ในเมื่อเมืองไทยมีรุ่นพิเศษ Mazda Carbon Edition จับรุ่นยอดนิยมแต่งเข้มไม่ว่าจะเป็น Mazda 2, Mazda 3, Mazda CX-3 และ Mazda CX-30
มีหรือที่สหรัฐอเมริกาจะน้อยหน้าก็มีรุ่นพิเศษออกมาเช่นกันกับ Mazda Carbon Turbo Edition Series สานต่อความสำเร็จจาก Mazda Carbon Edition ครั้งนี้เน้นทำตลาดรุ่นเทอร์โบ 2.5 ลิตร SKYACTIV-G Turbo รหัส PY-VPTS ให้กำลังสูงสุด 253 แรงม้าที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิด 433 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงออกเทน 93 ระดับพรีเมียม และ 231 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงออกเทน 87 โดยมีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา SKYACTIV-MT และ เกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด มีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้ากับขับเคลื่อนสี่ล้อ i-Activ all-wheel drive
ซึ่งพลังเทอร์โบติดแรงจะอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ชาวอเมริกาชื่นชอบทั้ง Mazda 3 , Mazda CX-30 และ Mazda CX-5 ซึ่งเข้าหมวดรถปลายรุ่นรอเจนใหม่มา ภายนอกมาพร้อมสีใหม่สีบรอนซ์ทอง Zircon Sand Metallic และสีบรอนซ์เงิน Ceramic Metallic พร้อมชุดแต่ง ล้ออัลลอยสีดำเมทัลลิก กระจกมองข้าง กระจังหน้าสีดำเงา ตามบุคลิกของแต่ละรุ่น พร้อมออปชันภายในใหม่ด้วยจอสัมผัสขนาดใหม่ 10.25 นิ้ว จากเดิม 8.8 นิ้ว ช่องเสียบ USB Type C แท่นชาร์จมือถือไร้สายแบบมีไฟเรืองแสงและเบาะหุ้มหนังสีน้ำตาลตัดสีดำ
เท่านั้นยังไม่พอ Mazda CX-30 MY2023 เพิ่มกำลังของเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร SKYACTIV-G รหัส PY-RPS มากขึ้นเป็น 194 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 252 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมระบบพักการจุดสันดาปในบางลูกสูบ หรือ“Cylinder-Deactivation” ให้สามารถทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพและถูกจังหวะเวลามากขึ้น ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น
มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด SKYACTIV-MT และเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีดเลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้ากับขับเคลื่อนสี่ล้อ i-Activ all-wheel driveและยังเพิ่มระบบความปลอดภัยทั้งถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับเบาะหลังและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติพร้อมปรับโครงสร้างเสา B และ C ให้แข็งแกร่ง สำหรับรุ่นพิเศษ Mazda Carbon Turbo Edition Series พร้อมขายที่อเมริกาเร็วๆนี้
ที่มา Motor 1
