More

    Porsche MACAN อีวีสายหรู 639 แรงม้า เตรียมมาไทยไตรมาสสอง

    เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกที่สิงคโปร์ Porsche MACAN เจนที่สองเป็นการปรับครั้งใหญ่ในรอบสิบปีตั้งแต่รุ่นมาคันน์เจนแรกลืมตาดูโลก

    Porsche

     

    Porsche MACAN เจเนอเรชันที่สองเป็นรุ่นที่สองของค่ายต่อจากรุ่น TAYCAN ที่มาแบบไฟฟ้าล้วนไม่มีเครื่องยนต์สันดาปอีกต่อไปด้วยสัดส่วนที่เฉียบคมมากขึ้นและ DNA การออกแบบของปอร์เช่มีไดนามิกและมีความโดดเด่น ผสมผสานความคลาสสิคของแบรนด์เข้ากับรถพลังงานไฟฟ้าที่มีความท้าทาย ส่งผลให้รูปลักษณ์สปอร์ต ทันสมัย และมีไดนามิก ดียิ่งขึ้นไปอีกการออกแบบเข้ากับหลักอากาศพลศาสตร์ที่มีค่าสัมประสิทธิ์ที่ 0.25 เริ่มที่ฝากระโปรงหน้าปรับให้มีขนาดตื้นขึ้น และมีส่วนปีกที่โดดเด่น ไฟหน้าแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ชุดไฟด้านบนพร้อมไฟส่องสว่างช่วงกลางวัน 4 จุด (four-point daytime running lights) ที่ฝังอยู่ในปีก กับ โมดูลไฟหน้าหลักพร้อมเทคโนโลยี LED Matrix จะอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าเล็กน้อยบริเวณส่วนหน้ารถ

    เส้นสายด้านข้างที่มีลักษณะเฉพาะเสริมด้วยความลาดของกระจกด้านหลัง เมื่อผสมผสานกับหน้าต่างบานประตูไร้ขอบอันเป็นเอกลักษณ์ ผลลัพธ์ที่ได้คือดีไซน์สปอร์ตที่โฉบเฉี่ยว เด่นชัด หนักแน่น ตัวอักษรปอร์เช่ PORSCHE ตั้งอยู่ตรงกลางแถบไฟ 3 มิติเปรียบเสมือนการแกะสลักที่งดงามสปอยเลอร์หลังแบบปรับได้ แผ่นระบายความร้อนแบบแอคทีฟที่ช่องรับอากาศด้านหน้า และแผ่นปิดแบบยืดหยุ่นบนใต้ท้องรถที่ปิดสนิท ม่านอากาศด้านล่างโมดูลไฟหน้าและส่วนหน้าแบบต่ำช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศ ส่วนบริเวณด้านหลัง ขอบด้านข้างและดิฟฟิวเซอร์แบบบานเกล็ดช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของหลักอากาศพลศาสตร์และล้ออัลลอยขนาด 20-22 นิ้ว ติดตั้งยางให้ล้อหลังใหญ่กว่าเล็กน้อย

    ตัวรถมาในร่างเอสยูวีสไตล์สปอร์ตคูเป้หลังคาลาดสร้างจากพื้นฐาน Premium Platform Electric (PPE) ด้วยมิติตัวรถใหญ่ขึ้นตั้งแต่ความยาว 4,784 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,938 มิลลิเมตร ความสูง 1,622 มิลลิเมตร ฐานล้อที่ยาวกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 86 มิลลิเมตร เป็น 2,893 มิลลิเมตร ชดเชยกับโอเวอร์แฮงค์ที่สั้นลง ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง น้ำหนักรถ 2,330-2,405 กิโลกรัมและมีช่องเก็บสัมภาระอีกช่องใต้ฝากระโปรงหน้าที่มีความจุ 84 ลิตร

    Porsche

    ภายในมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเน้นความกว้างของโซนขับขี่ และโดดเด่นด้วยการผสมผสานแผงสีดำ การออกแบบคอนโซลกลางช่วยเน้นสมรรถนะในรถ ในขณะเดียวกัน หน้าต่างบานใหญ่ก็ให้ความรู้สึกสว่างและโปร่งสบายแก่พื้นที่ภายในห้องโดยสารความจุหลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังสูงถึง 540 ลิตร (เมื่อปรับเป็นโหมด Cargo) ความจุสัมภาระมากกว่ารุ่นก่อนถึง 136 ลิตร หากพับพนักพิงเบาะหลังลงจนสุด ความจุห้องเก็บสัมภาระด้านหลังจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,348 ลิตร และมีความสามารถในการขนย้ายสูงสุดถึง 2,000 กิโลกรัม พร้อมตำแหน่งของเบาะนั่งแบบสปอร์ตพิเศษที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ

    มาพร้อมจอแสดงผลรุ่นล่าสุด 3 หน้าจอ ได้แก่ แผงหน้าปัดดีไซน์โค้งขนาด 12.6 นิ้วแบบตั้งลอยได้ จอแสดงผลส่วนกลางขนาด 10.9 นิ้ว และจอผู้โดยสาขนาด 10.9 นิ้ว ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ผู้โดยสารสามารถดูข้อมูล รวมถึงปรับการตั้งค่าระบบความบันเทิง หรือเลือกรับชมวิดีโอในขณะที่รถขับเคลื่อนอยู่ผ่านทางหน้าจอชของตนเองได้ และเป็นครั้งแรกสำหรับ Porsche Driver Experience ที่มีจอแสดงผลบนกระจกหน้าพร้อมเทคโนโลยีเสมือนจริง เช่น ลูกศรนำทางที่ผสานรวมเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างราบรื่น ภาพดังกล่าวปรากฏต่อผู้ขับขี่ที่ระยะ 10 เมตร และมีขนาดเท่ากับจอแสดงผลขนาด 87 นิ้ว

    ระบบความบันเทิงเจเนอเรชันใหม่ใช้ระบบ Android Automotive OS ดังนั้น Porsche Communication Management (PCM) ได้รับการยกระดับประสิทธิภาพการประมวลผลไปอีกขั้น เช่น ระบบสั่งงานด้วยเสียง “Hey Porsche” จะสามารถแนะนำเส้นทาง รวมถึงสถานีชาร์จพลังงานสูง ใน Porsche App Centre ใหม่ ผู้โดยสารสามารถเข้าถึงแอพพลิเคชั่นยอดนิยมจากผู้ให้บริการต่างๆ ได้โดยตรง และติดตั้งแอพฯ เหล่านั้นได้และยังเลือกใช้วัสดุที่ถูกนำมาเลือกใช้ในห้องโดยสารเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอีกด้วย

    Porsche

    ขุมพลังไฟฟ้าล้วนเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ permanent magnet synchronous มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่อยู่ใต้ท้องรถขนาด 100 kWh (สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 95 kWh) คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single-Speed transmission แบ่งระดับความแรงถึงสองทางเลือกเริ่มที่รุ่น MACAN 4 ให้กำลังสูงสุด 408 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร ให้ระยะทางสูงสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 613 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนรุ่น MACAN Turbo ให้กำลังสูงสุด 639 แรงม้า แรงบิด 1,130 นิวตันเมตร ให้ระยะทางสูงสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 591 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    ทั้งสองรุ่นสามารถรองรับการชาร์จไฟกระแสตรง DC สูงถึง 270 kW สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ตั้งแต่ 10 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลาประมาณ 21 นาที สำหรับสถานีชาร์จไฟที่ปล่อยกำลังไฟ 400 โวลต์ สวิตช์ควบคุมพลังงานไฟฟ้าแรงสูงในแบตเตอรี่จะช่วยจัดสรรการชาร์จไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยแบ่งแบตเตอรี่ 800 โวลต์ออกเป็น 2 ก้อน แต่ละก้อนจะมีแรงดันไฟฟ้า 400 โวลต์ ทำให้การชาร์จไฟมีประสิทธิภาพสูงเป็นพิเศษด้วยกำลังไฟ 135 kW โดยไม่ต้องใช้เครื่องดันไฟฟ้าแรงสูงเพิ่มเติม ส่วนการชาร์จไฟกระแสสลับ AC ในบ้าน สามารถทำได้ถึง 11 kW

    Porscheในระหว่างการขับขี่ มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถกู้คืนพลังงานได้ถึง 240 kW จากการเบรกหรือถอนคันเร่ง กล่องพลังงานไฟฟ้าแบบบูรณาการ (IPB) ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งการควบคุมน้ำหนักและการประหยัดพื้นที่ IPB นี้เป็นนวัตกรรมใหม่ มีขนาดกะทัดรัด ประกอบไปด้วย 3 ส่วน อันได้แก่ ระบบออนบอร์ดชาร์จของ AC การจัดการความร้อนแรงดันสูง และตัวแปลงกระแสไฟฟ้าของ DC/DC มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวถูกควบคุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าเป็นระบบแบบเรียลไทม์ Porsche Traction Management (ePTM) ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และทำงานเร็วกว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อทั่วไปประมาณ 5 เท่า สามารถตอบสนองต่อการลื่นไถลได้ภายใน 10 มิลลิวินาที

    นอกจากนี้ การกระจายการขับเคลื่อนทุกล้อยังอยู่ภายใต้โหมดการขับขี่ที่เลือกอีกด้วย Porsche Torque Vectoring Plus (PTV Plus) เป็นระบบล็อกเฟืองท้ายที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์บนเพลาล้อหลัง ที่ช่วยในเรื่องการยึดเกาะถนน ความเสถียรในการขับขี่ มีระบบกันสะเทือนแบบถุงลม ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Turbo มาพร้อมระบบควบคุม Porsche Active Suspension Management (PASM) นอกจากนี้ยังสามารถใช้ร่วมกับระบบกันสะเทือนแบบสปริงเหล็กเป็นอุปกรณ์เสริมได้อีกด้วย ปัจจุบัน PASM นี้ยังมีแดมเปอร์พร้อมเทคโนโลยี 2 วาล์วอีกด้วย ด้วยแดมเปอร์ที่ขยายมากขึ้น ส่งผลให้มีความสะดวกสบายและสมรรถนะดียิ่งขึ้น และทำให้สัมผัสได้ถึงความแตกต่างระหว่างโหมดการขับขี่ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ติดตั้งระบบบังคับเลี้ยวเพลาล้อหลังและแดมเปอร์ 2 วาล์ว โดยมีมุมบังคับเลี้ยวสูงสุด 5 องศา ช่วยให้วงเลี้ยวแคบเพียงแค่ 11.1 เมตร ซึ่งเหมาะกับการจราจรในเมือง ขณะเดียวกันก็ให้เสถียรภาพในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมในขณะที่ใช้ความเร็วสูง โดยเป็นผลมาจากพวงมาลัยเพลาหน้าที่มีความสม่ำเสมอและแม่นยำ

    PorschePorsche ประเทศไทย โดยเอเอเอสกรุ๊ป เปิดรับจอง Porsche MACAN เจนใหม่ตั้งแต่วันนี้ นำเข้าจากโรงงานปอร์เช่ไลพ์ซิก จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยช่วงไตรมาสสองของปี 2024 และเริ่มส่งมอบช่วงปลายเดือนสิงหาคมหรือต้นเดือนกันยายน ในราคา 5,390,000 บาท สำหรับรุ่น MACAN 4 และราคา 7,790,000 บาท สำหรบรุ่น MACAN Turbo

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts