More

    Toyota Yaris Cross สายลุยเล็กพลังไฮบริดขายอังกฤษเริ่ม 1.1 ล้านบาท

    หลังจากแนะนำรุ่นปรับปรุงใหม่หรือ MY2024 สำหรับ Toyota Yaris Cross เวอร์ชัน TNGA สำหรับตลาดยุโรปก็ได้รับการตอบรับอย่างดีและพร้อมที่จะเปิดขาย

    ประเดิมที่แรกที่อังกฤษด้วยภายนอก

    Toyota

    สไตล์เดิมด้วยชุดเสริมกันชนหน้าและหลังแบบสีเงินด้าน ราวหลังคาดีไซน์เรียบเนียน พร้อมไฟหน้า LED และไฟ DRL แบบ LED เข้ามาเสริมความสว่างด้วยไฟตัดหมอกหน้า LED และไฟท้าย LED แนวยาว ซ้าย-ขวา ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วทูโทนปัดเงาห้าก้านคู่ พร้อมยาง 215/50R18 และขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 205/65R16 พร้อมแนะนำรุ่นย่อยใหม่ Premiere Edition ด้วยสีเขียวอ่อน Urban Khaki หลังคาดำทูโทน ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้วทูโทนปัดเงาห้าก้านคู่ ยังมีสีขาวมุก Platinum Pearl White สีบรอนซ์เงิน Silver Metallic

    ด้านรุ่น GR Sport คงเดิมตั้งแต่กระจังหน้าสไตล์รังผึ้งสีดำเข้มติดตรา GR พิเศษตรงที่ขอบกระจังหน้ารังผึ้งทาด้วยสีเงิน ด้านท้ายก็ติดโลโก้ GR ด้วยเช่นกัน ชุดกันชนหน้า-หลังออกแบบพิเศษด้วยช่องระบายอากาศสไตล์รังผึ้งขอบสีเงิน รวมถึงมีลิ้นสปอยเลอร์ใต้กันชนหลัง แถมมีไฟตัดหมอกหน้า LED เข้ามาด้วย ล้ออัลลอยทูโทนสีดำเงา 10 ก้าน 18 นิ้ว พร้อมยางจากค่าย Goodyear

    ภายใน

    Toyota

    ตกแต่งด้วยโทนสีดำเข้มเดินลวดลายใหม่ทั้งแผงคอนโซลหน้าและแผงประตูพร้อมมาตรวัดดิจิทัลดีไซน์ใหม่ 12.3 นิ้ว มีขนาด 7 นิ้วในรุ่นเริ่มต้น จอสัมผัสระบบความบันเทิงใหม่ 10.5 นิ้วดีไซน์ใหม่ใช้งานง่ายตอบสนองฉับไวพร้อมระบบนำทางบนคลาวด์ สั่งงานด้วยเสียง รองรับ Apple CarPlay ไร้สายและ Android Auto การอัพเดตแบบ over-the-air และมีขนาด 9 นิ้วในรุ่นเริ่มต้น พร้อม TOYOTA SMART CONNECT เชื่อมต่อตัวรถผ่านมือถือพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง กระจกแต่งหน้าแบบมีไฟส่องสว่าง มือจับด้านหลัง 2 ข้าง และที่วางแขนแบบนุ่มสำหรับคอนโซลกลาง จอแสดงข้อมูลการขับขี่ Head-Up Display พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน และมีพื้นที่สัมภาระท้าย 390 ลิตรพร้อมเบาะหลังพับได้แบบ 60/40

    รุ่น GR Sport เพิ่มความเร้าใจด้วยการตกแต่งโทนสีดำเข้ม เบาะนั่งทรงสปอร์ตหุ้มกึ่งหนังแท้ดำเดินด้ายแดง ปักโลโก้ GR บนหมอนรองศีรษะ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน สามก้าน เจาะรูหุ้มหนังปักโลโก้ GR หัวเกียร์อัตโนมัติจับง่ายกระชับมือหุ้มด้วยวัสดุหนัง ชุดแป้นคันเร่งและแป้นเบรกตกแต่งด้วยสีเงินอะลูมิเนียม และกุญแจรีโมทปักโลโก้ GR

    ขุมพลัง

    Toyota

    เร้าใจทุกการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Dynamic Force Hybrid รหัส M15A-FXE ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 92 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 120 นิวตันเมตรที่ 3,600-4,800 รอบต่อนาที แต่มีการพัฒนากำลังให้แรงขึ้นกว่าเดิมจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า Toyota Hybrid System II (THS II) คู่หน้าแบบ 1NM 80 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร กับ 1MM 5.3 แรงม้า แรงบิด 52 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ Lithium-ion 4.3 Ah ให้กำลัง 116 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร ในรุ่น Hybrid 115

    รุ่นใหม่ Hybrid 130 พื้นฐานเครื่องเดียวกัน แรงม้า แรงบิดในภาคเครื่องยนต์เท่ากัน มอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่เท่ากัน แต่ให้กำลังรวมแรงขึ้น 131 แรงม้า แรงบิด 185 นิวตันเมตร สงวนในรุ่นเกรดสูง GR Sport และ Premiere Edition จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT เลือกได้ทั้งขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four

