หลังจากที่ Mazda ตัดสินใจทำตลาดต่อในเจนถัดไป Mazda CX-5 ทำให้แฟนๆที่ชื่นชอบได้เห็นเจนใหม่ที่หน้าตาดูโฉบเฉี่ยวและมีเสน่ห์เพิ่มขึ้น
ล่าสุดโลกออนไลน์ เผยภาพ Mazda CX-5 สีขาวอยู่บนรถเทลเลอร์ขนส่งรถในลักษณะปิดหน้าปิดท้ายปิดลายล้อที่คาดว่ากำลังส่งไปยังดีลเลอร์ที่มาเลเซียหรืออาจส่งมาขายที่เมืองไทย เป็นไปได้สูงว่านี่คือรุ่นปรับโฉมดีไซน์ใหม่ หล่อใหม่เริ่มที่กระจังหน้าทรง Signature Wing ปีกซ้าย-ขวาของกรอบสั้นลงโดยตัวกรอบกระจังหน้าแบบโครเมียมออกแบบไส้ในของชุดกระจังหน้าใหม่ให้หลากหลายทั้งลายรังผึ้งสีดำตาข่ายแนวนอนและตาข่ายแนวตั้ง ไฟหน้า LED คู่ dual-beam LED พร้อมไฟ DRL LED รูปตัวแอลแนวนอน ตัดไฟตัดหมอกหน้า LED ออกไป ด้านท้ายคงเดิมเปลี่ยนดีไซน์ไฟท้าย LED รูปตัวแอลแนวนอนโคมใหม่ กันชนหลังออกแบบแผงทับทิมให้อยู่ในตำแหน่งสูงขึ้น ท่อไอเสียคู่เอกลักษณ์เด่น กันชนหน้าออกแบบหรูหราภูมิฐาน กันชนหลังและหนาปรับลุคใหม่เสริมคิ้วชายล่างของชุดกันชนตกแต่งสีดำและล้ออัลลอยลายสิบก้านมีทั้งสองลายสองแบบตั้งแต่ขนาด 17 นิ้ว มาแบบสีเงินพร้อมยาง 225/65R17 และขนาด 19 นิ้ว สีเงินเข้มพร้อมยาง 225/55R19
ภายในปรับออปชันเล็กน้อยทั้งช่องเสียบ USB แบบ Type-C เชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สายได้ในชุดจอสัมผัสขนาดใหญ่แบบ Mazda Connect เลือกได้ทั้งแบบ 8.8 และ 10.25 นิ้ว ลายไม้หลายแบบดีไซน์เท่ แผงควบคุมแอร์ ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander ปุ่มปรับกระจกมองข้างพรีเมียมขึ้น กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติแบบไร้กรอบ ระบบชาร์จมือถือไร้สาย ลำโพงคุณภาพ Bose รอบทิศทาง 10 จุด หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ไฟส่องสว่างออกแบบใหม่ในหลายตำแหน่ง เบาะนั่งออกแบบโอบกระชับทุกการขับขี่พร้อมระบบระบายอากาศตำแหน่งเบาะนั่งคู่หน้า Seat Ventilation หุ้มหนังแท้เกรดคุณภาพแบบ Nappa ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางด้านคนขับและ 6 ทิศทางด้านคนนั่ง บันทึกตำแหน่งเบาะฝั่งคนขับ เบาะนั่งหลังตอนที่สองปรับเอนได้และพับได้แบบ 40:20:40 มาตรวัดแบบความเร็วแบบดิจิตอล TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว และ หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า Head Up Display แบบ Windshield Active Driving Display ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนนและเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น
สเปกมาเลเซียกับไทยใช้ 3 ขุมพลังแรงตระกูล SKYACTIV ร่วมกันทั้งเบนซิน SKYACTIV-G Turbo 2.5 ลิตร รหัส PY-VPTS โดยให้กำลังสูงสุด 231 แรงม้าที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 420 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที ดีเซลเทอร์โบ SKYACTIV-D มีระบบเทอร์โบแปรผันแบบ 2 ชั้นในรหัส SH-VPTS ขนาด 2.2 ลิตร 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 450 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที และเบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร รหัส PE-VPS 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 210 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
เฉพาะมาเลเซียกับเบนซิน SKYACTIV-G 2.5 ลิตร รหัส PY-RPS 190 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 252 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาทีทั้งสี่ขุมพลังพัฒนาให้การตอบสนองที่รวดเร็วกว่าทุกรอบความเร็ว ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นโดยทุกขนาดความแรงจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด ให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าในรุ่น 2.0 กับ 2.2 ลิตรและขับเคลื่อนสี่ล้อ i-Activ all-wheel drive เฉพาะรุ่น 2.5 Turbo และ 2.2 Diesel Turbo
พร้อมระบบโหมดการขับขี่ Mazda Intelligent Drive Select (Mi-Drive) เพิ่มโหมด Offroad เข้าไปเพิ่มความเร้าใจลุยได้มั่นใจพร้อมพัฒนาเทคโนโลยี SKYACTIV ปรับปรุงโครงสร้างตัวถัง ระบบกันสะเทือน และปรับปรุงการเก็บเสียงให้เงียบยิ่งขึ้น ความปลอดภัย i-Activsense มาพร้อมระบบที่ช่วยควบคุมความเร็ว พวงมาลัย เพื่อรักษาระยะห่างที่เหมาะสม Cruising & Traffic Support (CTS)
Mazda CX-5 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่สร้างยอดขายขายสะสมทั้งสองเจเนอเรชันรวมทั้งหมด 1,116,107 คัน ลดลง 13.3% และปีที่แล้วทำยอดขายทั่วโลกถึง 365,135 คัน เป็นอันดับ 1 ของค่ายรองลงมาเป็น Mazda 3 ที่ทำได้ 173,619 คัน ถึงแม้ยอดขายเอสยูวีของค่ายจะลดลง 4.4% (ข้อมูลช่วงกลางปี 2023) ถึงแม้เจนที่สองทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2017 และมีการปรับหน้าตาปรับโฉมใหม่ไปเมื่อปี 2021 แต่ทว่ามาเลเซียกับไทยยังไม่มีการปรับโฉมใดๆเปิดตัวรุ่น Model Year กระตุ้นตลาด สำหรับรุ่นปรับโฉมพร้อมเผยเร็วๆนี้ ประกอบที่โรงงาน Inokom plant ที่เมือง Kulim รัฐ Kedah นอกจากประกอบขายมาเลย์แลวยังส่งมาไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชาและพม่า และเมืองไทยมีสิทธิ์ที่จะปรับโฉมเช่นกัน
ที่มาภาพ Pavithren Shanker