หลังจากเปิดตัวเวอร์ชันปกติไปแล้วสำหรับ Mercedes-Benz GLC เอสยูวีเจเนอเรชันที่ 3 ที่คนไทยชื่นชอบแบรนด์นี้ต่างรอว่าจะมาไทยช่วงไหน
แต่ช่วงระหว่างรอมาไทยนั้น ทาง Mercedes-Benz ต่างประเทศ เปิดตัวอีกเวอร์ชันของตระกูล GLC นั่นคือ Mercedes-Benz GLC Coupe รหัส C254 พื้นฐานหรือนำรุ่น GLC X254 มาตัดส่วนครึ่งหลังออกไปต่อเติมด้วยหลังคารถที่ลาดลงและสปอร์ตกว่าเจนที่แล้ว พร้อมค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานถึง 0.27 Cd ซึ่งต่ำกว่ารุ่น GLC ปกติเพียง 0.30 Cd แถมมีความยาวมากกว่ารุ่น GLC Coupe เจนที่แล้วถึง 31 มม. เป็น 4,763 มม.
นอกนั้นเหมือนกันทั้ง กระจังหน้า diamond radiator grille ประกอบด้วยเส้นเดี่ยวแนวนอน และ ตราสัญลักษณ์ของ Mercedes-Benz ตรงกลาง ไฟหน้า LED กันชนหน้าออกแบบใหม่ ไฟท้าย LED รวมถึงดีไซน์ด้านท้ายที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยโลโก้ดาวสามแฉก ออกแบบใหม่หมด รับกับกันชนหลังติดกรอบป้ายทะเบียน มีลิ้นสปอยเลอร์ในตัวแบบโครเมียมพร้อมท่อไอเสียคู่สองฝั่ง
ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/60 R18 ขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 235/55R19 ในล้อหน้าและ 255/50R19 ในล้อหลัง และใหญ่สุด 20 นิ้ว พร้อมยางหน้า 255/45R20 และยางหลัง 285/40ZR20
ภายในเหมือนกับ Mercedes-Benz GLC ตั้งแต่มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว คอนโซลกลางแบบจอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ OLED 11.9 นิ้ว ระบบความบันเทิง MBUX (Mercedes-Benz User Experience) เชื่อมต่อ Android Auto, Apple CarPlay ไร้สาย และลำโพงคุณภาพจาก Burmester 15 จุด กำลังขับ 710 W เบาะหนังแท้คุณภาพพร้อมระบบอุ่นเบาะ เบาะหลังพับได้แบบ 40:20:40 โดยมีพื้นที่การบรรทุกของ 545 (390)-1,335 ลิตร ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Lights 64 สี และ Head-up display
ขุมพลังนั้นมีหลากหลายทั้งแบบ MHEV-Mild Hybrid, PHEV – Plug In Hybrid ไม่ว่าจะเบนซินเและดีเซลเทอร์โบ เริ่มที่ MHEV ด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร M264 M 204 แรงม้าที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิด 320 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,000 รอบ/นาที ในรุ่น GLC 200 4MATIC ส่วนรุ่น GLC 300 4MATIC รหัสเดียวกันขนาดเดียวกันแต่ได้กำลังมากถึง 258 แรงม้าที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 2,000-3,200 รอบ/นาที
ด้านดีเซลเทอร์โบเป็นขนาด 2.0 ลิตร OM654 M ให้กำลังมากถึง 197 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 440 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที ในรุ่น GLC 220 d 4MATIC และ 269 แรงม้าที่ 4,200 รอบ/นาที แรงบิด 550 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที ในรุ่น GLC 300 d 4MATIC
โดยทุกขนาดจับคู่กับระบบ Mild Hybrid สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ได้ โดยเป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษพร้อม EQ Boost ให้กำลังถึง 23 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร
มากันที่ขุมพลัง PHEV ด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร Plug-In Hybrid รหัส M254 204 แรงม้าที่ 6,100 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูง 320 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,000 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 136 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันได้ความแรงรวม 313 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตรพร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไออนขนาด 31.2 kWh โดยความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้า 140 กม./ชม. วิ่งไกลสุด 119-131 กม. ตามาตรฐาน WLTP ในรุ่น GLC 300 e 4MATIC
ส่วนรุ่น GLC 400 e 4MATIC เป็นเบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร Plug-In Hybrid รหัส M254 252 แรงม้าที่ 5,800 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูง 400 นิวตันเมตรที่ 2,000-3,000 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 136 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันได้ความแรงรวม 381 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตรพร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไออนขนาด 31.2 kWh โดยความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้า 140 กม./ชม. วิ่งไกลสุด 119-131 กม. ตามาตรฐาน WLTP
รุ่นดีเซลเสียบปลั๊กก็มีกับรุ่น GLC 300 de 4MATIC กับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ OM654 2.0 ลิตร 197 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 440 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 136 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันได้ความแรงรวม 335 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตรพร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไออนขนาด 31.2 kWh โดยความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้า 140 กม./ชม. วิ่งไกลสุด 113-130 กม. ตามาตรฐาน WLTP
ทุกขนาดขุมพลังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONICและ Steering-wheel Gearshift Paddles พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC สำหรับรุ่น Plug In Hybrid ด้านการชาร์จช้า AC รองรับสูงสุด 11 kW และชาร์จเร็ว DC รองรับสูงสุด 60 kW ภายใน 30 นาที
แต่ถ้ายังชอบความแรงยังมี Mercedes-AMG GLC Coupe 43 4MATIC มาด้วยที่งานนี้ นำเครื่องใหม่เบนซินเทอร์โบไฟฟ้า ยกชุดจากรุ่น Mercedes-AMG C43 4MATIC มาด้วยกับขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ รหัส M139L 408 แรงม้าที่ 6,750 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 5,000 รอบ/นาที พร้อมกันนี้ติดตั้งถ่านก้อนแล็กสุด Mild Hybrid สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ได้
เป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษ พร้อม EQ Boost 14 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร ไว้ใช้ในยามเร่งแซงต้องการกำลังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด AMG Speedshift MCT 9G แบบคลัตช์เปียก wet multi-disc start-off-clutch (แทนขุมพลังเดิม วี 6 3.0 ลิตร BITURBO M276 390 แรงม้าที่ 6,100 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตรที่ 2,500-5,000 รอบต่อนาที)
สำหรับ Mercedes-Benz GLC Coupe เจนใหม่พร้อมขายยุโรป กรกฎาคมนี้ ส่วนเมืองไทยคงได้พบกันสองโมเดลภายในปีนี้
ที่มา Mercedes-Benz