ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เป็นประเทศรายล่าสุดที่เตรียมเปิดตัวกระบะรุ่นแรกของค่ายอย่าง BYD SHARK ด้วยพลังปลั๊กอินไฮบริดBYD SHARK ด้วยหน้าตาแทบไม่ต่างกันไม่ว่าคันนี้จะพบเจอที่จีนหรือออเสตรเลียด้วยด้วยดีไซน์ภายนอกดุแกร่งเริ่มที่กระจังหน้าพร้อมตรา BYD ตัวบิ๊กล้อมกรอบด้วยไฟหน้าแนวตั้ง Dual LED ไฟหน้า DRL แบบ LED รูปตัว C บึกบึนกับชุดกับชนหน้าดีไซน์ลงตัวกับชุดกระจังหน้าสง่าด้วยหลังคารถแบบลอยตัวติดตั้งราวหลังคาและซันรูฟขนาดใหญ่
ด้านข้างเด่นด้วย บันไดข้างดีไซน์กลมกลืนกับคิ้วขายล่างประตู กระบะท้ายดุดันด้วยไฟท้าย LED แนวตั้งลากยาวแนวนอนในชุดกระบะท้าย กันชนหลังดีไซน์กลมกลืนกับตัวถังรถ คิ้วขอบล้อทรงเหลี่ยมกับล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/65R18
สร้างจากแพลต์ฟอร์ม DMO super hybrid off-road platform สำหรับรถยนต์แนวลุยติดตั้งขุมพลังเสียบปลั๊กบนพื้นฐานแชสซีส์ขั้นบันไดหรือ ladder-frame architecture
- ความยาว 5,457 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,971 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,925 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 3,260 มิลลิเมตร
- ความสูงจากใต้ท้องรถ 210 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,665 กิโลกรัม
ภายในมีออปชันมากมายทั้งคอนโซลหน้าดีไซน์แกร่งหุ้มหนังสัมผัส พวงมาลัยมัลติฟังกชนสามก้านยกมาจาก Leopard 5 จอแสดงผลบนคอนโซลหน้า Head Up Display ขนาด 12 นิ้ว จอมาตรวัดดิจิทัลแบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.8 นิ้วในชุดแผงคอนโซลหน้า รองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Apple CarPlay กับ Android Auto
พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง “Hi BYD” Karaoke แอปพลิเคชันร้องคาราโอเกะ บนรถได้ กับลำโพง 8 จุด มีช่องเสียบ USB ทั้ง Type A และ Type C ช่องแอร์คู่ใต้จอสัมผัสคล้ายกับ BYD Song L
เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมระบบฟอกอากาศประจุลบพร้อมกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ถึงระดับ CN95 คอนโซลเกียร์มาพร้อมหัวเกียร์สั้นจับกระชับ พร้อมที่ชาร์จมือถือไร้สายกำลัง 50W
เบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold เบานั่งสบาย 5 ที่นั่ง และระบบกุญแจ NFC ทำงานควบคู่กับ กุญแจแบบคีย์การ์ด พร้อมระบบ Keyless Start
แรงและประหยัดด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ Plug In Hybrid ขนาด 1.5 ลิตร รหัส BYD476ZQF พ่วงแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ LFP ที่มีความจุ 29.58 kW มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ Permanent magnet synchronous motor เมื่อทำงานร่วมกันให้ความแรงสูงสุด 430 แรงม้า
โดยมอเตอร์หน้าให้กำลัง 231 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร และมอเตอร์หลัง 204 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ชาร์จหนึ่งครั้งและน้ำมัน 1 ถังวิ่งไกลกว่า 840 กิโลเมตร และชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วนถึง 100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC โดยมากกว่า Ford Ranger PHEV ซึ่งวิ่งได้ 45 กิโลเมตร (WLTP) ให้ความประหยัดน้ำมันถึง 13.33 กิโลเมตรต่อลิตร และประหยัดรวม 65.10 กิโลเมตรต่อลิตร มีความสามารถในการลากจูงสูงสุด 2,500 กิโลกรัม ความสามารถในการบรรทุก 835 กิโลกรัม และใส่ของด้านท้ายจุถึง 1,450 ลิตร
ชุดแบตเตอรี่จะอยู่ในส่วนกลางของแชสซีส์สำหรับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อควบคุมด้วยไฟฟ้าจะตอบสนองเร็วขึ้นกว่าเดิม 100 เท่า ชาร์จเร็วกระแสตรง DC 30-80% รองรับกำลังชาร์จสูงสุด 40 kW ใช้เวลาเพียง 20 นาที ชาร์จกระแสสลับ AC ได้ ใช้หัวชาร์จแบบ Type 2/CCS Combo
มีระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) เทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ และกล้องมองภาพรอบคัน 540 องศา
BYD SHARK หวังท้าชนเต็มรูปแบบกับสามตัวตึงของวงการกระบะตันครึ่งที่ทั่วโลกให้การยอมรับทั้ง ISUZU D-MAX Toyota Hilux และ Ford Ranger เตรียมเปิดตัวที่ออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ เร็วๆนี้ คาดว่ากันยายนนี้ได้พบกัน