น้ำเข้าเครื่องยนต์ หนึ่งปัญหาที่หลายคนมีความเสี่ยงพบเจอมากในช่วงที่ฝนตกและน้ำท่วมขัง หากต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ หลายคนอาจจะกังวลว่าต้องแก้ไขสถานการณ์อย่างไร วันนี้ลองมาดูกันว่าจะรับมือเบื้องต้นได้อย่างไรบ้างกันครับ
ฤดูฝนกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งทำให้คนรักรถหลายคนเป็นกังวลว่าหากเกิดเหตุการณ์ขัดข้อง เช่นต้องฝ่าน้ำท่วม ลุยน้ำท่วมสูง ขึ้นมาจะทำให้เครื่องยนต์เกิดปัญหาหรือไม่ ซึ่งปัญหาหลักที่ต้องเจอก็คือ น้ำเข้าเครื่องยนต์ สาเหตุดังนี้
สำหรับปัญหาน้ำเข้าเครื่องยนต์สามารถเกิดขึ้นได้จาก 2 สาเหตุหลักด้วยกันคือ
- การรั่วจากภายใน คือ การรั่วจากภายใน โดยส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากเครื่องยนต์ที่มีอุณหภูมิร้อนสูงจนทำให้ประเก็นฝาสูบแตกและขาดได้ ส่งผลทำให้น้ำสามารถไหลเข้าไปปะปนกับน้ำมันเครื่องยนต์ หรือในอีกกรณีหนึ่งคือเครื่องยนต์มีความร้อนจนฝาสูบมีอาการโก่งขึ้นและทำให้เกิดช่องว่างที่สามารถทำให้น้ำไหลผ่านเข้าไปได้
หากใครที่ต้องพบเจอกับปัญหานี้ สามารถสังเกตอาการได้ด้วยการหมั่นตรวจเช็กปริมาณน้ำในหม้อน้ำอย่างเป็นประจำ เพื่อดูว่าปริมาณน้ำที่ลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ หากตรวจเช็กดูแล้วว่าต่ำก็ให้เติมน้ำบ่อย ๆ พร้อมกับหาจุดรั่วที่ภายนอก รวมถึงการตรวจเช็กแผ่นวัดน้ำมันเครื่อง หากพบว่าเป็นสีขุ่นพร้อมกับเครื่องยนต์มีอาการเดินเบาสามารถสันนิษฐานได้ว่าอาจมีน้ำรั่วไหลเข้ามายังเครื่องยนต์ ควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถเพื่อถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่ทันที
- น้ำเข้าเครื่องยนต์ จากภายนอก คืออีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้น้ำเข้าเครื่องยนต์จากภายนอก โดยส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากน้ำท่วมขังที่ผู้ขับขี่ขับรถลุยน้ำเข้าไป ซึ่งไม่ว่าจะขับช้าหรือขับเร็วหากเครื่องยนต์กำลังทำงานอยู่แล้วมีน้ำไหลเข้าผ่านท่อดูดอากาศเข้าห้องเผาไหม้จะทำให้เครื่องยนต์ดับในทันที และเมื่อขับรถผ่านช่วงที่น้ำท่วมขังไปแล้วให้ผู้ขับขี่เหยียบเบรกซ้ำ ๆ เพื่อเป็นการไล่น้ำออกจากผ้าเบรก หลังจากนั้นให้หาพื้นที่ว่างเพื่อทำการจอดรถแล้วเปิดฝากระโปรงเพื่อเช็กไส้กรองอากาศและไล่ความชื้น หากพบว่าไส้กรองอากาศเปียกแสดงว่าน้ำได้เข้าเครื่องยนต์เรียบร้อยแล้ว
วิธีแก้ไขปัญหา หากใครที่ต้องพบเจอกับอาการเหล่านี้ ทางที่ดีที่สุดคือการนำรถยนต์เข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมรถในทันที เพื่อให้ช่างผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางได้ทำการตรวจเช็กอย่างละเอียด หากพบว่าน้ำเข้าเครื่องยนต์อย่างหนักอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องทำการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ยกคันในทันที
ควรหลีกเลี่ยงการขับรถผ่านพื้นที่น้ำท่วมขัง จากเหตุการณ์ฝนตกหนักมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา ในกรุงเทพมหานครนับว่ามีพื้นที่ที่น้ำท่วมขังอยู่หลายจุด ผู้ที่ขับรถยนต์หากเลี่ยงได้ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางเหล่านั้น หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือหันมาเลือกใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะแทนไปสักพักใหญ่ ๆ แต่ถ้าหากว่ามีความจำเป็นที่จะต้องขับรถลุยน้ำท่วมออกมาจริง ๆ ควรศึกษาและทำความเข้าใจกับวิธีการขับรถลุยน้ำท่วมสูงให้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องหยุดรถกลางถนนบริเวณที่มีน้ำท่วมสูงอาจมีรถที่วิ่งสวนมาแล้วพาคลื่นของน้ำซัดเข้ามาที่เครื่องยนต์ได้ ซึ่งอาจทำให้น้ำไหลเข้ามาโดนเครื่องยนต์และรถเกิดดับกลางอากาศได้ในทันที
หลังจากการขับรถยนต์ลุยน้ำ ผู้ขับขี่ควรหมั่นตรวจเช็กความผิดปกติภายในเครื่องยนต์ ตรวจสอบระบบเบรกและน้ำมันเบรกทั้ง 4 ล้อ เพราะว่าอาจจะมีน้ำเข้าไปเจือปนจนสามารถทำให้เกิดระบบขัดข้องขึ้นได้ ซึ่งส่งผลอันตรายต่อการขับขี่เป็นอย่างมาก แต่ท้ายที่สุดแล้วหากผู้ขับขี่ต้องการความมั่นใจ ควรนำรถเข้าตรวจเช็กกับศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยตรวจสอบให้โดยเฉพาะก็จะเป็นวิธีที่ให้อุ่นใจและรถเกิดความปลอดภัยได้มากที่สุด
CR : Thairath