ต้อนรับงาน Motor Expo 2024 อย่างยิ่งใหญ่ KIA Sales ประเทศไทยเปิดทางเลือกใหม่แนะนำรุ่นย่อยใหม่ของ KIA EV5 ด้วย KIA EV5 GT-Line AWD
KIA EV5 GT-Line AWD อัปเกรดดีไซน์สปอร์ตด้วยการผสมผสานความแตกต่างตามปรัชญาการออกแบบ “Opposites United”
ภายนอกแต่งแตกต่างจากรุ่น Earth Exclusive AWD เริ่มที่กระจังหน้า-กันชนหลัง ดีไซน์สปอร์ตตัดคิ้วเสริมกันชนหน้าแบบ GT-Line ติดตั้งไฟเรืองแสงบริเวณกระจังหน้าตรงกลาง (Front Center Light) ในชุดกระจังหน้าดีไซน์เอกลักษณ์แบบหน้าเสือหรือ Digital Tiger Face ทรงทึบ
รับกับคิ้วขอบกระจังหน้าในรูปแบบแถบไฟ LED รูปตัวแอล ขอบกระจกส่วนบนตกแต่งด้วยสีดำเงาและล้ออัลลอยลวดลายพิเศษขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 255/45 R20
ออปชันเดิมทั้งไฟหน้า LED 3 จุดซ่อนอยู่ข้างใน พาดยาวใต้โลโก้ KIA กับไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED รับกับกันชนหน้าดีไซน์เล่นระดับติดตั้งคิ้วใต้กันชนหน้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ราวหลังคาเนียนเรียบกับหลังคารถ เสา A ไปจนถึงเสา C ตกแต่งด้วยสีดำและเสา D ขนาดใหญ่ทาด้วยสีเดียวกับตัวรถ
ไฟท้าย LED แนวยาวเรียวทรงรูปตัวซี กันชนหลังลงตัวเสริมคิ้วสีเงินออกแนวบึกบึน สปอยเลอร์บนกระจกหลังดีไซน์ดุดัน เสาอากาศครีบฉลาม ราวหลังคาฝาท้ายเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้าซันรูฟแบบ Panoramic บริเวณด้านหน้าและด้านหลัง
ซุ้มล้อและคิ้วชายล่างประตูตกแต่งสีดำที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนแบบ Flush type ทำงานอัตโนมัติตัวรถสร้างจากพื้นฐาน Electric Global Modular Platform (E-GMP) ตัวรถย่อลงจากเพื่อนร่วมค่ายอย่าง KIA EV9 ตั้งแต่
- ความยาว 4,615 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,875 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,715 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 166 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,267 กิโลกรัม
ภายในพิเศษกว่ารุ่นอื่นๆของ EV5 ด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน หุ้มหนังสีทูโทนขาวดำ เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์ BIO PU ทูโทนสีขาวดำและแป้นคันเร่งกับเบรกตกแต่งแบบอลูมิเนียมสีเงิน
พร้อมออปชันเดิมทั้งคอนโซลหน้าดีไซน์แนวนอนพร้อมจอคู่ขนาดใหญ่แบบลอยตัวที่มีทั้งมาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้วและจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay, Android Auto ไร้สาย อัปเดทซอฟต์แวร์แบบ OTA พร้อม KIA Connect ระบบนำทางและตรวจสอบสถานะรถให้ข้อมูลและเนื้อหาที่ครอบคลุมแก่ผู้ขับขี่เพื่อสร้างประสบการณ์แบบอิมเมอร์ซีฟที่เหนือชั้นด้วยเมนูคำสั่งที่ไม่ซับซ้อนช่วยให้สามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆที่เกี่ยวกับ EV ได้ง่ายยิ่งขึ้น
เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา 2 โซนพร้อมช่องระบบปรับอากาศสําหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 จอแสดงผลสำหรับระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารขนาด 5 นิ้ว สามารถสั่งสตาร์ทรถในระยะไกลได้ Remote Smart Parking เบรกมือไฟฟ้าพร้อมปุ่ม Auto Hold ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)
ไฟเรืองแสง Ambient Light ภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์คู่หน้าปรับไฟฟ้า มาพร้อมลำโพง Harman Kardon™ รอบคัน 8 จุด กับ ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้า (HUD) ไฟเรืองแสง Ambient Light 64 สี
เบาะนั่งผู้ขับแบบ Relaxation ปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชันนวดหลังและอุ่นเบาะมีฟังก์ชันจดจำตำแหน่งผู้ขับระบายอากาศและทําความอุ่นเบาะนั่งคู่หน้า โต๊ะอเนกประสงค์แบบพับได้บริเวณหลังเบาะผู้โดยสารและลิ้นชักอเนกประสงค์พร้อมฟังก์ชันปรับอุณหภูมิ 5-55 องศาเซลเซียส
