งานนี้ BMW X7 หรือ Mercedes-Benz GLS มีสิทธิ์หนาวๆร้อนๆ เมื่อ Lexus เตรียมที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ท้าชนสองเอสยูวีโซนยุโรป
ด้วยการแนะนำ Lexus TX โดยเป็นการโชว์ดักคอส่งภาพทีเซอร์มาให้ชมกันโดยเห็นในส่วนด้านข้างตั้งแต่เสา B ไปจนถึงเสา D ที่มีความโดดเด่นตรงเสา D ทาด้วยสีดำและมีคิ้วโครเมียมอยู่บนกระจกรถด้วยการออกแบบด้านท้ายที่สวยงามและชุดไฟท้าย LED ดีไซน์หรูและเป็นไปได้สูงว่าพรีเมียมเอสยูวีคันนี้นำพื้นฐานมาจาก Toyota Grand Highlander บนแพลตฟอร์ม TNGA-K โดยวางตำแหน่งสินค้าต่ำกว่า Lexus GX และ Lexus LX
ถึงจะเผยในส่วนของด้านท้ายตัวรถแต่ภายในยังไม่มีการเผยรายละเอียดออกมาเพียงแต่เป็นไปได้ว่าจะนำพื้นฐานภายในมาจาก Toyota Grand Highlander มาปรับปรุงเพิ่มเติมความหรูเข้าไปอีกด้วยเบาะนั่งตอนสุดท้ายนั่งได้ถึง 3 ที่นั่งกับที่นั่งตอนที่สองมีให้เลือกทั้งแบบ 2 ที่นั่ง Captain Seat และ 3 ที่นั่งมาตรฐาน กับที่วางแก้ว 13 จุด และช่องเสียบ USB 7 จุด เรียกว่าจุใจจัดเต็มเลยทีเดียวโดยเบาะนั่งตอนสองกับตอนสุดท้ายพับลงจะมีพื้นที่มากถึง 2,775 ลิตร เบาะนั่งคนขับคู่หน้าปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางสำหรับคนขับและ 8 ทิศทางสำหรับคนนั่งหุ้มหนังหรูแบบ Ultrasuede
พร้อมลายไม้ตกแต่งสีเข้มและวัสดุหนังสัมผัสที่แผงคอนโซลหน้ากับแผงประตูพร้อมออปชันเดิมจากรุ่น Highlander ทั้ง มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมปรับเปลี่ยนสีของมาตรวัดสี่โหมดทั้งโหมด Casual, Smart, Tough และ Sporty จอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รองรับความบันเทิง Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า power tailgate พร้อมระบบ kick-sensor เหวี่ยงเท้าไปยังใต้กันชนหลังเพื่อเปิดประตูท้าย ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย จอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือคอนโซลหน้า head-up display และ ระบบอุ่นเบาะ กระจกมองหลังแบบดิจิตอล ช่องเสียบปลั๊ก 1,500 W
ขุมพลังอาจยกมาจาก Toyota Grand Highlander กับเบนซิน Dynamic Force Engine 2.4 ลิตร T24A-FTS ให้กำลังถึง 269 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 420 นิวตันเมตรที่ 1,700-6,300 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ Direct Shift เช่นเดิมพร้อมให้เลือกในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ Dynamic Torque Vectoring AWD
เบนซิน Dynamic Force Engine Hybrid 2.5 ลิตร (รหัส A25A-FXS) ให้กำลังถึง 189 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 237 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า-หลังแบบ 5NM และแบตเตอรี่ Hybrid แบบ Nickel-Metal ทำงานร่วมกันได้กำลังสูงถึง 367 แรงม้า แรงบิด 542 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD แบบ Electronic On-Demand
และการเปิดตัว Lexus TX จะจำหน่ายเริ่มที่สหรัฐอเมริกา ผลิตที่โรงงาน Toyota Motor Manufacturing Indiana ในเมืองพรินซ์ตัน รัฐอินเดียนา คาดอาจขายจริงช่วงเดือนสิงหาคมนี้ โดยจำหน่ายทั้งรุ่น TX350, TX500h และ TX550h+
ที่มา Motor 1
