การแข่งขันรถสกู๊ตเตอร์สุดโลดโผนระหว่าง Marc Márquez แชมป์โลก MotoGP 8 สมัย และ Alex Márquez น้องชายผู้เป็นแชมป์โลก Moto2 โดยทั้งคู่ขับขี่ผ่านเส้นทางวิบากอันเงียบสงบของจังหวัดบุรีรัมย์ ท่ามกลางกิจกรรมท้าทายที่แปลกแหวกแนวก่อนเปิดสนามโมโตจีพี สองพี่น้องต่างดึงเอาทักษะของตนมาขับเคี่ยวกัน เปลี่ยนการแข่งขันให้กลายเป็นการแสดงโชว์ที่เผยให้เห็นทักษะการทรงตัวและศักยภาพในการแข่งขันของพวกเขา
ในการแข่งรถสกู๊ตเตอร์ยกแรก มาร์คและอเล็กซ์ มาร์เกซ เผชิญความท้าทายกับการขนถุงกระสอบบรรจุผ้าไหม 17 ใบ น้ำหนักกว่า 150 กิโลกรัมตั้งเป็นกองสูงกว่า 4 เมตร ฝ่าด่านวกวนต่างๆเพื่อไปสู่เส้นชัย อเล็กซ์เปิดวงเลี้ยวกว้างในรอบสุดท้ายทำให้เกิดการปะทะกันจนพลาดท่า ส่งให้มาร์คเข้าเส้นชัยไปได้ก่อนในการแข่งขันยกแรก
การแข่งขันยกถัดมา สองพี่น้องต้องขนตะกร้าไม้ไผ่กว่า 200 ใบ ซึ่งมีขนาดกองสูงกว่า 7 เมตร มาร์คแซงหน้าไปก่อนแต่กองตะกร้าเกิดขัดกับต้นไม้ข้างทางก่อนเข้าเส้นชัย ทำให้อเล็กซ์แล่นเข้าสู่เส้นชัยได้ในนาทีสุดท้าย
การแข่งขันรถสกู๊ตเตอร์ก่อนการเปิดสนามโมโตจีพีของมาร์คและอเล็กซ์ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้ได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นของไทยเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมมิตรภาพที่สนุกสนานในขณะที่ทั้งสองเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันรถจักรยานยนต์ระดับกรังด์ปรีซ์ที่กำลังจะมีขึ้นที่บุรีรัมย์สุดสัปดาห์นี้
“การขี่สกู๊ตเตอร์ที่บรรทุกของเต็มคันเป็นเรื่องประหลาดสักหน่อย ตอนที่คุณกำลังเลี้ยวแต่ดันไปกระเเทกกับสิ่งกีดขวาง ทำให้สกู๊ตเตอร์เคลื่อนตัวส่ายไปมาหนักมาก ตอนผมเห็นคนขี่สกู๊ตเตอร์ทั้งในกรุงเทพและบุรีรัมย์หรือแม้แต่ตุ๊กตุ๊ก บอกได้เลยว่ามันต้องยากแน่ๆโดยเฉพาะช่วงรถติด ผมรู้สึกทึ่งมากกับทักษะของคนขี่สกู๊ตเตอร์ที่นี่” มาร์ค มาร์เกซกล่าวพร้อมกับหัวเราะ
อเล็กซ์ มาร์เกซ แสดงความรู้สึกที่คล้ายกัน โดยกล่าวว่า “สิ่งที่ผมสนุกที่สุดในครั้งนี้คือการขี่ผ่านด่านกรวยแข่งกับมาร์ค เราปะทะกันบางครั้ง แม้จะควบคุมการขี่ได้ยาก แต่ก็สนุกสุดๆไปเลย”
การแข่งขันเล็กๆ ซึ่งอาจเป็นการทำนายอนาคตล่วงหน้า มีขึ้นในช่วงหลังจากที่มาร์ค มาร์เกซ ประกาศว่าจะเข้าร่วมทีมใหม่ในปีหน้า เป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่ววงการนักแข่ง มาร์คและอเล็กซ์จะผนึกกำลังกันเข้าร่วมทีม Gresini Ducati ในปี 2567 นับเป็นการเปิดฉากเรื่องราวของการร่วมทีมและจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันฉันพี่น้อง
“มันจะเป็นความท้าทายที่ดีมากๆในปีหน้า ที่จะต้องแข่งภายใต้ผู้ผลิตและทีมอื่น โดยเฉพาะเมื่อจะได้ร่วมแข่งกับน้องชายผม” มาร์ค มาร์เกซกล่าว
แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอาชีพนักแข่งของมาร์ค แต่บรรยากาศก็ยังคงคึกคักอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่น่าจะสะท้อนถึงการจัดการแข่งขันจริงในสุดสัปดาห์นี้ มาร์คเตรียมพร้อมที่จะปิดฤดูกาล 2566 ที่เหลือด้วยการบรรลุความสำเร็จ การที่มาร์คกลับมาประเทศไทยอีกครั้งสร้างความตื่นเต้นอย่างท่วมท้น ในขณะที่เขาเองก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้กลับมาพบกับแฟนคลับชาวไทยผู้คลั่งไคล้ในตัวเขาอีกครั้ง
“ผมรู้สึกดีมากๆที่ได้มาเยือนเมืองไทยอีกเพราะผมมีความทรงจำที่ดีมากๆกับที่นี่ ผมชนะแชมป์โลกครั้งสุดท้ายที่บุรีรัมย์ ประเทศไทย เมื่อปี 2562 และผมยังมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับแฟนคลับชาวไทยมาโดยตลอด ผมชอบแฟนคลับชาวไทยมากเพราะพวกเขามีความหลงใหลในการเชียร์มากจริงๆ” มาร์ค มาร์เกซกล่าว
ขอเชิญชวนแฟนคลับเข้าเยี่ยมชม Red Bull Energy Zone สุดพิเศษตลอดช่วงเวลาจัดการแข่งขัน เพื่อดื่มด่ำไปกับบรรยากาศการแข่งขันได้มากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากช่วงเวลามีทแอนด์กรี๊ดสุดพิเศษกับนักบิดของทีมเรดบูลแล้ว ผู้เข้าร่วมยังสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมภาคสนามต่างๆ เพื่อลุ้นรับรางวัลสินค้าที่ระลึกของทีม Red Bull KTM Factory Racing ผู้ทำคะแนนสูงสุดจะได้เข้าร่วมทัวร์สุดพิเศษในโรงรถของทีม Red Bull KTM Factory Racing และจะได้รับการต้อนรับบริเวณพื้นที่รับรองในวันอาทิตย์