หลังจากที่ Honda แนะนำ Honda N-VAN e: ไปก็กลายเป็นรุ่นรถที่ชาวญี่ปุ่นทุกอาชีพต่างสนใจและเตรียมที่จะเป็นเจ้าของเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจเชิงพาณิชย์
ล่าสุด Honda พร้อมประกาศว่าเตรียมขายจริงต้นปี 2024 ช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ด้วยความหล่อไม่ต่างจากรุ่นเครื่องยนต์สันดาปสิ่งที่เปลี่ยนไปนั้นก็คือกระจังหน้าที่เคยมีช่องระบายอากาศกลายเป็นทรงทึบๆสีเข้มๆแทน โดยมีช่องชาร์จด้านหน้าประกบกับไฟหน้าตราเพชรมัลติรีเฟลกเตอร์ ล้อกระทะสีดำขนาด 12 นิ้วพร้อมยางขนาดเล็ก 145/80R12 ประตูสไลด์สองข้างพร้อมดีไซน์แนวนอนสามเส้นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและหลังคารถทรงสูงโล่งโปร่งสะดวกในการบรรทุกของเข้าออกดีขึ้น
ภายในมีออปชันตามความจำเป็นทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสองก้าน คันเกียร์แบบกดปุ่ม Shift By Wire อยู่ในชุดแผงคอนโซล ช่องเสียชาร์จสมาร์ตโฟน เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติในชุดคอนโซลหน้าดีไซน์แนวนอน เอกลักษณ์ที่ชวนอยากเป็นเจ้าของด้วยไม่มีเสา B มาคั่นกลางในฝั่งด้านซ้ายรวมถึงเบาะนั่งด้านหน้าฝั่งคนนั่ง และเบาะหลังตอนที่สองนั้นพับลงได้แบบแนวราบ เหลือเพียงส่วนของเบาะคนขับ พร้อมที่จะบรรทุกได้เต็มรูปแบบมาแบบโทนสีเทาและสีครีม
พร้อม Honda CONNECT สามารถตั้งค่าการชาร์จผ่านสมาร์ทโฟนได้ เช่น การตั้งค่าระบบปรับอากาศปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารก่อนเดินทาง, ตั้งเวลาชาร์จกันค่าไฟสูงกว่า และตั้งค่าปริมาณการชาร์จแบตเตอรี่สูงสุดตั้งแต่ 80-100% ป้องกันการเสื่อมของแบตเตอรี่ในระยะยาว
Honda เคลมว่าวิ่งไกลสุด 210 กิโลเมตรต่อการชารจ์หนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTC แต่สงวนที่จะไม่เผยข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวหรือคู่ ความจุแบตเท่าไหร่ แรงม้าแรงบิดเท่าไหร่ ยังมีโหมด ECON ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศและช่วยขยายระยะทางในการใช้งานมากขึ้น ส่วนการชาร์จนั้นเป็นการชาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6 kW ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง
พร้อมแบตเตอรี่ขนาดบางเป็นพิเศษถูกติดตั้งไว้บริเวณใต้พื้นห้องโดยสารและยังจ่ายไฟให้อุปกรณ์ภายนอกสูงสุด 1,500 วัตต์ ติดตั้งระบบเซอร์โวเบรกแบบไฟฟ้า ช่วยในการชะลอความเร็ว และเบรกนุ่มนวลป้องกันไม่ให้สินค้าได้รับความเสียหายจากการตกกระแทก และความปลอดภัย Honda Sensing ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก Collision Mitigation Braking System (CMBS) เตือนเมื่อการจราจรเคลื่อนที่ Leading vehicle start notification function ช่วยหักหลบคนเดินถนน Pedestrian Accident Reduction Steering
เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation System (RDM) บอกข้อมูลป้ายสัญญาณจราจร Traffic Sign Recognition System (TSR) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist System (LKAS) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam (AHB) ป้องกันเหยียบคันเร่งผิดพลาดเมื่อขณะเดินหน้า Erroneous start suppression function ป้องกันเหยียบคันเร่งผิดพลาดเมื่อขณะถอยหลัง Erroneous rear start suppression function สัญญาณกะระยะการจอดด้านและหลัง Parking sensor system (front/rear) และช่วยยับยั้งการเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงโดยไม่ตั้งใจ Sudden acceleration suppression function
Honda N-VAN e:ขายที่ญี่ปุ่นด้วยกันสามทางเลือกตั้งแต่รุ่น e:L4 มาแบบ 4 ที่นั่ง รุ่น e:FUN แบบ 4 ที่นั่ง และ รุ่น e:L2 มีเพียง 2 ที่นั่ง ทั้งฝั่งคนขับและหลังคนขับเท่านั้น มีสีภายนอกทั้ง สีขาวมุก Platinum White Pearl, สีเหลือง Autumn Yellow Pearl, สีเขียว Botanical Green Pearl, สีเทา Sonic Gray Pearl, สีดำ Nighthawk Black Pearl สีทูโทนทั้ง สีเหลืองหลังคาดำ Autumn Yellow Pearl & Black, สีเขียวหลังคาดำ Botanical Green Pearl & Black และสีเทาหลังคาดำ Sonic Gray Pearl & Black
โดยรุ่นนี้เป็นหนึ่งในสามสิบรุ่นของกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าที่จะเปิดตัวทั่วโลกภายในปี 2030 สอดรับกับนโยบายจะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนด้วยยานยนต์ทางเลือกและกิจกรรมเพื่อองค์กรและส่วนรวมภายในปี 2050
ที่มา Carwatch