More

    EQE SUV From Mercedes-EQ เสริมสองรุ่นย่อยเริ่ม 4.85 ล้านบาท

    พึ่งจะเปิดตัว EQE SUV From Mercedes-EQ พร้อมราคาจำหน่ายอยู่ที่ 5.65 ล้านบาทกับรุ่นท็อปสุด EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic ได้ไม่นาน

    Mercedes-Benz

    ล่าสุด Mercedes-Benz ขยายไลน์อัพของ EQE SUV From Mercedes-EQ เพิ่มมาอีกสองรุ่นย่อยนั่นคือ EQE 350 4MATIC SUV Electric Art และ EQE 350 4MATIC SUV AMG Line เป็นรุ่นเริ่มต้นและรุ่นกลางของไลน์โปรดักส์รถเอสยูวีขนาดกลางระดับหรู Mid-Size Luxury SUV ย่อส่วนความหรูมาจากรุ่นพี่ EQS SUV สะท้อนการออกแบบที่ผสานดีไซน์อันเหนือระดับเข้ากับความเหนือชั้นของฟังก์ชันและความสะดวกสบายตามแบบฉบับของรถเอสยูวี

    ภายนอกตกแต่งด้วยชุดแต่ง Electric Art Exterior Package ติดตั้งไฟหน้าแบบ LED High Performance headlamps ที่ให้คุณภาพแสงสีขาวนวลอย่างสม่ำเสมอ พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist ช่วงล่างมีการติดตั้งล้ออัลลอยด์ดีไซน์สปอร์ตแบบ 5 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/45R20ในรุ่น EQE 350 4MATIC SUV Electric Art  ส่วนทางด้าน EQE 350 4MATIC SUV AMG Line ตกแต่งด้วยชุดแต่ง AMG Exterior Package มอบทัศนวิสัยขั้นสูงสุดให้แก่ผู้ขับขี่ด้วยไฟหน้า DIGITAL LIGHT ที่ให้ความละเอียดสูงถึง 1.3 ล้านพิกเซลต่อ 1 โคมหลอด พร้อม Adaptive Highbeam Assist Plus ส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร ติดตั้งล้ออัลลอยด์ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว โดยทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมช่วงล่างแบบ Comfort suspension ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวล พร้อมระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ (HANDS-FREE ACCESS) ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO และมือจับประตูแบบไร้รอยต่อ (Seamless door handles)

    ด้านข้างมาแนวสปอร์ตด้วยกรอบกระจกสีดำ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสปูน ที่เปิดประตูแบบเปิดยกก้านซ่อนรูปกลมกลืนกับตัวถัง มีบันไดข้างดีไซน์เล็กๆติดอยู่คิ้วชายล่างไฟท้ายแบบ LED ที่มีแสงพาดขวางเป็นแนวนอนตลอดฝาท้าย และกันชนหลังสีทูโทนมีลิ้นสปอยเลอร์หลังเล็กๆ ในรหัส X294 สร้างจากแพลตฟอร์ม Mercedes-Benz EVA platform แพลตฟอร์มสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะพื้นฐานเดียวกับรุ่น EQE Sedan มีความยาว 4,863 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,940 มิลลิเมตร ความสูง 1,685 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,030 มิลลิเมตร

    Mercedes-Benzภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งที่โดดเด่นแบบ Electric Art interior วัสดุตกแต่งแบบ Laser-cut backlit trim with Mercedes-Benz pattern สะดวกสบายด้วยเบาะนั่ง Comfort Seats และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตหุ้มหนัง พร้อมหน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางแบบ OLED ขนาด 12.8 นิ้ว และหน้าจอสำหรับผู้ขับขี่ขนาด 12.3 นิ้วในรุ่น EQE 350 4MATIC SUV Electric Art ทางด้าน EQE 350 4MATIC SUV AMG Line จะตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบ AMG interior ติดตั้งเบาะนั่งแบบ Sport Seats และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตหุ้มหนัง Nappa มาพร้อมหน้าจอ MBUX Hyperscreen ที่มีขนาดหน้าจอรวม 56 นิ้ว สามารถแสดงผลได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น โดยแบ่งหน้าจอการใช้งานเป็น 3 หน้าจอหลัก ได้แก่ Driver display 12.3 นิ้ว หน้าจอ Central Display 17.7 นิ้ว และหน้าจอ Co-driver display 12.3 นิ้ว

    ทั้งสองรุ่นมอบความสะดวกสบายและติดตั้งระบบการสื่อสารต่าง ๆ มากมาย อาทิ ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS และ Android (Apple Carplay™ & Android Auto™) พร้อมอุปกรณ์สื่อสารด้วยสัญญาณ 5G สำหรับบริการ Mercedes me connect ระบบแผนที่นำทางแบบ Hard-disc navigation พร้อมแผนที่แบบ 3 มิติ ระบบตรวจสอบสภาพการจราจรแบบ Live Traffic Information ในทุกเส้นทาง ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC และระบบชาร์จแบบไร้สาย (Wireless charging) บริเวณที่นั่งด้านหน้า นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งไฟล้อมรอบห้องโดยสาร Ambient light กว่า 64 เฉดสี ที่จะช่วยเพิ่มสุนทรียภาพให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้น่าประทับใจไปอีกขั้นเบาะหลังสามารถพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่การของขนมากถึง 1,675 ลิตร แต่ถ้าไม่พับเบาะจะมีพื้นที่มาถึง 520 ลิตรMercedes-Benz

    สองรุ่นย่อย EQE SUV สองรุ่นย่อยใช้ขุมพลังไฟฟ้าเดียวกันกับรุ่นท็อปด้วยความจุแบต 89 kWh เป็นแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanently Excited Synchronous Motors (PSM) มาพร้อม 4MATIC ขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวให้กำลังมากถึง 292 แรงม้า แรงบิดมากขึ้นเป็น 765 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 558 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP) สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียง 6.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    รองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC Charge) สูงสุด 170 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 10–80% เพียง 31 นาที ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 0–100% ในระยะเวลา 9 ชั่วโมง 30 นาที สนุกเร้าใจด้วยโหมดการขับขี่ DYNAMIC SELECT สามารถควบคุมระบบการขับขี่ด้วยการสัมผัสบริเวณจอกลางมาครบตั้งแต่โหมด ECO, COMFORT, SPORT, INDIVIDUAL และ OFFROAD และแป้นคันเร่งสามารถเร่งและเบรกได้ในแป้นเดียวหรือเรียกง่ายๆว่า One Padel มีระบบเลี้ยวสี่ล้อโดยล้อหลัง 10 ผสานการทำงานด้วยระบบกันสะเทือนแบบถุงลม (AIRMATIC) ช่วยยกระดับการขับขี่ให้เป็นไปอย่างนุ่มนวลและน่าประทับใจไปอีกขั้นในพื้นฐานช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแบบ 4-Link และด้านหลังแบบ Multilink

    เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยครบครันด้วยความปลอดภัยแบบ Active Safety อาทิ ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) รักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (Active Lane Keeping Assist) ช่วยจำกัดความเร็วแบบแอ็คทีฟ (Speed Limit Assist) ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน (Active Emergency Stop Assist) ในกรณีที่คนขับไม่มีการตอบสนองต่อการขับขี่เป็นเวลานาน และการติดตั้งกล้องรอบคันแบบ 360° (Parking Package with 360 camera) ที่ให้การแสดงผลแบบ Transparent bonnet ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นภาพจริงในจุดอับสายตาบริเวณหน้ารถและใต้ท้องรถขณะขับขี่ด้วยโหมด OFFROAD เฉพาะรุ่น EQE 350 4MATIC SUV AMG Line และตัดระบบช่วยเบรกแบบแอ็คทีฟ (Active Brake Assist)

    Mercedes-BenzEQE 350 4MATIC SUV Electric Art ในราคา 4,850,000 บาท และ EQE 350 4MATIC SUV AMG Line ในราคา 5,300,000 บาท สองรุ่นย่อยใหม่ขายพร้อมกับรุ่นท็อป EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic ในราคา 5,650,000 บาท ผลิตที่สหรัฐอเมริกาที่โรงงาน Mercedes-Benz เมืองทัสคาลูซา รัฐอัลบามา มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว (Polar White) *สีเงิน (High-tech Silver) สีเทา (Selenite Grey) *สีเขียว (Emerald Green) และสีดำ (Obsidian Black)

     

    * ยกเว้นรุ่น EQE 350 4MATIC SUV Electric Art

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts