More

    Mercedes-Benz E-Class 2024 เปิดราคาท้าชน 5 Series เริ่ม 3.99 ล้าน

    หลังจากเพื่อนร่วมชาติอย่าง BMW 5 Series G60 เปิดราคา สามล้านปลายๆ มีหรือที่ Mercedes-Benz E-Class จะอยู่เฉยๆเปิดตัวท้าชนเต็มรูปแบบ

    Mercedes-BenzMercedes-Benz E-Class เจเนอเรชันที่ 11 รหัส W214 ผสมผสานกันระหว่างพี่ใหญ่ S-Class V223 และ C-Class W206 น้องเล็กผสานจนเกิดเป็นความหล่อลงตัวด้วยกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมดีไซน์ลักชัวรีอันเป็นเอกลักษณ์เด่นค่ายนี้คล้ายๆกับรุ่นพี่ S-Class ขอบสีดำและมีกระจังหน้าทรงตราดาวขนาดใหญ่ด้วย ประกบกับไฟหน้า LED high-performance ทำงานร่วมกับระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist ทรงสวยแบบทรงปีกเมื่อเข้ามารวมกับไฟ DRL แบบ LED บนโคมถึง 2 ชั้น

    ที่เปิดประตูดีไซน์ซ่อนรูปเนียนกับตัวรถ ด้านข้างดีไซน์หลังคารถความโค้งมนอย่างลงตัว ไฟท้าย LED ที่สวยงามกับไส้ในเป็นตราดาวสามแฉกหรือจะเรียกว่าเป็นไฟท้ายเบนซ์ก็ว่าได้พร้อมกันชนหลังดีไซน์เท่ กรอบท่อไอเสียคู่ 2 ฝั่ง

    ทั้งคู่มาพร้อมดีไซน์การออกแบบรอบคันด้วย AMG Bodystyling ที่มอบความดุดันตามแบบฉบับของ AMG พร้อมระบบปิดประตูแบบ Soft Close ทางด้านของ E 220 d AMG Line มอบความสะดวกสบายด้วย KEYLESS-GO Comfort Package ที่สามารถควบคุมด้วยระบบดิจิทัลผ่านสมาร์ทโฟน ช่วงล่างติดตั้งล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางหน้า 245/40R19 และยางหลัง 275/35R19 ผสานการทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนแบบ AGILITY CONTROL ช่วยซับแรงกระแทกและทำให้การขับขี่มีความนุ่มนวลยิ่งขึ้น

    ส่วน E 350 e AMG Dynamic โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบเรืองแสง ติดตั้งไฟหน้า DIGITAL LIGHT และระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist Plus ช่วยเสริมความปลอดภัยในการขับขี่และการโดยสารในทุกเส้นทาง ด้านบนมีการติดตั้งหลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า

    ยกระดับเทคโนโลยีด้วย Heat and noise-insulting acoustic glass ช่วยสะท้อนความร้อน ป้องกันรังสีอินฟาเรดและเสียงสะท้อนจากภายนอก ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางหน้า 245/40ZR20 และยางหลัง 275/35ZR20 ที่ออกแบบให้มีการลดอากาศหมุนวนบริเวณด้านข้างล้อ เพื่อทุกการขับขี่ที่เต็มไปด้วยสุนทรียภาพและความปลอดภัยขั้นสูง

    ตัวรถใหญ่ขึ้นตั้งแต่ความยาว 4,949 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,880 มิลลิเมตร ความสูง 1,468 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,961 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,915-2,265 มิลลิเมตร และความจุถังน้ำมัน 50 และ 66 ลิตร

    Mercedes-Benzภายในห้องโดยสารของทั้งสองรุ่นมีการตกแต่งแบบ AMG Interior Package ที่เน้นความสปอร์ตแต่ยังคงความหรูหราตามแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ควบคุมทิศทางการขับขี่ด้วยพวงมาลัย Multifunction sports steering เสริมความลักชัวรี่ด้วยเบาะหนังสีดำ

    มาพร้อมระบบปฏิบัติการ MBUX เจเนอเรชั่นที่ 3 พร้อมกล้อง Selfie สำหรับการประชุมงานหรือเพิ่มความบันเทิง ติดตั้งจอ MBUX Superscreen ขนาดใหญ่พิเศษ 14.4 นิ้ว บริเวณแผงคอนโซลกลาง และจอขนาด 12.3 นิ้ว บริเวณผู้โดยสารตอนหน้า ให้ตอบโจทย์ทุกการใช้งานอย่างครบครัน โดยมีการปรับปรุงให้สามารถรับ-ส่งข้อมูลออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

    พร้อมระบบ AI ที่จะเรียนรู้และปรับฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของรถยนต์ให้เข้ากับพฤติกรรมและรสนิยมของผู้ขับขี่ ทั้งยังติดตั้งระบบปรับอากาศ ENERGIZING AIR CONTROL ที่สามารถปรับทิศทางลมได้อย่างอิสระ และฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่พร้อมจะมอบความสะดวกสบายอันเหนือระดับไว้อย่างเต็มพิกัด

    ด้านเทคโนโลยีและความบันเทิง E 220 d AMG Line โดดเด่นด้วยไฟเรืองแสง Ambient Lightning Plus กว่า 64 เฉดสี ที่จะเปลี่ยนบรรยากาศของห้องโดยสารได้อย่างรื่นรมย์ ทั้งยังมีการติดตั้งระบบ MBUX Augmented Reality สําหรับแผนที่นําทาง

    ทางด้าน E 350 e AMG Dynamic มาพร้อม Digital Vent Control ช่องแอร์ที่ปรับการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อให้มีการหมุนเวียนอากาศเสมือนมีลมธรรมชาติภายในห้องโดยสาร พร้อมเทคโนโลยี Head-up display ให้ผู้ขับขี่สามารถเห็นข้อมูลการขับขี่โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน

    มอบความพิเศษด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® 4D Surround Sound System พร้อมลำโพง 21 ตัว ผสานการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Dolby Atmos ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ฟังเสียงอย่างคมชัดสมจริงราวกับนั่งอยู่ในโรงภาพยนตร์ และไฟรอบห้องโดยสารแบบ Active Ambient Lighting ที่สามารถปรับแสงสีในห้องโดยสารให้เป็นไปตามจังหวะเพลง ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความเพลิดเพลินในทุกอารมณ์

    Mercedes-Benzเวอร์ชันไทยแน่นอนว่ายังมีสองขุมพลัทางเลือกตั้งแต่เบนซิน Plug In Hybrid ในรุ่น E350 e กับเบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร รหัส M254 ให้กำลังในภาคเครื่องยนต์ 204 แรงม้าที่ 6,100 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูง 320 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 129 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังมากถึง 313 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร

    ความเร็วสูงสุด 236 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 6.5 วินาที วิ่งไกลสุดมากกว่า 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP สามารถชาร์จได้ทั้ง AC กระแสสลับ 11 kW และ DC กระแสตรง 55 kW ในเวลา 30 นาที พร้อมความจุแบตเตอรี่ขนาด 25.4 kWh ให้ความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้า 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร OM654M Mild Hybrid สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถโดยเป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษแบบ 48V technology โดยเป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษพร้อม EQ Boost ให้กำลังถึง 23 แรงม้า แรงบิด 205 นิวตันเมตร และให้กำลังมากถึง 197 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 440 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,800 รอบต่อนาที ความเร็วสูงสุด 238 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 7.6 วินาที ในรุ่น E220 d

    ทุกขนาดความแรงจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Steering – wheel Gearshift Paddles ช่วงล่างเป็นแบบอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าเป็น 4-Link ด้านหลังเป็น 5-Link และยังมีช่วงล่างถุงลม AIRMATIC ให้เลือกสามารถปรับความสูงเตี้ยของตัวรถได้ตามสภาพถนน ล้อหลังเลี้ยวได้ 4.5 องศา

    ความปลอดภัยครบครันไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ Active Distance Assist DISTRONIC เตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ATTENTION ASSIST เสริมเป็นระบบช่วยเตือนบนจอแสดงผลแบบ 3 มิติ เริ่มเตือนด้วยเสียงและเตือนผ่านจอหากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองรถจะหยุดฉุกเฉินโดยใช้ Active Emergency Stop Assist ช่วยเบรกแบบแอ็คทีฟ Active Brake Assist

    ช่วยเตือนให้รถขับอยู่ในเลนแบบแอ็คทีฟ Active Lane Keeping Assist ช่วยจอดอัตโนมัติที่ทำงานร่วมกับกล้องมองหลัง Parking Package with reversing camera มีการปรับปรุงระบบให้ช่วยถอยจอดได้เร็วขึ้นและช่วยจำกัดความเร็ว Speed Limit Assist

    Mercedes-Benz

    Mercedes-Benz E-Class พร้อมเปิดจองแล้ววันนี้ที่งาน Bangkok Motor Show 2024 จำหน่ายโมเดล Launch Edition ในจำนวนจำกัด ชูความเป็นเลิศของ Business Saloon สุดหรูที่มาพร้อมรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากเดิมในทุกองศา ขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นในทุกมิติ

    รวมถึงการติดตั้งเทคโนโลยีและฟังก์ชันอำนวยความสะดวกที่ล้ำสมัยที่สุด มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว (Polar White) สีดำ (Obsidian Black) สีเงิน (High-tech silver) และสีเทา (MANUFAKTUR Alpine Grey Solid) ในรุ่น E 220 d AMG Line และ สีเทา (Graphite Grey) ในรุ่น E 350 e AMG Dynamic ในราคาจำหน่ายดังนี้

    • E 220 d AMG Line เปิดราคาจำหน่าย 3,990,000 บาท
    • E 350 e AMG Dynamic เปิดราคาจำหน่าย 4,250,000 บาท

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts