หลังจากแนะนำแบรนด์ลูกน้องใหม่ในเครือ NIO อย่าง Firefly ประเดิมรุ่นแรกกับรถทรงกล่อง 5 ประตูในเมืองจีน
ล่าสุดนายใหญ่ของค่าย NIO อย่าง William Li ซีอีโอกล่าวว่าเตรียมนำแบรนด์ Firefly โกอินเตอร์สู่ตลาดทั่วโลกประเดิมด้วยกลุ่มประเทศยุโรป
โดยรถคันนี้ทีมงานออกแบบชาวยุโรปในเมืองมิวนิก เยอรมนี นำโดย Kris Tomasson อดีตพนักงาน BMW ออกแบบให้ภายนอกเด่นด้วยไฟหน้า LED วงกลมสามดวงพร้อมกระจังหน้าสีดำ มีฝากระโปรงหน้าสั้นและเสา C กว้างที่เปลี่ยนเป็นหลังคาได้อย่างลงตัว รัศมีวงเลี้ยวอยู่ที่ 4.7 เมตร ซึ่งเหมาะสำหรับถนนแคบๆ นอกจากนี้ยังรองรับการจอดรถในทุกสถานการณ์
ภายในมีพื้นที่เก็บสัมภาระใต้ฝากระโปรงหน้าถึง 92 ลิตร โดยความจุด้านท้ายสูงสุด 1,250 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง โดยยังไม่เผยรายละเอียดทั้งความจุแบตเตอรี่ แรงม้า แรงบิด และระยะทางวิ่งไกลต่อการชาร์จแต่เคลมว่าสามารถสลับเปลี่ยนแบตได้
ด้านความปลอดภัยยังมีถุงลมนิรภัย 9 จุดรอบคัน ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS และจอดรถอัตโนมัติ
ด้วยโครงสร้างตัวถังทำจากเหล็กกล้าแรงดึงสูง 83.4% ส่งผลให้มีความแข็งแรงต่อแรงบิดสูงถึง 35,700 นิวตันเมตรต่อองศา ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดตามข้อมูลของ NIO โดยได้ความปลอดภัยระดับ 5 ดาวตามมาตรฐาน C-NCAP 2024
Firefly คือชื่อแบรนด์และชื่อรุ่นคันแรกของค่ายวางตำแหน่งเป็นแบรนด์ลูกที่ราคาถูกที่สุดของ NIO แม้อุปสรรคในการทำตลาดด้วยชุดแบตเตอรี่ที่มีขนาดเล็กว่าเพื่อนร่วมชายคาอย่าง NIO และ ONVO ทำให้ Firefly ไม่สามารถใช้เครือข่ายสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ NIO และยังไม่มีแผนที่จะสร้างสถานีสับเปลี่ยนแบตสำหรับ Firefly
น้องหิ่งห้อยเครือ NIO ตั้งใจมาชนเต็มๆกับน้องโลมา BYD Dolphin ZEEKR X LYNK & CO 02 รวมถึงคู่แข่งต่างชาติอย่าง Volkswagen ID.3, MINI และ Smart #1 มาในร่างแฮทช์แบ็กเล็กพลังไฟฟ้าล้วนที่มุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าอายุน้อย ตอนนี้เปิดรับจองสิทธิ์หรือ Pre-Sales ในราคา 148,800 YUAN หรือราว 699,000 บาท
เตรียมเปิดตัวที่จีนที่งาน Guangzhou Auto Show ช่วงเดือนเมษายนปี 2025 และยังมีแผนเปิดตลาดต่างประเทศเริ่มที่กลุ่มประเทศยุโรปเปิดตัวช่วงกลางปีหน้าคาดเป็นช่วงเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายนและจะทยอยเปิดตัวในกลุ่มละตินอเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลาดอื่นๆ ตามเป้าหมายที่จะเข้าสู่ตลาด 25 ประเทศภายในปี 2025 อาจรวมถึงเมืองไทย
ที่มา CarNewsChina