ทุกวันนี้ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์โดยเฉพาะกลุ่มรถเอสยูวีกับครอสโอเวอร์ได้รับความนิยมและทุกค่ายเบนเข็มหันมาทำตลาดกันมากขึ้น
จนต้องทิ้งกลุ่มรถยนต์ซีดาน บางค่ายยังคงเก็บไว้แม้จะได้กำไรน้อยนิดแต่บางค่ายถึงขั้นยุติกันเลยทีเดียว แต่ไม่ใช่กับ Honda ล่าสุดทาง โดยนาย Lance Woelfer ผู้ช่วยรองประธานฝ่ายขาย Honda USA ให้ข้อมูลกับทาง Automotive News ว่า
ทางเราได้รับข้อมูลและคำแนะนำจากดีลเลอร์ Honda ทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาว่า อย่าหยุดการผลิตและขายรถเก๋งซีดานทั้ง Honda Civic และ Honda Accord ด้วยเหตุผลที่ว่า ลูกค้าอเมริกาจำนวนมากเริ่มกลับมามองรถยนต์ทรงสามกล่อง หรือ ซีดานกันมากขึ้นแต่บางแบรนด์กลับไม่มีรถกลุ่มนี้ตอบโจทย์ลูกค้า
ถึงคู่แข่งไม่มีแต่เรา Honda มีทางเลือกสำหรับรถซีดานหลากหลายรูปแบบถึงแม้จะเปิดตัว Honda Accord เจเนอเรชันที่ 11 และได้คาดการณ์ว่าในปี 2023 ยอดขายรถซีดานจะกลับมาพุ่งแรงแซงทางโค้งเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับปีกลาย
นอกจากนี้จะมีการนำ Honda Civic e:HEV มาทำตลาดที่สหรัฐอเมริกาทั้งซีดานและแฮทช์แบ็ก เปิดตัวในปี 2024 โดยใช้ขุมพลังเดียวกับสเปกไทยแบบ เบนซิน 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle 143 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 182 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอ/นาที ในภาคเครื่องยนต์
จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวม 184 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 315 นิวตันเมตรที่ 0-2,000 รอบ/นาที และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 72-cell จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT)
พร้อมโหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมด EV Drive Mode โหมด Hybrid Drive Mode และโหมด Engine Drive Mode พร้อมการขับขี่ที่เลือกได้ตามสไตล์ 3 โหมด ได้แก่ ECON Mode, Normal Mode และ Sport Mode
ที่มา Motor 1