มาพร้อมมาพร้อมแผงปิดสัมภาระอเนกประสงค์ที่สามารถปรับตั้งให้กลายเป็นโต๊ะทานข้าวสำหรับการรับประทานอาหารของสมาชิกในครอบครัวได้ทั้งแบบในรถและแบบเอาท์ดอร์ เบาะนั่งตอนที่ 2 นั่งสบายพับได้แบบ 60/40 พร้อมพื้นที่สัมภาระท้ายจุของได้จุใจมีช่องเก็บของใต้พื้นตัวรถ
ขุมพลังไฟฟ้ามาพร้อมความแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนด้วยความจุแบตเตอรี่ 88.1 kWh ให้กำลังมากสุด 308 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร
วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จลดลงจาก 620 กิโลเมตรมาเป็น 555 กิโลเมตร (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพิ่มจากเดิม 6.1 วินาที มาเป็น 6.3 วินาที ให้ความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ชาร์จมีทั้งแบบกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 141 kW ชาร์จเร็ว 10-80% ภายใน 38 นาที ส่วนการชาร์จกระแสสลับ AC ชาร์จช้ารองรับกำลังไฟในการชาร์จ 7 kW 10-100% ภายใน 8.10 ชั่วโมง โดยหัวชาร์จแบบ CCS Type 2 และ AC แบบ Type 2
ปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้หลากหลายทั้งแบบ Normal Mode / ECO Mode / Sport Mode และ Smart Mode ช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความสปอร์ตในการขับขี่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 1 speed Reduction Gear พร้อมระบบ i-Pedal – One Pedal Driving Function ยังชาร์จ V2L สามารถต่อกระแสไฟ จากรถยนต์ไปพ่วงใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆได้
ความปลอดภัยมีครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย DRIVE WiSE เพิ่มเติมทั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) อาทิ
- ควบคุมความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติ Smart Cruise Control with Stop & Go
- ช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (Lane Following Assist และ Lane Keeping Assist)
- ป้องกันการชนด้านหน้าพร้อมตรวจจับรถยนต์,คน, จักรยานพร้อม Junction Assist (Forward Collision Avoidance Assist)
- ช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Collision Avoidance Assist)
- แสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind-Spot View Monitor (BVM)
- ช่วยเหลือเพื่อความปลอดภัยขณะลงจากรถ (Safe Exit Assist)
- แจ้งเตือนและหลีกลี่ยงการชนขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Collision Avoidance (RCCA)
ความปลอดภัยพื้นฐานด้วยเบรก ABS+EBD พร้อมระบบ Multi-Collision Brake (MCB), ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC), เซนเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, ช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (LFA และ LKA) ป้องกันการชนด้านหน้า (FCAA) พร้อม Junction Assist แจ้งเตือนมีผู้โดยสารอยู่ด้านหลัง (Rear Seat Alert)
ระบบแสดงภาพรอบทิศทาง Surround View Monitor (SVM) เซนเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดด้านหน้าด้านข้างและด้านหลัง (Parking Distance Warning Front, Side and Rear) สวิตช์ควบคุมเด็กเปิดประตูหลังแบบไฟฟ้า
KIA EV5 GT-Line AWD ประกอบที่เมืองเหยียนเฉิงประเทศจีน เปิดราคาปกติ 1,899,000 บาทและมาจำนวนจำกัดเพียง 80 คัน พิเศษสำหรับผู้ที่จองและออกรถภายในสิ้นปี 2024 จะมาในราคาพิเศษเพียง 1,849,000 บาท
โชว์หล่อตั้งแต่ 15 พฤศจิกายนที่โชว์รูม KIA 7 สาขา ดังนี้สาขารามอินทรา สาขาบางนา สาขาพระราม 2 สาขารังสิต สาขารัชดาฯ-ลาดพร้าว สาขาศรีนครินทร์ และสาขาพัทยา โดยมีสีภายนอกถึง 2 สีทั้ง
- สีขาวหลังคาดำ Snow White Pearl
- สีเบจหลังคาดำ Ivory Silver