F70 และกระบะ Changan Lantazhe จากประเทศจีน นอกจากนี้ยังมีชิ้นส่วนหลายชิ้นที่ใช้ร่วมกับ Fiat Titano ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดของกระบะรุ่นปรับปรุงใหม่นี้คือกระจังหน้าแบบใหม่พร้อมตราสัญลักษณ์ใหม่ของ Peugeot โดยนักออกแบบได้กำจัดแถบโครเมียมออกและเลือกใช้กระจังหน้าสีเข้มที่มีลวดลายใหม่ รูปลักษณ์ยังคงเหมือนเดิม ส่วนด้านท้ายมีกันชนที่ออกแบบใหม่และตัวอักษร Peugeot ที่ทันสมัยบนฝาท้าย
ด้านขุมพลังก็ปรับใหม่ เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบสี่สูบ Multijet 2.2 ลิตรใหม่ ซึ่งให้กำลัง 197 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร ซึ่งจะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบถาวรเท่านั้น และสามารถจับคู่กับเกียร์ธรรมดาหกสปีดหรือเกียร์อัตโนมัติแปดสปีดได้
นอกจากนี้ ยังมีความจุบรรทุกที่มากขึ้นกว่าเดิม โดยมีค่าพิกัดอยู่ที่ 1,400 กก. และความสามารถในการลากจูง 3,500 กก.
ส่วนรุ่นอื่นๆ ยังคงใช้ขุมพลังเดิม เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร 148 แรงม้าและเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตรที่ทรงพลังยิ่งขึ้น 207 แรงม้า โดยส่งกำลังไปยังล้อหลังหรือล้อทั้งสี่ ขึ้นอยู่กับรุ่นที่จำหน่าย
ภายในห้องโดยสารมีแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 7 นิ้วใหม่ ร่วมกับจอแสดงผลข้อมูลความบันเทิงขนาด 10 นิ้ว พวงมาลัยประดับตราสัญลักษณ์ Peugeot ใหม่ ขณะที่อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยประกอบด้วย ADAS ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้พร้อมระบบ Stop & Go และระบบตรวจจับจุดบอด ซึ่งจะใช้ได้เฉพาะกับระบบส่งกำลังเทอร์โบดีเซลใหม่เท่านั้น
เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า มีให้เลือกทั้งแบบ single cab และ double cab ภายในห้องโดยสารสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 6 คน โดยมีเบาะนั่งแบบแยกส่วนให้เลือกที่ด้านหน้า ส่วนกระบะท้ายรถได้รับการขนานนามว่า “กว้างขวางที่สุด” ในปิคอัพกลุ่มนี้ และสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ เพิ่มเติมได้ รวมถึงหลังคาแข็งแบบเคลือบกระจก
Landtrek มีวางจำหน่ายใน 40 ตลาดทั่วโลก โดยส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกาใต้
Source: Carscoops
