ทำตลาดมายาวนานและกลายเป็นเอสยูวีรุ่นเล็กสุดของค่ายในราคาเริ่มต้นที่เร้าใจสำหรับ Mazda CX-3 ถึงแม้บางประเทศจะยุติขายไป
แต่บางประเทศก็ยังได้รับการตอบรับอย่างดีอย่างเข่นไทยและออสเตรเลีย ล่าสุดเปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่หรือ MY2023 เน้นเอสยูวีเล็กราคาถูกเอาใจคนเมืองที่มีงบน้อยและไม่สามารถขยับไปเล่น Mazda CX-30 ได้ด้วยการเพิ่มสีใหม่สีเทา Aero Grey พร้อมหลังคาดำ กระจังหน้าทรงซิกเนเจอร์วิงโครเมียมพร้อมไส้ในแบบสีรมดำเงากระจกมองข้างทรงสปูนสีดำ ล้ออัลลอยลายใหม่ทูโทนปัดเงาขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/50R18
คิ้วขอบล้อต่อเนื่องกับคิ้วชายล่างประตูตกแต่งสีดำเงา คิ้วโครเมียมขอบกันชนหน้า ด้านข้างและด้านหลังเสริมหรูให้เด่นชัด ไฟหน้า Projector แบบ LED ไฟ LED Daytime ไฟท้าย LED Signature ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 215/60 R16 และหลังคาซันรูฟไฟฟ้า
ภายในมีการปรับในส่วนโทนห้องโดยสารมาแบบสองสีทั้ง สีทูโทนดำ/น้ำเงิน กับ ทูโทนขาว/แทน ทั้งในชุดเบาะหุ้มกึ่งหนังแท้ปรับไฟฟ้าด้านคนขับ 8 ทิศทาง พร้อมดันหลังและบันทึกความจำเบาะคนขับ 2 ตำแหน่ง หนังสัมผัสชุดคอนโซลหน้ากับแผงประตูและวงแหวนช่องแอร์ตามโทนสีเบาะ Mazda Connect พร้อมจอทัชสกรีน (Center Display) ขนาดใหม่ 8 นิ้วรองรับ Apple® CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน กับ ปุ่มควบคุม Center Commander ที่คอนโซลกลาง
พร้อมออปชันเดิมทั้งอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมพนักวางแขนทั้งด้านหน้าและหลังมาพร้อมที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง เบรกมือไฟฟ้า (EPB) พร้อมระบบ Auto และจอแสดงผลบนแผงคอนโซลหน้า Head Up Display และลำโพงคุณภาพจาก BOSE
เครื่องยนต์ยังคงเดิมด้วยเบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ลิตร รหัส PE 150 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 195 นิวตันเมตรที่ 2,800 รอบ/นาที ซึ่งแรงม้าน้อยกว่าสเปกไทย ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive 6 สปีด เปลี่ยนเกียร์ทันใจด้วย Activematic สามารถเลือกโหมดขับขี่ Sport ได้ ขับเคลื่อนล้อหน้า ไม่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและเกียร์ธรรมดา SKYACTIV-MT 6 สปีดอีกต่อไป
ควบคุมการขับขี่ด้วยระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า (EPAS) พร้อมความปลอดภัยครบครัน ทั้ง ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC) ช่วยให้ควบคุมแรงบิดเครื่องยนต์ ส่งผลให้การขับขี่ทางโค้งราบรื่น พร้อมระบบความปลอดภัย i-Activsense ทั้ง ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control) พร้อมฟังก์ชัน Stop&Go อ่านป้ายจราจร traffic sign recognition ที่เพิ่มมาใหม่
นอกนั้นคงเดิมทั้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System) ช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert) เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring), เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) กล้องรอบคัน 360 องศา (360 ̊ View Monitor) พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า-หลัง 4 จุด และด้านหลัง 2 จุด
สัญญาณไฟกระพริบเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกรถอย่างกระทันหัน ESS (EMERGENCY SIGNAL SYSTEM) ถุงลงนิรภัยคู่หน้าด้านข้างกับม่านถุงลมนิรภัย ,ล็อกความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control, ช่วยควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control), ช่วยในการออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist) ช่วยป้องกันรถเลื่อนไถล TCS (Traction Control System) ระบบควบคุมการเปิดปิดกระจกไฟฟ้าและกระจกมองข้างพับอัตโนมัติหลังล็อกรถ
Mazda CX-3 MY2023 นอกจากสีใหม่สีเทาหลังคาดำ Aero Grey ยังมีสีเดิมทั้ง 6 สีได้แก่ สีแดง Soul Red Crystal, สีเทา Machine Gray, สีขาวมุก Snowflake White Pearl, สีเทา Polymetal Gray, สีดำ Jet Black, สีบรอนซ์ Platinum Quartz แถมปรับรุ่นย่อยลงจากเดิม 13 รุ่นกลายเป็น 5 รุ่นย่อย ทั้งรุ่น Sport, Pure, Evolve, Touring SP และรุ่นท็อปสุด Akari เริ่ม $26,800– $38,620 หรือราว 629,000-905,000 บาท เริ่มขายออสเตรเลียกันยายนนี้ส่วนเมืองไทยมีแนวโน้มที่จะปรับด้วยเช่นกัน
ที่มา Carsales
