รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนกุมภาพันธ์ 2567 Toyota แบรนด์รถยนต์ครองยอดขายอันดับที่ 1 ทุกกลุ่มรถยนต์ตั้งแต่รถเก๋งไปจนถึงรถพีพีวี
ตลาดรถยนต์เดือนกุมภาพันธ์ มีปริมาณการขาย 52,843 คัน ลดลง 26.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งยอดขายที่ลดลงมากกว่าปกติ เป็นผลมาจากการเร่งขายของกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องจดทะเบียนภายในเดือนมกราคม เพื่อลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์ภาษี BEV 3.0
รวมถึงผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจ เพื่อรอการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ตลอดจนแคมเปญส่งเสริมการขายที่จะเกิดขึ้นในงานจัดแสดงยานยนต์ครั้งยิ่งใหญ่ “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45” ทั้งนี้ตลาดรถยนต์นั่ง มีอัตราการเติบโตลดลงที่ 20.1% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีอัตราการเติบโตลดลงที่ 29.4% นอกจากนี้ การที่สถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของตลาดรถยนต์ เช่นกัน
ตลาดรถยนต์ในเดือนมีนาคมมีแนวโน้มที่จะขยับตัวดีขึ้น จากการที่ค่ายรถยนต์พร้อมใจกันแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ทั้งรถยนต์นั่งและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ณ งานจัดแสดงยานยนต์ครั้งยิ่งใหญ่แห่ง ไตรมาสแรก “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45” พร้อมโปรโมชั่นส่งเสริมการขายจากทั้งค่ายรถยนต์และสถาบันการเงิน เพิ่มความน่าดึงดูดใจในการเป็นเจ้าของ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกุมพาพันธ์ 2567
- ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 52,843 คัน ลดลง 26.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 19,702 คัน ลดลง 23.1% ส่วนแบ่งตลาด 37.3%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 8,587 คัน ลดลง 1.4% ส่วนแบ่งตลาด 16.3%
อันดับที่ 3 อีซูซุ 7,653 คัน ลดลง 50.2% ส่วนแบ่งตลาด 14.5%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 2,655 คัน ลดลง 26.4% ส่วนแบ่งตลาด 5.0%
อันดับที่ 5 ฟอร์ด 2,206 คัน ลดลง 38.6% ส่วนแบ่งตลาด 3.6%
- ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 19,861 คัน ลดลง 20.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 4,880 คัน ลดลง 48.4% ส่วนแบ่งตลาด 24.6%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 4,721 คัน ลดลง 16.6% ส่วนแบ่งตลาด 23.8%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,705 คัน ลดลง 9% ส่วนแบ่งตลาด 8.6%
อันดับที่ 4 เอ็มจี 1,271 คัน ลดลง 4% ส่วนแบ่งตลาด 6.4%
อันดับที่ 5 บีวายดี 870 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.4%
- ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 32,982 คัน ลดลง 29.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 14,822 คัน ลดลง 8.2% ส่วนแบ่งตลาด 44.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 7,653 คัน ลดลง 50.2% ส่วนแบ่งตลาด 23.2%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 3,866 คัน เพิ่มขึ้น 27% ส่วนแบ่งตลาด 11.7%
อันดับที่ 4 ฟอร์ด 2,205 คัน ลดลง 38.6% ส่วนแบ่งตลาด 6.7%
อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 950 คัน ลดลง 45.2% ส่วนแบ่งตลาด 2.9%
- ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 18,839 คัน ลดลง 44.0%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 8,661 คัน ลดลง 36.2% ส่วนแบ่งตลาด 46.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,690 คัน ลดลง 52.7% ส่วนแบ่งตลาด 35.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,205 คัน ลดลง 38.6% ส่วนแบ่งตลาด 11.7%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 949 คัน ลดลง 45.1% ส่วนแบ่งตลาด 5.0%
อันดับที่ 5 นิสสัน 271 คัน ลดลง 32.4% ส่วนแบ่งตลาด 1.4%
ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (PPV) ปริมาณการขาย 3,304 คัน ลดลง 47.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 1,275 คัน ลดลง 40.4% ส่วนแบ่งตลาด 38.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 985 คัน ลดลง 54.2% ส่วนแบ่งตลาด 29.8%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 752 คัน ลดลง 48.1% ส่วนแบ่งตลาด 22.8%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 248 คัน ลดลง 45.6% ส่วนแบ่งตลาด 7.5%
อันดับที่ 5 นิสสัน 44 คัน ลดลง 62.1% ส่วนแบ่งตลาด 1.3%
- ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 15,535 คัน ลดลง 43.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,386 คัน ลดลง 35.5% ส่วนแบ่งตลาด 47.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 5,705 คัน ลดลง 52.4% ส่วนแบ่งตลาด 36.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,453 คัน ลดลง 32.2% ส่วนแบ่งตลาด 9.4%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 701 คัน ลดลง 44.9% ส่วนแบ่งตลาด 4.5%
อันดับที่ 5 นิสสัน 227 คัน ลดลง 20.1% ส่วนแบ่งตลาด 1.5%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือน มกราคม–กุมภาพันธ์ 2567
- ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 107,657 คัน ลดลง 21.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 37,228 คัน ลดลง 24.7% ส่วนแบ่งตลาด 34.6%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 16,885 คัน เพิ่มขึ้น 7% ส่วนแบ่งตลาด 15.7%
อันดับที่ 3 อีซูซุ 15,583 คัน ลดลง 48.1% ส่วนแบ่งตลาด 14.5%
อันดับที่ 4 บีวายดี 8,915 คัน เพิ่มขึ้น 186.8% ส่วนแบ่งตลาด 8.3%
อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 4,575 คัน ลดลง 33.6% ส่วนแบ่งตลาด 4.2%
- ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 43,273 คัน ลดลง 9.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 10,025 คัน ลดลง 44.7% ส่วนแบ่งตลาด 23.2%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 9,329 คัน ลดลง 13.1% ส่วนแบ่งตลาด 21.6%
อันดับที่ 3 บีวายดี 7,084 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.4%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 2,915 คัน ลดลง 15.0% ส่วนแบ่งตลาด 6.7%
อันดับที่ 5 เอ็มจี 2,437 คัน ลดลง 13.2% ส่วนแบ่งตลาด 5.6%
- ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 64,384 คัน ลดลง 28.0%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 27,203 คัน ลดลง 13% ส่วนแบ่งตลาด 42.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,583 คัน ลดลง 48.1% ส่วนแบ่งตลาด 24.2%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 7,556 คัน เพิ่มขึ้น 49.8% ส่วนแบ่งตลาด 11.7%
อันดับที่ 4 ฟอร์ด 4,187 คัน ลดลง 39.9% ส่วนแบ่งตลาด 6.5%
อันดับที่ 5 บีวายดี 1,831 คัน ลดลง 41.1% ส่วนแบ่งตลาด 2.8%
- ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 36,777 คัน ลดลง 43.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 16,619 คัน ลดลง 36.5% ส่วนแบ่งตลาด 45.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 13,616 คัน ลดลง 50.8% ส่วนแบ่งตลาด 37.0%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,187 คัน ลดลง 39.9% ส่วนแบ่งตลาด 11.4%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 1,652 คัน ลดลง 52.1% ส่วนแบ่งตลาด 4.5%
อันดับที่ 5 นิสสัน 547 คัน ลดลง 28.8% ส่วนแบ่งตลาด 1.5%
ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (PPV) ปริมาณการขาย 6,378 คัน ลดลง 45.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 2,386 คัน ลดลง 45.7% ส่วนแบ่งตลาด 37.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 2,008 คัน ลดลง 48.1% ส่วนแบ่งตลาด 31.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,457 คัน ลดลง 38.7% ส่วนแบ่งตลาด 22.8%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 434 คัน ลดลง 53.2% ส่วนแบ่งตลาด 6.8%
อันดับที่ 5 นิสสัน 93 คัน ลดลง 56.7% ส่วนแบ่งตลาด 1.5%
- ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 30,399 คัน ลดลง 43.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 14,233 คัน ลดลง 34.7% ส่วนแบ่งตลาด 46.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 11,608 คัน ลดลง 51.2% ส่วนแบ่งตลาด 38.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,730 คัน ลดลง 40.5% ส่วนแบ่งตลาด 9.0%
อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 1,218 คัน ลดลง 51.6% ส่วนแบ่งตลาด 4.0%
อันดับที่ 5 นิสสัน 454 คัน ลดลง 17.9% ส่วนแบ่งตลาด 1.5%