    ช่วงล่าง

    Toyotaพัฒนาใหม่โดยเพิ่มแดมเปอร์ที่แท่นยึดเครื่องด้านซ้าย พัฒนาท่อไอดีใหม่ ออกแบบแผ่นกันความร้อนเพิ่มอีกชั้นด้วยผ้าสักหลาดในชุดแผ่นกันท่อไอเสียของชุดฝาครอบท่อไอเสีย จากพื้นฐาน TNGA-B (Toyota New Global Architecture, B-Segment) platform รุ่น GR Sport ช่วงล่างเน้นการขับขี่ที่เร้าใจเฉียบคมมากขึ้นด้วยปรับตัวรถให้เตี้ยลง 10 มิลลิเมตร ปรับช่วงล่างในส่วนสปริงและโช้คอัพ ติดตั้งจุดค้ำตัวรถถึง 3 จุด ที่บริเวณกลางตัวถัง 2 จุด และด้านหลัง 1 จุด และดิสก์เบรก 4 ล้อ พ่นสีแดงสุดร้อนแรงพร้อมโลโก้ GR ที่ชุดคาลิปเปอร์เบรกคู่หน้า

    ปรับปรุงการเก็บเสียงให้เงียบยิ่งขึ้นตลอดการเดินทางด้วยการเพิ่มแผ่นซับเสียงให้หนาปรับในส่วนท่อเก็บเสียงภายในแผงคอนโซลหน้าหนาขึ้นสามชั้นจากเดิมชั้นเดียว กระจกบังลมหน้า กระจกประตูคู่หน้าออกแบบวัสดุให้หนาขึ้นลดเสียงลมประทะเข้ามาในห้องโดยสาร

    ความปลอดภัยมาแบบจัดเต็ม

    Toyota Safety Sense ปรับปรุงใหม่ในส่วนกล้องและเรดาห์ใหม่สามารถสแกนตรวจจับวัตถุได้กว้างกว่าเดิมส่งผลให้ระบบช่วยเหลือการขับขี่ทำงานแม่นยำขึ้นพร้อมฟังก์ชันต่างๆเช่นระบบ

    • เตือนก่อนการชน Pre-Collision System ตรวจจับรถจักรยานและยานพาหนะ เพิ่มฟังก์ชันยานพาหนะที่กำลังจะมาตรงหน้า Oncoming vehicle กับ เพิ่มฟังก์ชันยานพาหนะที่กำลังจะข้ามมา และเพิ่มตรวจจับรถจักรยานยนต์
    • ล็อกความเร็วแปรผันแบบไดนามิก Dynamic Radar Cruise Control (DRCC) ช่วยรักษาตำแหน่งรถในช่องทาง Lane Trace Assist (LTA) เพิ่มฟังก์ชัน Offset driving path
    • จำกัดความเร็ว Speed limiter เพิ่มฟังก์ชัน Co-operation with RSA
    • เพิ่มช่วยหยุดรถฉุกเฉินอัตโนมัติหากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนอง Emergency Driving Stop System (EDSS)
    • เพิ่มปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ Adaptive High-beam System (AHS)
    • เพิ่มช่วยลดความเร็วอย่างนุ่มนวลเมื่อผู้ขับขี่ปล่อยคันเร่งขณะตัวรถกำลังเคลื่อนที่เข้าหารถคันหน้าหรือก่อนเข้าโค้ง Proactive Driving Assist (PDA)
    • อ่านป้ายจราจร Road Sign Assist (RSA)
    • เตือนออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ Lane Departure Alert (LDA) with Steering Assist
    • เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)​
    • ช่วยเบรกในระยะประชิดท้ังด้านหน้าและหลังตัวรถ Parking Support Brake (PKSB)
    • หน่วงพวงมาลัยโดยอัตโนมัติ พร้อมแจ้งเตือนและลดความเร็ว Emergency Steering Assist (ESA) and Intersection Turn Assistance
    • แจ้งเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Monitor
    • แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert
    • ป้องกันการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง Safe Exit Assist
    • แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะเดินหน้า Lane Change Assist
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ Traffic Jam Assist
    • แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะเดินหน้า Front Cross Traffic Alert
    • เซนเซอร์ช่วยจอดหน้าและหลัง Front and Rear Parking Assist
    • ถุงลมนิรภัย 8 จุด รอบคัน

    ToyotaToyota Yaris Cross MY2024 เปิดขายแล้วที่อังกฤษทั้งหมด 7 รุ่นทั้งรุ่น Icon FWD, Design FWD, Excel FWD กับ AWD, GR Sport FWD และรุ่นใหม่ Premiere Edition FWD กับ AWD ในราคาเริ่มต้น £25,530-£34,885 หรือราว 1,195,000-1,635,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย

    ที่มา Toyota UK

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts