รุกตลาดอย่างจริงจังส่งรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องสำหรับ Hyundai ล่าสุดเขย่าวงการรถยนต์เอ็มพีวีในประเทศไทยอีกครั้งกับ Hyundai Staria MY2023.5
Hyundai Staria MY2023.5 เสริมทัพรุ่นใหม่นำรุ่น Trend และรุ่น Style ตกแต่งเพิ่มเติมในรุ่นย่อยใหม่ Trend S และ Style S ด้วยชุดแต่งรอบคันออกแบบใหม่ขึ้นทั้งหมดประกอบด้วย ชายกันชนหน้า – หลัง และ สเกิร์ตข้าง อุปกรณ์เสริมทั้งหมดนี้ไม่เพียงแต่ช่วยปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ บนพื้นฐานล้ำอนาคตด้วยชุดไฟหน้า LED ถูกจัดวางในตำแหน่งชายกันชนหน้าระดับแนวขอบยางด้านบนและเหนือขึ้นไปกับไฟ DRLs คาดยาวสองฝั่งคล้ายกับแว่นตาของหุ่นยนต์เพื่อเข้ากับกระจังหน้าลายตาข่าย ออกแบบพื้นที่กระจกบานหน้าขนาดใหญ่และลาดเอียงขึ้นไปถึงแนวหลังคาด้านบน เมื่อมองจากด้านข้างระยะโอเวอร์แฮงค์ด้านหน้าดูสั้นลงกว่าเดิม ด้านท้ายติดตั้งไฟ LED แบบ Parametric Pixel ดีไซน์ในแบบตารางๆ
กันชนท้ายตั้งอยู่ในระดับต่ำช่วยให้ขนสัมภาระเข้า-ออก ได้ง่ายมากขึ้น พื้นที่กระจกรอบคัน ได้รับการออกแบบให้กว้างค่อนข้างมาก พร้อมล้ออัลลอยขนาด ขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 215/65R17ในรุ่น Trend S และขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/55R18 ในรุ่น Style S ประตูสไลด์ไฟฟ้าสองข้างพร้อมระบบ Smart ประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบ Smart ตัวรถขนาดใหญ่ความพร้อมความยาว 5,253 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,997 มิลลิเมตร ความสูง 1,990 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3,273 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 186 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมัน 75 ลิตร
ห้องโดยสารแบบ 11 ที่นั่ง เพลิดเพลินและสะดวกสบายพร้อมคุณภาพการเก็บเสียงเหนือระดับ ทั้งยังเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์มากมาย เพื่อความสะดวกสบายแบบไม่มีที่สิ้นสุดอย่าง จอมาตรวัดดิจิตอลขนาดใหญ่ 10.25 นิ้ว ติดตั้งบริเวณด้านบนของแผงคอนโซล เพิ่มทัศนวิสัยให้ผู้ขับขี่มากขึ้น หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วติดตั้งบริเวณคอนโซลกลาง พร้อมลำโพง 6 ตัว รองรับ Apple CarPlay Android Auto แบบไร้สาย พร้อมระบบชาร์จมือถือไร้สาย (Wireless Charger) ช่องเสียบ USB 7ช่อง เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold ระบบช่วยหยุดอยู่กับที่โดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้ และปลดเบรกอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง กุญแจรีโมทพร้อมระบบ Smart Keyless Entry พร้อมระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจ Remote Engine Start และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกปรับอิสระหน้า – หลัง
ขุมพลังแรงด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน VGT ขนาด 2.2 ลิตร รหัส D4HB 177 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิด 431 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบปุ่มกด Shift-by-Wire พร้อม Paddle Shift ขับเคลื่อนล้อหน้าใช้ช่วงล่างแบบมัลติ-ลิงค์ด้านหลังเพิ่มความนุ่มนวล
พร้อมความปลอดภัย Hyundai Smart Sense ในรุ่น Style S อาทิ ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision Avoidance Assist ช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก Forward Collision-Avoidance Assist Junction Turning Function ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist รถให้อยู่กลางเลน Lane Following Assist ช่วยเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่ออยู่ในจุดอับสายตา Blind-Spot Collision-Avoidance Assist กล้องมองรอบทิศทาง Surround View Monitor กล้องมองภาพจุดอับสายตา Blind-Spot View Monitor เตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ Rear Cross-traffic Collision Avoidance Assist แจ้งความดันลมยางอัตโนมัติ TPMS ป้องกันการเปิดประตูสไลด์เมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง Safe Exit Assist และ ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Smart Cruise Control
พร้อมออปชันมาตรฐานทุกรุ่นอาทิ แจ้งเตือนผู้โดยสารด้านหลัง Rear Occupant Alert ถุงลมนิรภัยจำนวน 6 ตำแหน่ง เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดครบ 11 ที่นั่ง จุดติดตั้งคาร์ซีทสำหรับเด็ก (ISOFIX) 2 จุด ควบคุมเสถียรภาพ ESC ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill-start Assist Control ควบคุมเสถียรภาพเมื่อมีลมปะทะข้างตัวรถ CSC ช่วยหยุดรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ Multi Collision Brake และเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind-Spot Collision Warning ในรุ่น Trend S
Hyundai Staria MY2023.5 ให้คุณเป็นเจ้าของในราคาเดิมที่ 1,799,000 บาท สำหรับรุ่น Trend S และ 2,099,000 บาท สำหรับรุ่น Style S ในส่วนของสีตัวถังยังคงมีให้เลือก 3 สีตามสไตล์ทั้ง สีดำ เอบิส แบล็ค เพิร์ล Abyss Black Pearl, สีเทา แกรไฟต์ เกรย์ เมทัลลิค Graphite Gray Metallic และ สีเทา ชิมเมอร์ริง ซิลเวอร์ เมทัลลิค Shimmering Silver Metallic ภายในมีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ-เบจ เฉพาะสีภายนอกรถสีดำ และสีดำ เฉพาะสีภายนอกสีเทาและสีเงิน
ยังมีข้อเสนอพิเศษสำหรับ ลูกค้าฮุนไดโดยเฉพาะกับ HYUNDAI Happy Choice ให้คุณเลือกรับโปรที่ใช่ ระหว่างข้อเสนอแรก ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งพร้อม พรบ. 3 ปี หรือ เลือกรับข้อเสนอ ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.19% พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งและพรบ. 1 ปี ทั้งสองทางเลือกยัง มาพร้อมกับ ฟรีแพคเกจบำรุงรักษาตามระยะ 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร และ ฟรีการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
