ในที่สุด YANGWANG ค่ายรถหรูในเครือ BYD เปิดตัวเอสยูวีฐานล้อยาว 3 แถว 6 ที่นั่งอย่างเป็นทางการในชื่อ YANGWANG U8L
ตัวจริงเสียงจริงของ YANGWANG U8L เปิดตัวแล้วที่งาน Shanghai Auto Show 2025 โดยนำพื้นฐานจากรุ่น U8 Luxury Edition
ความพิเศษครั้งนี้ด้วยสีทองหลังคาดำ “Obsidian Black/Sunstone Gold” มือจับประตูที่ซ่อนอยู่ ในเวลาเดียวกัน ยางอะไหล่ด้านหลังก็ถูกถอดออกพร้อมประตูท้ายไฟฟ้าเปิดแยกส่วน และสามารถนั่งด้านท้ายรองรับน้ำหนัก 200 กิโลกรัม นั่งได้ 2 คน สำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การตั้งแคมป์หรือชมทิวทัศน์ ล้ออัลลอยทรงโล่ขนาดใหญ่ 23 นิ้ว 8 รู และตราโลโก้หน้า-หลัง ทำมาจากทองคำ 24K
นอกนั้นทรงเดิมคล้ายกับคู่แข่งโซนยุโรปทั้ง Land Rover Defender หรือ Mercedes-Benz G-Class เริ่มที่ด้านหน้ากับกระจังหน้าดีไซน์หรูซับซ้อนแบบตะแกรงพร้อมไฟเลี้ยววิ่งอยู่บนขอบบังโคลนหน้าซ้าย-ขวาถัดลงมาเป็นชุดไฟหน้า LED แบบ Dual ทรงเลขเจ็ดในชุดกันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถพร้อมบันไดข้างไฟฟ้าหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ
กระจกมองข้างแนวตั้งพร้อมไฟเลี้ยวที่เปิดประตูแนวฝังเรียบเนียนกับตัวรถ ด้านท้ายแน่นอนว่าคล้ายกับ Land Rover Defender หรือ Mercedes-Benz G-Class ในส่วนของที่ห้อยยางอะไหล่บนฝาท้ายรวมถึงไฟท้าย LED ทรงเลขเจ็ดคล้ายกับด้านหน้า จากพื้นฐาน e4 platform แชสซีส์ขั้นบันไดหรือ Ladder Frame Architecture
สำหรับเวอร์ชันนี้ขยายความยาวเป็น 5,400 มิลลิเมตร (เพิ่มความยาว 81 มิลลิเมตร) ความกว้าง 2,049 มิลลิเมตร ความสูง 1,921 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,250 มิลลิเมตร (เพิ่มฐานล้อจากเดิม 200 มิลลิเมตร) น้ำหนักรถ 3,460 กิโลกรัม และขนาดถังน้ำมัน 75 ลิตร โดยระยะฐานล้ออาจยาวขึ้นกว่าเดิม
ภายในมาในแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง พร้อมความพิเศษด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านคู่ตกแต่งลายไม้ติดตราโลโก้ที่ทำจากทองคำ 24K พรั่งพร้อมด้วยความหรูหราจากวัสดุหุ้มหนังแท้เกรดคุณภาพ NAPPA เบาะหลังพับได้เพิ่มพื้นที่การขนของมากขึ้นถึง 2,050 ลิตรและ 1,031 ลิตรกรณีไม่พับเบาะ แผงประตูตกแต่งด้วยลายหินอ่อนผสมหนังแท้รวมถึงคอนโซลหน้าและคอนโซกลางก็ตกแต่งด้วย
จอสัมผัสขนาดใหญ่ในชุดแผงคอนโซลหน้ามีด้วยกันถึง 3 จอเริ่มที่จอสัมผัสซ้ายขวาที่เป็นทั้งมาตรวัดดิจิทัลและจอควบคุมนั้นขนาด 23.6 นิ้วเท่ากันสองฝั่งส่วนจอสัมผัสระบบความบันเทิงตรงกลางคอนโซลหน้าเป็นแนวตั้ง OLED Star Ring ขนาด 12.8 นิ้ว ยังมีจอหลังเบาะคู่หน้าซ้าย-ขวาฝั่งละ 12.8 นิ้วมาให้
ที่ชาร์จมือถือไร้สายที่ใจดีให้มา 3 จุดปล่อยกำลัง 50 W ปลั๊กไฟ 220V AC ช่องเสียบ USB Type-C 8 จุด กับช่องเสียบขนาด 12 V 12 จุด และลำโพงคุณภาพ DYNAUDIO Platinum Evidence ให้เสียงกระหึ่มรอบคันถึง 22 จุด
ขุมพลังแบบ EREV หรือ Extended Range Electric Vehicle ใช้เครื่องยนต์ในการปั่นไฟและแบตเตอรี่ กับมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานเป็นหลักพิเศษตรงที่สามารถเสียบปลั๊กแบบ Plug In Hybrid ด้วยเบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 272 แรงม้า
จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า Quad-Motor หรือมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระสี่ตัวกระจายกำลังจากแต่ละล้อไปรวมกันทั้งหมดสี่ล้อซึ่งจะคล้ายกับ Mercedes-Benz EQG แรงม้าจากมอเตอร์ไฟฟ้าแต่ละตัวให้กำลัง 299 แรงม้าแรงบิด 320 นิวตันเมตรขนาดความจุแบตเตอรี่ 49.05 kWh เมื่อทำงานร่วมกันจะให้กำลังรวมมากถึง 1,197 แรงม้า แรงบิด 1,280 นิวตันเมตร
ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.6 วินาที โดยชุดแบตเตอรี่จะอยู่ในส่วนกลางของแชสซีส์สำหรับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อควบคุมด้วยไฟฟ้าจะตอบสนองเร็วขึ้นกว่าเดิม 100 เท่าวิ่งไกลสุดในโหมดทำงานร่วมกันถึง 1,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งและน้ำมัน 1 ถังตามมาตรฐาน CLTC หรือ 965 กิโลเมตร (NEDC)
ขับขี่โหมดไฟฟ้าอย่างเดียววิ่งไกลสุด 180 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC หรือ 174 กิโลเมตร (NEDC) ชาร์จเร็วกระแสตรง DC 30-80%รองรับกำลังชาร์จสูงสุด 110 kWใช้เวลาเพียง 18 นาทีชาร์จกระแสสลับ AC ได้ 8 ชั่วโมง 15-100%รองรับกำลังชาร์จสูงสุด 7 kWรองรับ V2L เชื่อมต่อการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ
มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีโหมดการขับขี่ถึง 16 โหมดที่มีโหมด Crab กับ Floating Water สามารถลุยน้ำท่วมน้ำลึกๆได้ 1,000-1,400 มิลลิเมตรโหมด Off Road สำหรับลุยเส้นทางโหดเทียบเท่ารถขับเคลื่อนสี่ล้อโดยจะมีระบบเกี่ยวเนื่องทั้งตรวจสอบแรงดันลมยาง ประคองตัวรถผ่าระบบควบคุมการทรงตัวเพื่อรักษาเสถียรภาพการขับขี่ให้ดีแม้เกิดเหตุการณ์ยางแบนยางแตกสามารถประคองรถด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บังคับเลี้ยวได้ถึง 360 องศาพร้อมช่วงล่างอัจฉริยะ Disus-X ประกอบด้วย 3 ระบบได้แก่ Intelligent Damping Body Control System (DiSus-C), Intelligent Air Body Control System (DiSus-A) และ Intelligent Hydraulic Body Control System (DiSus-P)
“God’s Eye A” (DiPilot 300) ที่มีเซนเซอร์รอบคัน 38 ตัว มีระบบ LiDAR 3 ตัว, เรดาห์ MW 5 ตัว, เรดาห์อัลตราโซนิก 14 ตัว และกล้อง 16 ตัว รองรับฟังก์ชันต่างๆ เช่น การนำทางบนทางหลวงและในเมืองด้วยระบบ Autopilot (NOA) ระบบจอดรถอัตโนมัติ ระบบจอดรถระยะไกล และระบบจอดรถ e⁴และความปลอดภัยมาครบประกอบด้วย
ระบบควบคุมการพลิกคว่ำ (RMI) ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก (BOS) เตือนเมื่อเปิดประตู (DOW) ตรวจสอบความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (DFM) ควบคุมการทรงตัวของรถพ่วง (TSM) ตรวจจับจุดบอด (BSD) ทำความสะอาดจานเบรก (BDW)
ภาพแสดงภาพโฮโลแกรม 3 มิติ (รวมถึงระบบภาพพาโนรามาความละเอียดสูง 360°) เบรกไดนามิกอัจฉริยะ ช่วยเบรกไฮดรอลิค (HBA) ควบคุมการชะลอความเร็วของเบรกจอดรถ (CDP) พร้อมลุยทุกสถานการณ์ทั้ง ระยะมุมเงย Approach Angle 36.5 องศา ระยะมุมจาก Departure Angle 35.4 องศา ระยะห่างจากพื้นต่ำสุด 285 มิลลิเมตร และระยะวงเลี้ยวต่ำสุด 11.52 เมตร
โดย YANGWANG U8L เตรียมเปิดขายที่จีนภายในปีนี้ จับตาว่ารุ่นนี้พร้อมรุ่น U8 จะบุกตลาดโลกไม่ว่าจะเป็น สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และออสเตรเลียในอนาคตลุ้นกันว่าคันนี้จะมาเจาะกลุ่มลักชัวรีในไทยด้วยหรือไม่ต้องติดตาม
ที่มา CarNewsChina